แต่ตอนนี้เกาหยุนนั้นกำลังบาดเจ็บหนัก ทั่วร่างเต็มไปด้วยแผลฉกรรจ์ ทำให้พลังการต่อสู้ของเขาตกลงอย่างมาก มากจนเจิ่งชีสามารถรับมือเขาได้สบายๆ
เจิ่งชีเข้าโจมตีอย่างดุดัน แต่ละกระบวนท่าที่ปล่อยออกมาไม่เคยเล็งที่อื่นนอกเสียจากจุดตาย
เกาหยุนนั้นเทียบกับเจิ่งชีไม่ได้เลยในตอนนี้ เขาถูกผลักดันกลับมาอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อดาราสวรรค์ได้เห็นแบบนั้นเขาก็ร้องตะโกนสั่งขึ้น “ไปสังหารเย่หยวนให้ข้า!”
เพราะกองกำลังทั้งสองกองนี้จะสู้ศึกต่อเนื่องขนาดนี้ได้อย่างไรไหว?
แม้ทางฝั่งเผ่าปีศาจบวกกับเมืองจักรพรรดิยอดสันติจะมีจำนวนกำลังที่มากกว่าอีกฝ่าย แต่ทางเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ก็ได้เปรียบในด้านความพร้อมของกำลังที่ยังไม่ต้องสู้อะไรกับใคร
ด้วยสภาพที่สมบูรณ์พร้อมขนาดนั้น แน่นอนว่าการจัดการทหารที่เพิ่งจบศึกมาใหม่ๆ แบบนี้มันไม่ใช่เรื่องยากเย็นเลย
เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นมีกำลังคนมากมายพร้อมกับกำลังเสริมของเมืองจักรพรรดิธารนิรันดร์ที่มีจำนวนมาก มันจึงทำให้ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายสามารถรับมือกันได้อย่างไม่มีฝ่ายไหนเสียเปรียบได้เปรียบ
แต่ทว่าสุดท้ายฝ่ายเย่หยวนก็ยังเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบด้านปริมาณ ทำให้มียอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าห้าคนหลุดเข้ามาถึงตัวเย่หยวนจนได้
คนทั้งห้านั้นล้อมเย่หยวนไว้ตรงกลาง พวกเขาใช้สายตาเย็นชาจ้องมองเหยื่อที่ไม่มีทางหนีรอดอย่างเย่หยวนตรงหน้า
ผู้นำกองกำลังมาได้กล่าวขึ้น “บรรพกาลราตรี คราก่อนเจ้ามีโถงโลหิตมรณะคอยคุ้มกะลาหัวหรอกนะ ข้าถึงไม่สามารถแตะต้องตัวเจ้าได้ แต่วันนี้เห็นทีชะตาเจ้าคงขาดเสียแล้ว!”
เย่หยวนหันไปมองและถามขึ้น “เรารู้จักกันด้วยรึ?”
ก่อนที่อีกฝ่ายจะตอบมาด้วยเสียงเย็นเหยียบ “เจ้าไม่รู้จักข้า แต่เจ้าสังหารเจ้าชายที่ข้ารักไป วันนี้แหละข้าจะสะสางบัญชีแค้นนั้นเอง!”
เมื่อเย่หยวนได้ยินดังนั้นเขาก็นึกออกในทันที
ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเป็นพ่อของไคซิน เจ้าเมืองหลวงคาโปนนามไคหลง!
“หึหึ ชีวิตข้ามันอยู่ตรงนี้แล้วไง เจ้ามีปัญญาก็เข้ามาเอาไปสิ” เย่หยวนตอบกลับไปอย่างไม่คิดจะใส่ใจ
ตอนนี้เกาหยุนและดาราสวรรค์ต่อสู้ด้วยกัน พวกเขาทั้งคู่จึงจะพอรับมือกับเจิ่งชีได้บ้าง
เกาหยุนที่เห็นภาพของเย่หยวนจากด้านข้างกล่าวขึ้นมาอย่างดีอกดีใจ
เพราะตอนนี้มียอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาวถึงห้า คนกำลังรุมล้อมเด็กหนุ่มอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าแค่คนเดียว ต่อให้เขาใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติได้เก่งกาจแค่ไหน มันก็ไม่มีทางรอดออกไปได้เลย!
เกาหยุนหัวเราะและกล่าวออกมา “ฮ่าฮ่า เจ้าเด็กนรกนั่นคงต้องตายลงที่นี่แล้ว เจ้าไม่คิดจะไปช่วยมันหน่อยรึ? อ่ะ จริงด้วย เจ้าไปไม่ได้นี่นา ฮ่าฮ่าฮ่า…”
เจิ่งชีจึงหัวเราะเยาะความคิดนั้นและตอบสวนไป “เย่หยวนน่ะไม่จำเป็นต้องให้ข้าช่วยหรอก!”
เกาหยุนจึงถามขึ้นอีก “ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ต้องให้เจ้าช่วย? งั้นใครจะช่วยมันดีล่ะ? สวรรค์เรอะ? ฮ่าฮ่าฮ่า…”
เจิ่งชียิ้มอย่างเย็นเยือก “เจ้าห่วงตัวเองก่อนเถอะ!”
แม้จำนวนอีกฝ่ายจะมีมากกว่ามาก แต่เจิ่งชีกลับไม่คิดว่าจำนวนจะเป็นปัญหาใดๆ เลย
เพราะเย่หยวนสามารถสังหารสัตว์อสูรระดับสี่ ลงได้ ปัญหาด้านจำนวนมันก็คงไม่ส่งผลอะไรมาก
หมัดของเกาหยุนที่ต่อยออกมาเหมือนจะมีแต่ต่อยลมจนทำให้เขาเริ่มสิ้นหวังขึ้นมา
“เจ้าเด็กโง่ จอมปีศาจผู้นี้จะเอาชีวิตเจ้าไปเอง!”
ไคหลงหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นต่อยออกไปยังเย่หยวนอย่างเต็มแรง
หมัดนี้มันผสานพลังโลกเข้าไปด้วย ทำให้มีอำนาจทำลายล้างที่สูงมาก
เดิมทีหากเป็นนักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าธรรมดาๆ คงไม่มีโอกาสรอดจากหมัดนี้ไปได้อย่างแน่นอน
แต่น่าเสียดายที่เย่หยวนนั้นไม่ใช่นักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าธรรมดา
เย่หยวนใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติออกมาและหลบหมัดนั้นอย่างง่ายดาย
คนทั้งสี่นั้นรู้ดีว่าเย่หยวนใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติเป็น พวกเขาจึงรีบเข้ามาล้อมปิดทางหนีของเย่หยวนไว้และพุ่งตัวเข้าไปหาเย่หยวนจากรอบด้าน
ด้วยกำลังของยอดยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าพวกเขาจึงสามารถใช้พลังโลกรบกวนมิติรอบๆ ได้ไม่ยากนัก
แต่ทว่าเย่หยวนก็ไม่ได้คิดจะหนีมาตั้งแต่แรกแล้ว
เมื่อเย่หยวนชักดาบจักรพรรดิล้ำฟ้าออกมา คลื่นดาบฉีมันก็กระจายตัวออกมาทั่วร่างของเขา!
คู้ม!
จู่ ๆ พลังของเย่หยวนก็พุ่งสูงล้ำฟ้า ทำให้หนึ่งในคนที่ล้อมเขาอยู่ผู้ไม่ทันระวังตัวถูกเย่หยวนอัดกระแทกจนลอยละลิ่วไปไกล
ไคหลงและคนอื่นๆ ตื่นตะลึงกับภาพตรงหน้าจนขี้หดตดหาย
พวกเขากำลังดูอะไรอยู่กัน?
นักยุทธอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าสามารถส่งนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าลอยลิ่วได้ด้วยการโจมตีแค่กระบวนท่าเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...