จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1631

ตอนที่ 1631 เชือกมัดเซียน
การต่อสู้ของยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ที่เอาจริงกันอย่างสุดตัวนั้นมันจะรุนแรงแค่ไหนคงไม่ต้องคาดเดาให้เหนื่อย

หลังจากต่อสู้กันมาอย่างรุนแรงได้ระยะหนึ่งจนในที่สุดคนทั้งสามก็บาดเจ็บไปตามๆ กัน

ซุ่บ! ซุ่บ! ซุ่บ!

เมื่อได้เห็นว่ายอดฝีมือทั้งสามกำลังบาดเจ็บ เหล่านักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าที่มารอโอกาสก็เริ่มห้ามตัวเองไม่อยู่ รวบรวมความกล้าเข้าไปร่วมวงต่อสู้ด้วย

คนทั้งสามได้แต่หัวเราะเยาะในใจ ก่อนจะยกมือขึ้นมาส่งการโจมตีอันรุนแรงออกมาหลายต่อหลายครั้ง

ปัง! ปัง! ปัง!

คนเหล่านั้นถูกโจมตีร่างกายฉีกกระจายจนไม่เหลือแม้แต่เศษชิ้นกระดูกใดๆ

ซ่งหยูยิ้มออกมา “พวกโง่แสนอ่อนแออย่างนี้คิดหรือว่าจะมีปัญญาเอาเขาหน่วงเทพบรรพกาลไปเป็นของตน!”

เล่ออี้กล่าวขึ้นตาม “แต่การที่เรามาสู้กันต่อไปเช่นนี้มันก็ไม่ดีเหมือนกัน! ด้วยกำลังของเราทั้งสาม สุดท้ายพวกเราคงมีแต่เสียกับเสีย ไม่มีใครชนะไปได้อย่างขาดลอย!”

ข่านซัวจึงถามขึ้น “งั้นเจ้าว่าทำอย่างไรดีล่ะ?”

เล่ออี้จึงบอกออกมา “ก่อนอื่นเราไปให้ถึงตัวเขาหน่วงเทพบรรพกาลก่อนแล้วค่อยมาสู้ตัดสินกัน! ไม่เช่นนั้นหากเรามาสู้กันจนตายไปตรงนี้แต่สุดท้ายไม่มีใครได้เขาหน่วงเทพบรรพกาลไปมันจะไม่เสียท่าผู้คนมากจนเกินไปรึ?”

ข่านซัวและซ่งหยูนิ่งเงียบไป เพราะตอนนี้พวกเขาต่างเห็นด้วยกับคำพูดของเล่ออี้

ตอนนี้ ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ มันเป็นการยากมากที่จะคาดเดาผลลัพธ์สุดท้าย

“ได้ เอาตามที่เจ้าเสนอมา!” ข่านซัวตกลง

“ข้าเองก็ไม่คิดตะค้านใดๆ เช่นกัน!” ซ่งหยูตกลงตาม

เล่ออี้จึงกล่าวขึ้น “งั้นก็ไปกัน!”

ร่างของทั้งสามเริ่มขยับและพุ่งตัวออกไปยังเขาหน่วงเทพบรรพกาลในทันที

แต่ไม่นานนักพวกเขาก็ต้องหน้าเสียอีกครั้ง

เพราะยิ่งเข้ามาใกล้เขาหน่วงเทพบรรพกาลมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าการก้าวเดินช่างยากลำบากไปเท่านั้น!

พลังแรงโน้มถ่วงอันรุนแรงนั้นกดทับร่างของพวกเขาไว้จนแทบจะหายใจไม่ออก

พวกเขานั้นรู้สึกราวกับว่าเท้าของตัวเองมีรากงอกออกมาก็ไม่ปาน

พวกเขาทั้งสามนี้เป็นถึงยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์ พวกเขาจึงพอคาดเดาความรุนแรงของสนามแรงโน้มถ่วงนี้ได้ตั้งแต่เห็นบ้างแล้ว

“ให้ตายสิ! สนามแรงโน้มถ่วงของเขาหน่วงเทพบรรพกาลมันมีแต่จะหนักหน่วงขึ้นและหนักหน่วงขึ้น แบบนี้เราคงไปไม่ถึงมันแน่ๆ” ซ่งหยูกล่าวออกมา

ข่านซัวนั้นมีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าคนทั้งสอง แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเขาก็ยังไม่สามารถนำคนทั้งสองไปได้ไกลมากนัก

ตอนนี้ยอดฝีมือทั้งสามนั้นได้ปล่อยพลังออกมาจนสุดขีดจำกัดของตัวเอง แต่ความเร็วในการเดินของพวกเขากลับมีแต่จะช้าลงเรื่อยๆ

“ด้านหน้าเราอีกประมาณสามร้อยเมตร ใครที่ไปถึงก่อนก็จะได้สิทธิในการครอบครองเขาหน่วงเทพบรรพกาลไป!” ข่านซัวตะโกนบอก

ระยะทางแค่ราวสามร้อยเมตร สำหรับคนทั้งสามแล้วจริงๆ มันควรจะเป็นการก้าวย่างแค่ครั้งเดียวเสียด้วยซ้ำ

แต่ตอนนี้ระยะสั้นๆ แค่นี้กลับดูแสนไกล ไกลเกินกว่าที่พวกเขาคนใดจะเอื้อมถึง

“อ้า!!”

ข่านซัวตะโกนร้องออกมาอย่างบ้างคลั่ง ฝืนเดินต่อจนมีใบหน้าสีแดงก่ำ กว่าจะก้าวออกมาได้อีกก้าวหนึ่ง

แค่ก้าวเดียวนี้กลับใช้พลังกายของเขาแทบทั้งหมดไป

ข่านซัวกัดฟันแน่น “ทำไมเขาหน่วงเทพบรรพกาลมันถึงได้มีสนามพลังที่รุนแรงขนาดนี้กัน?”

“อ่อก!”

ในที่สุดซ่งหยูก็ทนรับมันไม่ไหวจนต้องกระอักเลือดออกมา

ตอนนี้ซ่งหยูนั้นรู้สึกราวกับว่าตัวเองได้แบกภูเขาทั้งลูกไว้บนบ่า ทำให้เขาไม่สามารถที่จะยืนตัวตรงได้อีกต่อไปแล้ว

แต่เมื่อตรงหน้ามีสมบัติอันแสนล้ำค่าอยู่ พวกเขาจึงไม่มีใครคิดที่จะยอมแพ้ พยายามใช้พลังโลกในร่างกายทั้งหมดออกมาจนถึงขีดสุด เพื่อที่จะต่อต้านกับแรงโน้มถ่วงอันแสนรุนแรงนี้

แต่ทว่ามันก็เปล่าประโยชน์

ตอนนี้แค่ก้าวไปได้ก้าวเดียวมันก็หรูแล้ว

จนในที่สุดเวลาผ่านไปได้ถึงหกชั่วโมง แต่พวกเขากลับเดินมาได้แค่ในระยะประมาณ หกสิบเมตร ยังเหลืออีกกว่า สองร้อยเมตรให้พวกเขาต้องก้าวเดินต่อ จึงจะไปถึงเขาหน่วงเทพบรรพกาลได้

ภายใต้สนามแรงโน้มถ่วงอันรุนแรงนั้น ทั้งสามคนยังได้รับบาดเจ็บมาไม่น้อย มันจึงยากเย็นกว่าเวลาปกติมากมายนัก

แต่ตอนนี้ที่โขดหินที่ด้านหลัง มีเสียงหัวเราะเยาะเย้ยอันหนึ่งดังขึ้นมาจากปากของเกาหยุน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ