อ่านสรุป ตอนที่ 1637 ชำระแค้นอันแสนใหญ่ยิ่ง จาก จอมเทพโอสถ โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 1637 ชำระแค้นอันแสนใหญ่ยิ่ง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
การโจมตีก่อนหน้านี้ของเขามันรุนแรงจนซัดร่างของเกาหยุนลอยไปไกล
แต่ใครจะไปคาดคิดว่าชายแก่คนนี้จะใช้โอกาสนั้นกลิ้งตัวหลบหายไปจากสายตา!
เจิ่งชีรู้ดีว่าอีกฝ่ายคงซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลนัก แต่ไม่ว่าจะพยายามหาไปมากเท่าไหร่เขาก็ไม่พบแม้แต่เงาของเกาหยุน จึงอดไม่ได้ที่ต้องตะโกนออกมาอย่างโกรธแค้น
เพราะตอนนี้เวลาของเขาเองก็เหลือไม่มากแล้ว หากร่างกายของเขาหมดพลังวิชา เขาคงอ่อนแอจนเกินกว่าจะต่อสู้กับใครได้
ตอนนั้นเขาคงได้แค่นอนรอความตายภายใต้เงื้อมมือของผู้อื่น
เจิ่งชีรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังชีวิตของตัวเองค่อยๆ จางหายไปเรื่อยๆ ทำให้ร่างกายของเขายิ่งอ่อนแรงลงจนเริ่มไม่กล้าที่จะไล่ตามศัตรูอีกต่อไป
เขาเกลียดความอ่อนแอของตัวเองนี้ ความอ่อนแอที่ทำให้เขาพลาดโอกาสครั้งสำคัญ
เจิ่งชีรู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถฝืนทนอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป ไม่เช่นนั้นจะเป็นเขาเองที่ถูกเกาหยุนสังหาร
เจิ่งชีกัดฟันแน่นและพยายามขยับร่างกายกลับไปทางที่เขามา
แต่ตอนนั้นเองที่เกาหยุนก็ปรากฏตัวออกมาปิดทางหนีของเขาไว้
“หึหึ ไหนว่าจะฆ่าข้าไง? จะรีบไปไหนเสียล่ะ?” เกาหยุนยิ้มเยาะเจิ่งชี
เมื่อเจิ่งชีได้เห็นเกาหยุนใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธแค้นอีกครั้งก่อนจะยกดาบขึ้นมาฟันออกไป “หนีมาอยู่ตรงนี้นี่เอง!”
แต่ในจังหวะที่เขาโจมตีออกไป ร่างของเกาหยุนกลับเลือนลางจางหายไปอีกครา
เจิ่งชีมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าเป้าหมายของเกาหยุนคือการถ่วงเวลาของเขาไว้
แต่ถึงจะรู้ไปมันก็เปล่าประโยชน์ เพราะตั้งแต่ที่เขาพื้นที่นี้มาเขานั้นไม่สามารถที่จะหาร่างของเกาหยุนได้อีกเลย
ความสามารถในการซ่อนตัวของเกาหยุนนั้นมันแข็งแกร่งจนเจิ่งชีไม่มีปัญญาที่จะรับมือได้
เจิ่งชีพยายามเร่งความเร็วฝีเท้ามากขึ้นเพื่อหวังจะสลัดเกาหยุนให้หลุดไปจากเงามืดของตัวเอง ตอนนี้ตำแหน่งของพวกเขาทั้งสองได้กลับด้านกันไปแล้วเรียบร้อย เจิ่งชีหนีและเกาหยุนไล่ แต่เกาหยุนกลับไม่ปรากฏตัวออกมาให้เจิ่งชีได้เห็นแม้แต่เงา
จู่ๆ เจิ่งชีก็เริ่มรู้สึกวิงเวียน เท้าของเขาหยุดลงกับที่จนเกือบจะล้มลงกับพื้น
นั่นทำให้เกาหยุนต้องยิ้มกว้าง ก่อนจะซัดฝ่ามือออกมาอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า
บัง!
เจิ่งชีถูกซัดลอยละลิ่วไปไกลจนต้องกระอักเลือดออกมาคำใหญ่
เพราะตอนนี้เจิ่งชีได้เผาอายุขัยและเลือดของตัวเองไปมากเกินกว่าที่จะต่อสู้ไหวแล้ว ทำให้อาการบาดเจ็บที่โดนก่อนหน้านี้กลับมาแสดงอาการจนร่างของเขาไม่สามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้
เมื่อเกาหยุนได้เห็นแบบนั้นเขาก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแสนชั่วร้าย “เด็กน้อยเจิ่ง! หากอยากต่อสู้กับชายแก่คนนี้มันยังเร็วไปหมื่นปี! ต่อให้เป็นอู๋ซิงถังก็ยังไม่มีปัญญาจัดการชายแก่คนนี้ มีหรือที่คนอย่างเจ้าจะชนะได้?”
เจิ่งชีกระอักเลือดออกมาอีกครั้งก่อนจะกัดฟันตอบกลับไป “น่ารังเกียจ!”
เกาหยุนจึงหัวเราะขึ้นมาลั่น “น่ารังเกียจ? เฮอะ เฮอะ ผู้ชนะนั้นเขียนประวัติศาสตร์! เพราะว่าอู๋ซิงถังมันไม่น่ารังเกียจพอยังไงล่ะมันถึงได้กลายเป็นฝุ่นดินไป แต่ชายแก่คนนี้มันน่ารังเกียจถึงได้กลายมาเป็นผู้อาวุโสใหญ่แห่งเมืองจักรพรรดิยอดสันติอยู่ทุกวันนี้! และวันนี้เจ้าเองก็จะได้ตามไปอยู่กับอาจารย์ที่รักของเจ้าแล้ว หายไปกลายเป็นแค่ฝุ่นผงยังไงล่ะ! ฮ่าฮ่าฮ่า!”
สภาพของเจิ่งชีในตอนนี้ไม่สามารถที่จะรวบรวมพลังทำอะไรได้เลย
เขารู้ดีว่าตัวเองคงต้องตายลงแล้ว
เกาหยุนหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและซัดฝ่ามือลงมายังเจิ่งชีที่ล้มตัวอยู่
แต่จู่ๆ เกาหยุนก็หน้าถอดสีเพราะสัมผัสได้ถึงอันตรายอันใหญ่หลวงที่ใกล้เข้ามา
เกาหยุนใช้แรงที่มีทั้งหมดพยายามดีดตัวออกมาด้านข้างด้วยสัญชาตญาณ
ตุบ!
เขาสีดำลูกยักษ์ร่วงหล่นลงมาอย่างแรงจนทำให้ห้วงเหวทั้งหมดสั่นไหว
“อ้าก! ขาข้า!”
พร้อมๆ กับเสียงภูเขาที่ตกลงมานั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นสนั่นหุบเขา
เกาหยุนจับต้นขาของตัวเองไว้แน่นพร้อมด้วยเม็ดเหงื่อขนาดยักษ์กลางหน้าผากที่กำลังไหลลงมาอย่างหยุดไม่ได้
เขานั้นหลบออกมาแล้ว สามารถเลี่ยงจุดสำคัญได้จริง แต่ด้วยความเร็วในการตกของเขาหน่วงเทพบรรพกาลที่แสนจะรวดเร็วมันจึงทำให้เขาไม่สามารุหลบมันได้อย่างปลอดภัย เกาหยุนต้องเสียขาทั้งสองข้างไป
เย่หยวนจึงยิ้มตอบ “ที่ข้าให้ท่านกินไปนั้นเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะที่เน้นด้านการบำรุงและรักษาร่างกายทั้งสิ้น แม้มันจะไม่ทำให้ท่านหายดี แต่มันก็น่าจะพอประคองอาการได้”
ไม่ไกลไปนัก เกาหยุนที่ได้เห็นภาพนั้นได้แต่รู้สึกตื่นตกใจอย่างถึงที่สุด
โอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะโมฆะนั้นเป็นดั่งของในตำนาน แต่เย่หยวนกลับนำมันออกมาใช้ตั้งมากมายในคราเดียว!
การใช้โอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม รักษาอาการบาดเจ็บของยอดฝีมือระดับสี่ เรื่องนี้คงมีแค่เย่หยวนที่กล้าทำและทำได้
เกาหยุนนั้นรู้สึกสิ้นหวังขึ้นจากส่วนลึกของจิตใจ ตอนนี้ขาทั้งสองข้างของเขานั้นถูกกดทับจนแหลกเละ มันจึงทำให้พลังงานร่างกายของเขานั้นอ่อนแรงลงอย่างมหาศาล
แต่ทว่าความอยากมีชีวิตของเขาก็ยังแรงกล้า เขายังไม่อยากมาตายลงตรงนี้
ฉะนั้นเกาหยุนจึงพยายามใช้มือทั้งสองข้างคืบคลานไปกับพื้นดิน
แต่เย่หยวนก็ไม่ได้สนใจเขาและหันมาบอกเจิ่งชี “ว่ายังไงบ้าง! ท่านพอจะลุกไหวไหม?”
เจิ่งชีเงยหน้าขึ้นมาพยักหน้ารับและมองเย่หยวน “อืม!”
เย่หยวนยิ้มขึ้นและค่อยๆ พยุงตัวเจิ่งชีลุก ก่อนจะค่อยๆ เดินเข้าไปหาเกาหยุน
เมื่อได้เห็นภาพสุดน่าสมเพชของเกาหยุนในตอนนี้ เจิ่งชีก็รู้สึกโล่งอกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
“ฮ-ฮ่าฮ่า ไอ้เฒ่า คงไม่คิดล่ะสิว่าวันนี้มันจะมาถึง? เวลากว่าหกหมื่นปีมานี้! ข้ารอเวลานี้มากว่าหกหมื่นปี!” เจิ่งชีพยายามอดกลั้นความเจ็บปวดที่ยังไม่หายไปไหนและหัวเราะออกมาอย่างสะใจ
เกาหยุนหันมามองด้วยสีหน้าสุดน่าสมเพชพร้อมพูดขอร้อง “น-น้องเจิ่ง ข้าผิดไปแล้ว! ข้า… ปล่อยข้าไปเถอะ!”
เจิ่งชีได้แต่หัวเราะเยาะ “ปล่อยเจ้าไป? งั้นใครกันเล่าที่จะปล่อยอาจารย์ข้า?”
เย่หยวนยื่นดาบจักรพรรดิล้ำฟ้าให้เจิ่งชี เจิ่งชีหันมามองหน้าเย่หยวนเป็นการขอบคุณก่อนจะฟาดดาบนั้นลงเต็มแรง
ฉึก!
ม่านตาของเกาหยุนค่อยๆ เบิกขยายขึ้น พลังชีวิตของเขาค่อยๆ เลือนรางจนในที่สุดเขาก็หยุดหายใจลง
เจิ่งชีเงยหน้าขึ้นมองฟ้าด้วยน้ำตานองหน้าก่อนจะตะโกนออกมา “ท่านอาจารย์ ท่านเห็นหรือไม่? ศิษย์คนนี้… ได้ล้างแค้นให้ท่านสำเร็จแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
2970 อิหลินเสวียอิห่าราก ฟื้นขึ้นมาก็ทิ้งกันเลย😂...
พวกเมีย เพื่อนฝูง น้องๆ แม่งเป็นได้แต่ตัวถ่วง ตัวภาระ😂...
ตอนแรกๆอ่านยังไง...
DDD...