การโจมตีก่อนหน้านี้ของเขามันรุนแรงจนซัดร่างของเกาหยุนลอยไปไกล
แต่ใครจะไปคาดคิดว่าชายแก่คนนี้จะใช้โอกาสนั้นกลิ้งตัวหลบหายไปจากสายตา!
เจิ่งชีรู้ดีว่าอีกฝ่ายคงซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลนัก แต่ไม่ว่าจะพยายามหาไปมากเท่าไหร่เขาก็ไม่พบแม้แต่เงาของเกาหยุน จึงอดไม่ได้ที่ต้องตะโกนออกมาอย่างโกรธแค้น
เพราะตอนนี้เวลาของเขาเองก็เหลือไม่มากแล้ว หากร่างกายของเขาหมดพลังวิชา เขาคงอ่อนแอจนเกินกว่าจะต่อสู้กับใครได้
ตอนนั้นเขาคงได้แค่นอนรอความตายภายใต้เงื้อมมือของผู้อื่น
เจิ่งชีรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าพลังชีวิตของตัวเองค่อยๆ จางหายไปเรื่อยๆ ทำให้ร่างกายของเขายิ่งอ่อนแรงลงจนเริ่มไม่กล้าที่จะไล่ตามศัตรูอีกต่อไป
เขาเกลียดความอ่อนแอของตัวเองนี้ ความอ่อนแอที่ทำให้เขาพลาดโอกาสครั้งสำคัญ
เจิ่งชีรู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถฝืนทนอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป ไม่เช่นนั้นจะเป็นเขาเองที่ถูกเกาหยุนสังหาร
เจิ่งชีกัดฟันแน่นและพยายามขยับร่างกายกลับไปทางที่เขามา
แต่ตอนนั้นเองที่เกาหยุนก็ปรากฏตัวออกมาปิดทางหนีของเขาไว้
“หึหึ ไหนว่าจะฆ่าข้าไง? จะรีบไปไหนเสียล่ะ?” เกาหยุนยิ้มเยาะเจิ่งชี
เมื่อเจิ่งชีได้เห็นเกาหยุนใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธแค้นอีกครั้งก่อนจะยกดาบขึ้นมาฟันออกไป “หนีมาอยู่ตรงนี้นี่เอง!”
แต่ในจังหวะที่เขาโจมตีออกไป ร่างของเกาหยุนกลับเลือนลางจางหายไปอีกครา
เจิ่งชีมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าเป้าหมายของเกาหยุนคือการถ่วงเวลาของเขาไว้
แต่ถึงจะรู้ไปมันก็เปล่าประโยชน์ เพราะตั้งแต่ที่เขาพื้นที่นี้มาเขานั้นไม่สามารถที่จะหาร่างของเกาหยุนได้อีกเลย
ความสามารถในการซ่อนตัวของเกาหยุนนั้นมันแข็งแกร่งจนเจิ่งชีไม่มีปัญญาที่จะรับมือได้
เจิ่งชีพยายามเร่งความเร็วฝีเท้ามากขึ้นเพื่อหวังจะสลัดเกาหยุนให้หลุดไปจากเงามืดของตัวเอง ตอนนี้ตำแหน่งของพวกเขาทั้งสองได้กลับด้านกันไปแล้วเรียบร้อย เจิ่งชีหนีและเกาหยุนไล่ แต่เกาหยุนกลับไม่ปรากฏตัวออกมาให้เจิ่งชีได้เห็นแม้แต่เงา
จู่ๆ เจิ่งชีก็เริ่มรู้สึกวิงเวียน เท้าของเขาหยุดลงกับที่จนเกือบจะล้มลงกับพื้น
นั่นทำให้เกาหยุนต้องยิ้มกว้าง ก่อนจะซัดฝ่ามือออกมาอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า
บัง!
เจิ่งชีถูกซัดลอยละลิ่วไปไกลจนต้องกระอักเลือดออกมาคำใหญ่
เพราะตอนนี้เจิ่งชีได้เผาอายุขัยและเลือดของตัวเองไปมากเกินกว่าที่จะต่อสู้ไหวแล้ว ทำให้อาการบาดเจ็บที่โดนก่อนหน้านี้กลับมาแสดงอาการจนร่างของเขาไม่สามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้
เมื่อเกาหยุนได้เห็นแบบนั้นเขาก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแสนชั่วร้าย “เด็กน้อยเจิ่ง! หากอยากต่อสู้กับชายแก่คนนี้มันยังเร็วไปหมื่นปี! ต่อให้เป็นอู๋ซิงถังก็ยังไม่มีปัญญาจัดการชายแก่คนนี้ มีหรือที่คนอย่างเจ้าจะชนะได้?”
เจิ่งชีกระอักเลือดออกมาอีกครั้งก่อนจะกัดฟันตอบกลับไป “น่ารังเกียจ!”
เกาหยุนจึงหัวเราะขึ้นมาลั่น “น่ารังเกียจ? เฮอะ เฮอะ ผู้ชนะนั้นเขียนประวัติศาสตร์! เพราะว่าอู๋ซิงถังมันไม่น่ารังเกียจพอยังไงล่ะมันถึงได้กลายเป็นฝุ่นดินไป แต่ชายแก่คนนี้มันน่ารังเกียจถึงได้กลายมาเป็นผู้อาวุโสใหญ่แห่งเมืองจักรพรรดิยอดสันติอยู่ทุกวันนี้! และวันนี้เจ้าเองก็จะได้ตามไปอยู่กับอาจารย์ที่รักของเจ้าแล้ว หายไปกลายเป็นแค่ฝุ่นผงยังไงล่ะ! ฮ่าฮ่าฮ่า!”
สภาพของเจิ่งชีในตอนนี้ไม่สามารถที่จะรวบรวมพลังทำอะไรได้เลย
เขารู้ดีว่าตัวเองคงต้องตายลงแล้ว
เกาหยุนหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและซัดฝ่ามือลงมายังเจิ่งชีที่ล้มตัวอยู่
แต่จู่ๆ เกาหยุนก็หน้าถอดสีเพราะสัมผัสได้ถึงอันตรายอันใหญ่หลวงที่ใกล้เข้ามา
เกาหยุนใช้แรงที่มีทั้งหมดพยายามดีดตัวออกมาด้านข้างด้วยสัญชาตญาณ
ตุบ!
เขาสีดำลูกยักษ์ร่วงหล่นลงมาอย่างแรงจนทำให้ห้วงเหวทั้งหมดสั่นไหว
“อ้าก! ขาข้า!”
พร้อมๆ กับเสียงภูเขาที่ตกลงมานั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นสนั่นหุบเขา
เกาหยุนจับต้นขาของตัวเองไว้แน่นพร้อมด้วยเม็ดเหงื่อขนาดยักษ์กลางหน้าผากที่กำลังไหลลงมาอย่างหยุดไม่ได้
เขานั้นหลบออกมาแล้ว สามารถเลี่ยงจุดสำคัญได้จริง แต่ด้วยความเร็วในการตกของเขาหน่วงเทพบรรพกาลที่แสนจะรวดเร็วมันจึงทำให้เขาไม่สามารุหลบมันได้อย่างปลอดภัย เกาหยุนต้องเสียขาทั้งสองข้างไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...