เย่หยวนหันไปมองอีกฝ่ายด้วยหางตาก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ และเดินผ่านมาโดยไม่คิดจะตอบกลับใดๆ ไป
แม้คำพูดหลินตงจะฟังดูสุภาพ แต่น้ำเสียงของเขานั้นไม่ได้มีความสุภาพอยู่เลย
ตรงกันข้ามมันกลับเต็มไปด้วยความเย้ยหยันต่อสภาพของอีกฝ่ายมากกว่า
ตอนนี้เพื่อนๆ ที่ข้างกายของเขาเองก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน
ได้เห็นว่าเย่หยวนไม่สนใจจะตอบกลับมา หลินตงจึงหันไปพูดกับเพื่อนๆ “จะอวดดีเพื่อ? มันคิดว่าตัวเองยังเป็นผู้อาวุโสอยู่หรือไร? ไม่มีปัญญาจะบรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้าแท้ๆ ยังจะมีหน้ามาเรียกตัวเองว่าอัจฉริยะ น่าขันเสียจริงๆ”
“เฮอะ เฮอะ ไม่มีปัญญาบรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้า ไม่ว่ามันจะเป็นอัจฉริยะมาจากที่ไหนมันก็เป็นได้แค่อัจฉริยะขี้โม้!”
“ข้าได้ยินข่าวลือจากเบื้องบนมาว่า พวกเขาจะจัดการถอดมันออกจากตพแหน่งผู้อาวุโสด้วย! เฮอะ หากเป็นจริงขึ้นมาเมื่อใดใครมีความแค้นความอับอายใดๆ คงได้มาสะสางกันในวันนั้นแน่!”
“มันยังคิดว่าตัวเองนั้นเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในเมืองจักรพรรดิอยู่เลยน่ะสิถึงได้ทำท่าทางอวดดีแบบนั้นออกมาใส่เรา!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
…
คนเหล่านั้นนินทาเขาต่อหน้าอย่างไม่เกรงกลัวเย่หยวนเลยแม้แต่น้อย
ดูท่าแล้วคนพวกนี้คงไม่ได้เห็นเย่หยวนเป็นผู้อาวุโสแล้วจริงๆ
ตอนนี้เวลาได้ผ่านไปกว่า สามร้อยปีแล้วหลังจากเย่หยวนกลับมาจากเหวอัญเชิญปีศาจ!
ในช่วง สามร้อยปีที่ผ่านมาเย่หยวนพยายามไม่รู้กี่ทางต่อกี่ทาง แต่เขาก็ยังไม่สามารถหาส่วนสำคัญที่จะใช้สร้างการบ่มเพาะระดับสี่เสียที
เวลานี้ประตูบานนี้มันถูกปิดตายสำหรับเขา
เย่หยวนนั้นพยายามนึกถึงเขาแห่งถงเทียน พยายามใช้วิชาโอสถช่วยบรรลุ แต่ก็ไม่ได้ผลใดๆ
ต่อให้เก็บตัวฝึกไปเขาก็ไม่สามารถหาวิธีการบรรลุได้ เย่หยวนจึงมักจะออกมาฝึกฝนตัวเองและถึงขั้นหลอมโอสถสุริยันจักรวาลขั้นเทวะโมฆะกินอยู่บ่อยๆ
แต่ความพยายามทั้งหลายมันกลับจมหายไปในมหาสมุทร ไม่ส่งผลใดๆ กลับมาแม้แต่น้อย
ตอนนั้นเย่หยวนนั้นเป็นถึงตัวตนที่ทำให้เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ต้องสั่นสะท้าน แม้แต่ยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์เบื้องบนของเมืองก็ยังยอมรับให้เย่หยวนขึ้นมาเป็นผู้อาวุโสแห่งหอโอสถ
ในช่วงเวลานั้นมันเป็นเรื่องที่ดังสนั่นไปทั่ว
ทุกคนต่างเชื่อว่าอีกไม่นานเย่หยวนคงบรรลุขึ้นเป็นยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้า!
แต่ทว่า เหมือนกับที่ไม่มีใครคิดว่าเย่หยวนจะเก่งกาจปานนั้น พวกเขาไม่มีใครเลยที่คิดว่าเย่หยวนจะไม่สามารถบรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้าได้จนเวลาล่วงเลยมาถึง สามร้อยปี
สำหรับคนทั่วๆ ไปแล้วการบรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้าในเวลา สามร้อยปีถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติ
แต่กับเย่หยวนนั้น สามร้อยมันนานจนเกินไป!
เมื่อเขาไม่สามารถบรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้าได้เสียที มันก็เริ่มมีคำร้องเรียนและคำบ่นว่าดังขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวตนที่เหนือความเข้าใจผู้คนอย่างเย่หยวนนั้นมันยิ่งดึงดูดความสนใจของผู้คนมากกว่าผุ้อาวุโสคนไหนๆ
เมื่อเกิดเสียงเหล่านี้ขึ้น นับวันมันก็จะยิ่งขยายวงออกกว้าง จนสุดท้ายแม้แต่หลินตงก็ยังกล้าที่จะมากล่าวว่าเย่หยวนต่อหน้าแบบนี้
เย่หยวนนั้นเพิ่งกลับมาจากการฝึกที่นอกเมืองและได้ยินเรื่องการปลดตำแหน่งของตัวเอง
เขาเชื่อว่ามันคงไม่ใช่ข่าวลือที่ไร้มูล ไม่เช่นนั้นหลินตงคงไม่กล้าออกมาทำเรื่องราวถึงขนาดนี้
แต่ทว่าเย่หยวนไม่ได้สนใจเลย
ตำแหน่งผู้อาวุโสนั้นมันเป็นของยิ่งใหญ่ เป็นสิ่งล้ำค่ากับคนอื่น แต่กับเย่หยวนแล้วเขาไม่ได้คิดอะไรมากมายเลยหากต้องออกจากตำแหน่งนี้
เพราะสายตาของเขามันกว้างไกลกว่าตำแหน่งผู้อาวุโสมาก
แม้จะถูกหลินตงว่ากล่าวดูถูกใดๆ เย่หยวนก็ไม่คิดจะสนใจและเดินจากมาทันที
แต่ยิ่งหลินตงได้เห็นเย่หยวนเงียบ พวกเขาก็ยิ่งคิดว่าเย่หยวนกลัว จึงยิ่งพูดจาหนักขึ้นไปต่างๆ นาๆ
พวกเขาถึงขั้นเดิมตามมาล้อเย่หยวนจนถึงที่
“ให้ตายสิ อัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ของเรามันน่าสมเพชจริงๆ ฮ่าฮ่าฮ่า…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...