หากให้พูดกันตามหลักการ เย่หยวนไม่มีทางสร้างความเสียหายที่รุนแรงแก่ซัวหานได้เลย
แต่หมัดของเขาแต่ละหมัดมันกลับพุ่งเข้าที่หน้าซัวหานอย่างรุนแรง
ปราณเทวะของซัวหานนั้นไม่สามารถรับการโจมตีของเย่หยวนได้เลยแม้แต่น้อย
หลังถูกต่อยไปได้หลายหมัด ซัวหานก็รู้สึกได้ถึงความกระทบกระเทือนที่สมองได้รับจนเริ่มแยกทิศเหนือ ใต้ ออก ตก ไม่ออกแล้ว
ตอนนี้เรื่องที่เดียวที่เขายังมีในหัวก็คือ หนี!
“อ-อย่าต่อยข้าอีกเลย!”
ตอนนี้ทุกอย่างตรงหน้าซัวหานนั้นมันเริ่มมืดดับ หัวของเขาหมุนไปหมด ได้แต่ตะโกนไปวิ่งไปอย่างบ้าคลั่ง
สภาพนั้นมันช่างดูน่าขบขัน
บนเขาแห่งถงเทียนลูกนี้ คงเรียกภาพของทั้งสองได้ว่าเป็นภาพของ ‘คนหนึ่งไล่ คนหนึ่งหนี’
เว้นแต่ว่าผู้ที่ไล่จะเป็นแค่นักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าหนึ่งดาว ส่วนผู้หนีเป็นนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าเก้าดาวที่ถูกทำร้ายจนยับเยิน ภาพนี้มันจึงยิ่งน่าเหลือเชื่อกว่าเก่า
แต่ถึงแม้ว่าผู้คนจะไม่สามารถบินบนเขาแห่งถงเทียนได้ แต่เย่หยวนนั้นรู้แนวคิดแห่งห้วงมิติ จึงก้าวเดินได้ราวกับมีปีก
ไม่ว่าซัวหานจะวิ่งไปมากเพียงใด เย่หยวนก็จะตามไปได้ในเวลาแค่สองถึงสามก้าว ก่อนจะต่อยลงไปอีกหมัดหนึ่ง
ที่ด้านข้างเหล่าผู้คนที่มองเห็นเรื่องราวได้แต่ยืนนิ่ง
“หมอนี่มันจะแข็งแกร่งเกินไปไหม?”
“ที่แปลกคือทำไมมันไม่โดนทัณฑ์สวรรค์นี่สิ?”
“เด็กคนนี้มันลึกลับเสียจริงๆ ตั้งแต่เจอมันมันก็สร้างเรื่องราวที่เหนือความเข้าใจของเรามานักต่อนัก!”
“ชิชิ ซัวหานคงสูญเสียครั้งใหญ่แน่ครานี้ เป็นถึงยอดฝีมืออาณาจักรราชันพระเจ้าเก้าดาวแต่กลับได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายกระทำอย่างไม่สามารถตอบโต้ได้ คงเจ็บแค้นไปจนตายแน่ๆ”
…
เหล่าศิษย์น้องของซัวหานไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วยศิษย์พี่เลยสักคน เพราะพวกเขาเองก็ไม่กล้าที่จะลงมือบนเขาแห่งถงเทียนนี้ ได้แต่มองดูซัวหานถูกทำร้ายอย่างน่าสมเพช
ในที่สุดซัวหานก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปจนร้องขึ้นมาทั้งน้ำตา “ข้าขอร้องเจ้าล่ะ อย่าได้ทำร้ายข้าอีกเลย หากยังโดนต่อไปหน้าข้าคงเสียรูปหมดแน่! หากเจ้าสัญญาว่าจะไม่ต่อยข้าอีก ข้าจะยอมรับข้อเสนอของเจ้าทุกอย่างเลย!”
เย่หยวนที่ได้ยินจึงหยุดมือลงทันทีและถามขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เย็นเหยียบ “อะไรได้ก็ได้จริงๆ รึ?”
“ใช่! ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม! ตราบเท่าที่เจ้าจะยอมหยุดโจมตีข้า!”
ซัวหานนั้นกลัวจนหัวหดจริงๆ ในตอนนี้ เพราะนี่มันคือการทรมานอันไม่สิ้นสุดชัดๆ
ชายคนตรงหน้าของเขาคนนี้มันคือปีศาจโดยแท้!
ซัวหานเริ่มรู้สึกขึ้นมาได้ในว่าเขาแห่งถงเทียนนี้ เย่หยวนนั้นเป็นอมตะ
กฎเกณฑ์ต่างๆ บนเขาแห่งถงเทียนนี้ที่พันธนาการเหล่านักยุทธไว้กลับไม่มีผลใดๆ ต่อตัวเขาเลยแม้แต่นิด
เจ้าโจมตีไม่ได้ แต่เขาทำได้!
เจ้าเข้าม่านหมอกไม่ได้ แต่เขาทำได้!
โลกใบนี้มันยังมีอะไรที่ไร้เหตุไร้ผลแบบนี้อยู่ด้วยรึ?
ระดับนักยุทธอาณาจักรราชันพระเจ้าเก้าดาว หากไปอยู่ในโลกข้างนอกคงกลายเป็นยอดคนที่สูงส่ง!
แต่ตอนนี้เขากลับถูกเจ้าเด็กที่เพิ่งบรรลุอาณาจักรราชันพระเจ้ามาใหม่ๆ ต่อยเอาจนหน้าเสียรูป เรื่องแบบนี้จะยังไปหาเหตุผลใดๆ มารองรับได้อีก?!
เย่หยวนพยักหน้า “เอาล่ะ ข้าขอสองอย่าง ตราบเท่าที่เจ้าทำตามข้าจะไม่ทำร้ายเจ้าอีก”
“เจ้าว่ามาเลย ว่ามา! ไม่ว่าเจ้าจะอยากได้อะไรข้าก็ยอม!”
เขาเองก็ไม่ได้โง่นักและรู้ดีว่าราคาที่เย่หยวนจะเรียกนั้นมันคงสูงส่งอย่างไร้ที่เปรียบ
แต่ตอนนี้เขานั้นไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว!
เมื่อได้เจอกับศัตรูที่ไร้ทางต้านแบบนี้ นอกจากยอมแพ้มันก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว
เย่หยวนบอก “ก่อนอื่นก็ไปขอโทษแม่นางเล้งและสาบานต่อหน้ายอดเต๋าว่าจะไม่ไปยุ่งย่ามกับนางอีกในอนาคต!”
ซัวหานเพิ่งกลับมาได้สติหลังได้ยิน ได้ยินแบบนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะยกนิ้วขึ้นมาชี้หน้าเย่หยวน “เย่หยวน เจ้า… เจ้าคนน่ารังเกียจ!”
เย่หยวนเองก็ไม่ได้โกรธเคืองใดๆ และยกหมัดขึ้นมาแทน
ซัวหานแทบสำลักเมื่อเห็นหมัดนั้น เขาได้แต่กัดฟันแน่นและตอบ “ได้ ข้าสัญญา!”
ในความคิดของซัวหานแล้ว เย่หยวนนั้นคิดอยากจะครอบครองคนที่เกินกว่าตัวเองจะเอื้อมถึงจึงได้ใช้กำลังบังคับให้เขาต้องถอนตัวออกมาเช่นนี้
แต่จริงๆ เย่หยวนไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นกับเล้งชิวหลิงแม้แต่น้อย เรื่องทั้งหมดมันก็เป็นเพียงแค่จินตนาการอันเลิศล้ำของซัวหาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...