เผ่าอสูรนั้นแตกต่างจากมนุษย์ ด้วยความที่มีเผ่าพันธุ์อันหลากหลาย ความขัดแย้งจึงเกิดขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
ที่สำคัญเผ่าอสูรบางเผ่ายังฉลาดปราดเปรื่องไม่ได้ด้อยไปกว่ามนุษย์เลยแม้แต่น้อย
เหล่าอสูรพวกนั้นจะแปลงกายเป็นมนุษย์และสร้างรูปร่างหน้าตาของตัวเองขึ้น
เพราะฉะนั้นในที่ราบเทพอสูรนี้มันจึงเกิดเมืองต่างๆ ขึ้นมาตามๆ กัน
เหมือนกับมนุษย์
แน่นอนว่ามันยังมีเผ่าอสูรแสนฉลาดบางเผ่าที่ไม่คิดอยากจะแปลงกาย
พวกเขาทั้งหลายนั้นจะใช้ชีวิตอยู่บนเทือกเขาเทพอสูร ปกครองดินแดนแสนกว้างใหญ่ ปกครองเหล่าสัตว์อสูรทั้งหลาย
นอกวิหารนักบวชของเมืองจักรพรรดิต้นทรราช มีกลุ่มอสูรหนุ่มกำลังเดินออกมาด้วยสีหน้าหมดแรง
วันนี้เป็นวันที่ทางวิหารนักบวชจะเปิดรับศิษย์ ทำให้เหล่าอสูรหนุ่มทั้งหลายต่างมารวมตัวกันที่วิหารนักบวชเพื่อเข้ารับการทดสอบ อยากจะเป็นนักบวชฝึกหัด
ในเผ่าอสูรนี้นักบวชจากวิหารนักบวชนั้นเป็นสิ่งที่แสนจะสูงส่ง
วิหารนักบวชนั้นคล้ายกับสมาคมนักหลอมโอสถของฝั่งมนุษย์ แต่มันก็แตกต่างกัน
ต่อให้อสูรตนใดจะสามารถทำการหลอมโอสถได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะเป็นนักบวชได้
พวกเขาต้องมีฝีมือระดับหนึ่งและได้รับการยอมรับจากทางผู้อาวุโสของวิหารเท่านั้น พวกเขาเหล่านั้นจึงจะได้เป็นนักบวชอย่างแท้จริง
เมื่อได้เห็นนักบวชแล้ว พวกเขาก็จะนับได้ว่ามีสถานะสูงส่งอย่างมากในหมู่เผ่าอสูรด้วยกัน
แต่ให้จะเป็นอสูรที่ยังไม่สามารถแปลงกายได้ แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่กล้าที่จะมาลบหลู่นักบวชง่ายๆ
เพราะว่าวิหารนักบวชนั้นมันถูกสร้างขึ้นมาจากขั้วอำนาจอันแสนยิ่งใหญ่ในเผ่าอสูร มันจึงมีตำแหน่งและสถานะสูงส่งมากในเผ่าอสูร
“เห็นนั่นไหม? นั่นมันนักบวชฝึกหัดกงหลินที่ท่านอาจารย์ฮั่วหรงรับเข้าไปคราก่อน ข้าได้ยินมาว่าเขาได้ขึ้นเป็นนักบวชแล้วเมื่อปีก่อน”
“ข้าล่ะอิจฉาเขาจริงๆ! นักบวชฝึกหัดนี่มันจะสอบยากเกินไปแล้ว ข้าอุตส่าห์ลงสอบตั้งหลายสิบครั้งก็ยังไม่ผ่านเสียที!”
“เจ้ายังเคยเข้าสอบแค่สิบกว่าครั้ง? ข้านี่สอบมาเป็นร้อยครั้งแล้วแต่ก็ยังไม่ผ่านเสียที!”
“เฮอะ เหมือนกันแหละ! การสอบแต่ละครั้งมันล้วนมีตัวเต็งชนะมาก่อนแล้ว และคราวนี้มันก็คงไม่พ้นมู่หยวนชุนใช่ไหม?”
…
เหล่าอสูรหนุ่มกำลังคุยกันอย่างดุเดือด บ่นออกมาตามๆ กันว่าการสอบนักบวชฝึกหัดมันแสนจะยากเย็น
ดูท่าแล้วการจะขึ้นเป็นนักบวชในเผ่าอสูรนี้มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ
การทดสอบของนักบวชฝึกหัดนี้มันจะเกิดขึ้นทุกๆ สิบปี หากไม่ผ่านหลายสิบหลายร้อยรอบมันก็เท่ากับว่าเสียเวลาไปกว่าพันปี
และการใช้เวลากว่าพันปีกับอะไรบางอย่างและยังไม่สามารถขึ้นไปได้ถึงจุดเริ่มต้น มันก็แสดงได้อย่างดีแล้วว่าเรื่องที่กำลังทำนั้นมันยากเย็นเพียงใด
ตอนนั้นก็มีร่างหนึ่งเดินผ่านเข้าไปในวิหารทำให้ผู้คนต้องมองตามอย่างอดไม่ได้
“เอะ มนุษย์! ทำไมมนุษย์ถึงมายังวิหารนักบวชกัน?”
“เขาเดินไปทางโต๊ะรับสมัคร หรือว่า…เขาคิดที่จะสมัครการสอบนักบวช?”
“ฮ่าๆ เจ้ามนุษย์นี่สมองเพี้ยนหรือ? มนุษย์จะไปหลอมโอสถอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร?”
“มนุษย์พลังบ่มเพาะแค่อาณาจักรราชันพระเจ้าสี่ดาวกลับไม่ตายตั้งแต่หน้าประตูเมือง แค่เรื่องนี้มันก็ปาฏิหาริย์แล้ว!”
…
แน่นอนว่ามนุษย์คนที่กำลังถูกพูดถึงนี้มันไม่ใช่ใครที่ไหนนอกไปเสียจากเย่หยวนที่มาถึงยังที่ราบเทพอสูรผ่านทางเทือกเขาเทพอสูร
เย่หยวนถามถึงเส้นทางที่ปลอดภัยจากพวกด้วนเผิงและในที่สุดก็ผ่านเทือกเขาเทพอสูรมาได้อย่างปลอดภัย
แต่ว่าที่ราบเทพอสูรนั้นเป็นพื้นที่แสนกว้างใหญ่ หากอยากหาอิ้งหมัวหู่ให้เจอแล้วมันคงเป็นเรื่องที่ยากราวงมเข็มในมหาสมุทร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...