หลังจากกลับมามู่หยวนชุนก็มีท่าทางพึงพอใจอย่างมาก และกลับมาเย้ยหยันเย่หยวนต่อ
ด้วยพลังฝีมือของเขา เรื่องผ่านการทดสอบนั้นมันง่ายแสนง่าย
สุดท้ายแล้วการทดสอบนี้มันก็แค่ทำเรื่องราวให้เป็นทางการเท่านั้น
กงหลินพูดกับมู่หยวนชุนราวกับว่าเขานั้นเป็นศิษย์น้องไปแล้วต่อหน้าผู้คน การปฏิบัติเช่นนี้ย่อมมิใช่ทุกคนที่จะได้รับมัน
เพราะฉะนั้นตอนนี้มู่หยวนชุนจึงยิ่งผยองตัวอย่างถึงที่สุด
แน่นอนว่าไม่มีใครมองว่าเขาอวดดี ตอนนี้ทุกสายตาที่มองมานั้นมันเปี่ยมไปด้วยความนับถือเสียด้วยซ้ำ
เย่หยวนมองดูที่เขาและกล่าวขึ้น “งั้นเจ้าคงแพ้แน่”
เมื่อมู่หยวนชุนได้ยินเขาก็หัวเราะลั่นออกมา “ช่างคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่เสียจริงๆ! โอหัง ลองทำตัวโอหังเช่นนี้ต่อไปเถอะ! ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าเจ้าจะรักษาหน้านั้นไว้ได้จนจบไหม!”
ได้ยินแบบนั้นเย่หยวนก็แค่ยักไหล่ตอบกลับไปโดยไม่พูดอะไร
“ต่อไป เย่หยวน!”
สุดท้ายเย่หยวนก็ขึ้นมาบนสนามบ้าง ตอนนี้สายตาทุกคู่กำลังมองมาที่เขาด้วยความสงสาร
ในโลกของนักหลอมโอสถมันมีอัจฉริยะไหม?
มี!
มู่หยวนชุนนี่แหละอัจฉริยะ!
แต่แม้จะเป็นอัจฉริยะแค่ไหนมันก็ยังต้องใช้เวลาในการฝึกฝนอย่างมากมาย
การที่มู่หยวนชุนมีฝีมือได้อย่างทุกวันนี้ เขานั้นย่อมไม่ได้มันมาแค่ชั่วข้ามคืน เขาต้องทำการฝึกฝนตัวมาอย่างยาวนาน
เพราะฉะนั้นเมื่อได้ยินว่าเรื่องเช่นนั้นมันไม่นับรวมตัวเขาไปด้วย ทุกผู้คนจึงไม่เห็นด้วยอย่างมาก
เพราะอย่างไรเสีย แม้จะเป็นมู่หยวนชุน ตอนที่เขายังอายุเท่าเย่หยวนตอนนี้นั้นเขาก็ไม่มีปัญญาจะผ่านการทดสอบกับกระดาษไม้หอมควันม่วงเทวะไปเช่นกัน
ยิ่งไม้หลิวเมฆาแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เย่หยวนค่อยๆ เดินขึ้นไปต่อหน้ากงหลิน ก่อนที่กงหลินจะบอกออกมา “เจ้าเลือก”
ภาพเมื่อสักครู่นี้กงหลินย่อมมองเห็นมันอย่างชัดเจน
คำพูดของเย่หยวนนั้น ตัวเขาเองก็ไม่เห็นด้วยอย่างมาก
“ข้าขอเลือกอย่างอื่นที่ไม่อยู่ในสามตัวเลือกนี้ได้หรือไม่?” เย่หยวนไม่คิดจะเลือกและหันไปถามกงหลินแทน
กงหลินขมวดคิ้วแน่น “มาล้อกันเล่นเรอะ! กฎของการทดสอบย่อมถูกตั้งขึ้นจากทางวิหาร จะเปลี่ยนได้อย่างไร? เจ้าคงมาที่นี่เพื่อหาเรื่องจริงๆ เสียแล้วใช่ไหม?”
เห็นแบบนั้นเหล่าผู้เข้าสอบคนอื่นเองก็ยิ้มออกมา
ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายมั่นใจแล้วว่าเย่หยวนมาเพื่อหาเรื่องผู้คนแน่ๆ
เย่หยวนตอบออกไปอย่างเย็นชา “พี่กงท่านบอกเมื่อสักครู่ว่าให้ใช้ความสามารถออกมาให้หมด ข้าเกรงว่าแค่ไม้สามประเภทนี้มันจะทำให้ข้าแสดงฝีมือออกมาได้ไม่หมดเท่านั้น”
เมื่อกงหลินได้ยินเขาก็หัวเราะขึ้นมาด้วยความโกรธ “เรอะ? งั้นต้องไม้แบบไหนเจ้าถึงจะแสดงฝีมือออกมาได้เต็มที่กัน?”
เย่หยวนหยุดคิดและบอก “พวกท่านมีกระดาษระดับสามัญหรือไม่?”
เมื่อคำพูดนั้นถูกกล่าว เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นมาทันที
ไม้ที่ติดไฟง่ายกว่าไม้หลิวเมฆานั้นมีมากมาย
แต่ไม้ระดับสามัญ เรื่องนั้นมันไม่มีทางเป็นไปได้เลย
เจ้าหมอนี่มันมาเล่นตลกใช่ไหม?
อะไรคือของสามัญ?
มันคือของที่แม้จะโดนแค่เปลวความร้อนจากไฟศักดิ์สิทธิ์ ของสิ่งนั้นก็จะไหม้เป็นจุลได้ทันที!
การใช้ไฟศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่เผากระดาษระดับสามัญนั้น เจ้าหมอนี่สมองยังใช้งานได้ดีอยู่รึเปล่า?
หลังจากตื่นตกใจแล้วพวกเขาทั้งหลายก็เริ่มทำการเยาะเย้ยดูถูก
กงหลินนั้นแทบทนไม่ไหวจนต้องระเบิดอารมณ์ออกมา “เจ้าโง่เง่าตาบอด กล้ามาลองดีกับวิหารนักบวชเรา!”
พูดจบกงหลินก็กำลังจะลงมือจัดการเย่หยวน แต่เย่หยวนกลับยิ้มออกมา “เรื่องที่ว่าข้าจะมาลองดีกับวิหารหรือไม่ ท่านก็น่าจะรอให้ข้าได้ทดสอบก่อนแล้วค่อยตัดสินใช่ไหม? เรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้พี่กงท่านรอไม่ได้เลยหรือ?”
กงหลินยิ้มออกมาอย่างเย็นเยือก “กระดาษสามัญนั้นแม้แต่ผู้อาวุโสท่านยังทำไม่ได้ แค่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมอย่างเจ้าจะมีปัญญาอะไร?”
“หึๆ ข้าบอกแล้ว ไอ้เด็กคนนี้มันมาก่อเรื่องชัดๆ! ศิษย์พี่กงหลิน ท่านจัดการมันลงเถอะ!” ตอนนี้มู่หยวนชุนก็พูดเสริมขึ้นมาอีก
กงหลินกำลังจะลงมือแต่จู่ๆ ผู้อาวุโสฉีหยูที่นั่งอยู่ก็กล่าวขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...