แต่เป็นฮันยองที่หัวเราะขึ้นมาก่อน “ฮ่าๆ โชคยังดีที่เฒ่าหยางมาทันเวลาพอดี ไม่เช่นนั้นเราทั้งสองคงได้ตายลงแล้ววันนี้ เจ้าเจ่าเจาคนนี้สักวันข้าจะทำให้มันได้ชดใช้!”
หยางฝานหันมามองเขา “เจ้านี่ชอบสร้างปัญหาจริงๆ นะ!”
ฮันยองร้องบอกออมาอย่างซื่อตรง “เรื่องนี้ข้าไม่ได้ก่อเสียหน่อย! ข้าแค่กำลังคุยกับน้องเย่อยู่ดีๆ แต่พวกมันก็เจ้ามาหาเรื่อง จะว่าไปน้องเย่เองก็ช่างยอดเยี่ยมนัก! ข้าชอบคนเช่นนี้! อ่า ถึงแม้ข้าจะปกป้องใดๆ เจ้าไม่ได้แต่เฒ่าหยางปกป้องเจ้าได้แน่!”
หยางฝานหันมามอง “เรื่องนี้มันยังไม่จบ! อย่าได้ลืมสิว่าพวกคชสารมารมันมีเส้นสายในนิกายเงาจันทร์มากมายแค่ไหน บางคนแม้จะเป็นข้าก็ไม่อาจไปลบหลู่ได้หรอกนะ!”
ฮันยองหน้าเปลี่ยนสีไป ท่าทางยิ้มตื่นเต้นของเขาหายไปสิ้น
เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็เข้าใจได้ว่าในนิกายเงาจันทร์เองก็ดูท่าจะมีพรรคพวกต่างๆ มากมาย
เรื่องนี้มันไม่แปลก เพราะด้วยระบบในมิติอนัตตากอไผ่นี้หลายต่อหลายคนต่างเปลี่ยนถ่ายย้ายจากนิกายระดับล่างขึ้นมาอยู่นิกายระดับบน แน่นอนว่าพวกเขาย่อมต้องมีการสร้างพรรคสร้างพวก พวกเขาพวกเราเป็นเรื่องปกติ
การไปยั่วยุสามพี่น้องเจ่า หากผิดพลาดไปแม้แต่น้อยมันก็จะเป็นการหาเรื่องกับพวกคชสารมารทั้งหมด
“หึ! ยังไงเสียน้องเย่ก็จะเป็นน้องชายของข้าฮันยองคนนี้ ในวันหน้า! หากมีใครกล้ามาข่มเหงเขา พวกมันจะต้องข้ามศพข้าไปก่อน!” ฮันยองบอก
เย่หยวนยิ้มตอบกลับมาเมื่อได้ยิน “เช่นนั้นข้าคงต้องขอบคุณพี่ฮันก่อนแล้ว”
ฮันยองยิ้มรับ “จะว่าไปน้องเย่ เจ้ามีพลังฝีมือที่ทำให้ข้าต้องมองเจ้าใหม่เลย ไม่แน่บางทีเจ้าอาจจะสามารถผ่านการทดสอบไปก็ได้”
…
เบื้องหน้าประตูเขายักษ์กำลังมีนักยุทธราชันพระเจ้ามากมายมารวมตัวกันอยู่
ตอนนี้สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องไปที่จุดๆ เดียว
เป้าสายตาคนนั้นคือนางงามในชุดสีม่วงสดพร้อมผิวที่ขาวนวล คิ้วคมได้รูป ปากสีแดงอวบอิ่ม จัดได้ว่าเป็นสาวงามแห่งยุคเลยทีเดียว
“นั่นมันไป่หลี่ชิงหยานจากนิกายเหย้าอมตะรึเปล่า? ช่างสวยงามแท้!”
“ข้าได้ยินว่านางเป็นถึงราชันพระเจ้าเก้าดาวได้ตั้งแต่อายุยังไม่ถึงแปดร้อย ช่างเป็นยอดอัจฉริยะอย่างแท้จริง!”
“การที่นางมารวมงานทดสอบเข้านิกายเงาจันทร์เช่นนี้มันคงเพื่อเข้าวิหารศักดิ์สิทธิ์กอไผ่ใช่ไหม?”
…
เย่หยวนเองก็ตื่นตกใจไม่น้อยเพราะแม่นางไป่หลี่ชิงหยานคนนี้มีพรสวรรค์ที่เหนือล้ำระดับเดียวกับเล้งชิวหลิงที่เขาเคยพบเจอตอนขึ้นเขาแห่งถงเทียนบนมหาพิภพถงเทียน
ดูท่ายอดอัจฉริยะมันจะมีอยู่ทุกที่จริงๆ
ที่ด้านข้างไป่หลี่ชิงหยานนั้นมันยังมีชายหนุ่มอยู่อีกสองคน คลื่นพลังที่ออกมาจากร่างของพวกเขาเองนั้นมันก็ไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าไป่หลี่ชิงหยานเลย
“สองคนนั้น หนึ่งคือต้วนชิงหงจากนิกายดาบเมฆา อีกคนนามจงฮันหลินจากนิกายบุปผาเหิน เมื่อรวมเข้ากับนิกายเหย้าอมตะแล้วสามยอดนิกายนี้ก็เป็นนิกายแนวหน้าของนิกายระดับนภาสวรรค์! เมื่อพวกเขาทั้งสามคิดมาร่วมนิกายเงาจันทร์ในครั้งนี้แล้วมันก็คงเพื่อร่วมวิหารศักดิ์สิทธิ์กอไผ่เป็นแน่ เฮ้อ แค่มองก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่นางไป่หลี่ชิงหยานนั้นเป็นสาวงามที่เราทำได้แค่มอง เจ้าไม่มีโอกาสใดๆ แน่ แม้ว่าเจ้าเองก็จะรูปงามไม่น้อยแต่พลังฝีมือของเจ้ามันต่ำจนเกินไป”
เมื่อฮันยองเห็นเย่หยวนมองดูนาง เขาก็เข้ามาบอกเสริมและแซะเย่หยวนอย่างไม่คิดยั้งปาก
เย่หยวนได้แต่หลอกตาไปมา เขาไปสนใจในตัวไป่หลี่ชิงหยานนางนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ระหว่างที่คุยไปก็มีศิษย์ในชุดของนิกายเงาจันทร์ชั้นนอกเดินเข้ามาหาเย่หยวน
ฮันยองที่เห็นผู้มาใหม่นี้ถึงกับหน้าถอดสีไปทันที เขาบอกขึ้นมา “ซ่งถิง มันเป็นศิษย์พี่ของสามพี่น้องเจ่า!”
ซ่งถิงนัน้มีใบหน้าไม่รับแขกอย่างถึงที่สุด “เด็กน้อย ได้ยินว่าเจ้าลอบทำร้ายเจ่าซีจนขาแขนหักไม่สามารถมาเข้าร่วมการสอบครั้งนี้ได้?”
เย่หยวนนั้นโจมตีเขาไปอย่างหนักหน่วง ต่อให้เขาจะกินโอสถรักษาใดๆ มันก็คงไม่มีทางหายทันมาทดสอบในครั้งนี้
ด้วยสภาพของเจ่าซีในตอนนี้ เขาย่อมไม่มีทางที่จะเข้าร่วมการทดสอบใดๆ ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...