ตอนที่ 1783 ร่วมกลุ่มกับข้า – ตอนที่ต้องอ่านของ จอมเทพโอสถ
ตอนนี้ของ จอมเทพโอสถ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1783 ร่วมกลุ่มกับข้า จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
แต่เป็นฮันยองที่หัวเราะขึ้นมาก่อน “ฮ่าๆ โชคยังดีที่เฒ่าหยางมาทันเวลาพอดี ไม่เช่นนั้นเราทั้งสองคงได้ตายลงแล้ววันนี้ เจ้าเจ่าเจาคนนี้สักวันข้าจะทำให้มันได้ชดใช้!”
หยางฝานหันมามองเขา “เจ้านี่ชอบสร้างปัญหาจริงๆ นะ!”
ฮันยองร้องบอกออมาอย่างซื่อตรง “เรื่องนี้ข้าไม่ได้ก่อเสียหน่อย! ข้าแค่กำลังคุยกับน้องเย่อยู่ดีๆ แต่พวกมันก็เจ้ามาหาเรื่อง จะว่าไปน้องเย่เองก็ช่างยอดเยี่ยมนัก! ข้าชอบคนเช่นนี้! อ่า ถึงแม้ข้าจะปกป้องใดๆ เจ้าไม่ได้แต่เฒ่าหยางปกป้องเจ้าได้แน่!”
หยางฝานหันมามอง “เรื่องนี้มันยังไม่จบ! อย่าได้ลืมสิว่าพวกคชสารมารมันมีเส้นสายในนิกายเงาจันทร์มากมายแค่ไหน บางคนแม้จะเป็นข้าก็ไม่อาจไปลบหลู่ได้หรอกนะ!”
ฮันยองหน้าเปลี่ยนสีไป ท่าทางยิ้มตื่นเต้นของเขาหายไปสิ้น
เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็เข้าใจได้ว่าในนิกายเงาจันทร์เองก็ดูท่าจะมีพรรคพวกต่างๆ มากมาย
เรื่องนี้มันไม่แปลก เพราะด้วยระบบในมิติอนัตตากอไผ่นี้หลายต่อหลายคนต่างเปลี่ยนถ่ายย้ายจากนิกายระดับล่างขึ้นมาอยู่นิกายระดับบน แน่นอนว่าพวกเขาย่อมต้องมีการสร้างพรรคสร้างพวก พวกเขาพวกเราเป็นเรื่องปกติ
การไปยั่วยุสามพี่น้องเจ่า หากผิดพลาดไปแม้แต่น้อยมันก็จะเป็นการหาเรื่องกับพวกคชสารมารทั้งหมด
“หึ! ยังไงเสียน้องเย่ก็จะเป็นน้องชายของข้าฮันยองคนนี้ ในวันหน้า! หากมีใครกล้ามาข่มเหงเขา พวกมันจะต้องข้ามศพข้าไปก่อน!” ฮันยองบอก
เย่หยวนยิ้มตอบกลับมาเมื่อได้ยิน “เช่นนั้นข้าคงต้องขอบคุณพี่ฮันก่อนแล้ว”
ฮันยองยิ้มรับ “จะว่าไปน้องเย่ เจ้ามีพลังฝีมือที่ทำให้ข้าต้องมองเจ้าใหม่เลย ไม่แน่บางทีเจ้าอาจจะสามารถผ่านการทดสอบไปก็ได้”
…
เบื้องหน้าประตูเขายักษ์กำลังมีนักยุทธราชันพระเจ้ามากมายมารวมตัวกันอยู่
ตอนนี้สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องไปที่จุดๆ เดียว
เป้าสายตาคนนั้นคือนางงามในชุดสีม่วงสดพร้อมผิวที่ขาวนวล คิ้วคมได้รูป ปากสีแดงอวบอิ่ม จัดได้ว่าเป็นสาวงามแห่งยุคเลยทีเดียว
“นั่นมันไป่หลี่ชิงหยานจากนิกายเหย้าอมตะรึเปล่า? ช่างสวยงามแท้!”
“ข้าได้ยินว่านางเป็นถึงราชันพระเจ้าเก้าดาวได้ตั้งแต่อายุยังไม่ถึงแปดร้อย ช่างเป็นยอดอัจฉริยะอย่างแท้จริง!”
“การที่นางมารวมงานทดสอบเข้านิกายเงาจันทร์เช่นนี้มันคงเพื่อเข้าวิหารศักดิ์สิทธิ์กอไผ่ใช่ไหม?”
…
เย่หยวนเองก็ตื่นตกใจไม่น้อยเพราะแม่นางไป่หลี่ชิงหยานคนนี้มีพรสวรรค์ที่เหนือล้ำระดับเดียวกับเล้งชิวหลิงที่เขาเคยพบเจอตอนขึ้นเขาแห่งถงเทียนบนมหาพิภพถงเทียน
ดูท่ายอดอัจฉริยะมันจะมีอยู่ทุกที่จริงๆ
ที่ด้านข้างไป่หลี่ชิงหยานนั้นมันยังมีชายหนุ่มอยู่อีกสองคน คลื่นพลังที่ออกมาจากร่างของพวกเขาเองนั้นมันก็ไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าไป่หลี่ชิงหยานเลย
“สองคนนั้น หนึ่งคือต้วนชิงหงจากนิกายดาบเมฆา อีกคนนามจงฮันหลินจากนิกายบุปผาเหิน เมื่อรวมเข้ากับนิกายเหย้าอมตะแล้วสามยอดนิกายนี้ก็เป็นนิกายแนวหน้าของนิกายระดับนภาสวรรค์! เมื่อพวกเขาทั้งสามคิดมาร่วมนิกายเงาจันทร์ในครั้งนี้แล้วมันก็คงเพื่อร่วมวิหารศักดิ์สิทธิ์กอไผ่เป็นแน่ เฮ้อ แค่มองก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่นางไป่หลี่ชิงหยานนั้นเป็นสาวงามที่เราทำได้แค่มอง เจ้าไม่มีโอกาสใดๆ แน่ แม้ว่าเจ้าเองก็จะรูปงามไม่น้อยแต่พลังฝีมือของเจ้ามันต่ำจนเกินไป”
เมื่อฮันยองเห็นเย่หยวนมองดูนาง เขาก็เข้ามาบอกเสริมและแซะเย่หยวนอย่างไม่คิดยั้งปาก
เย่หยวนได้แต่หลอกตาไปมา เขาไปสนใจในตัวไป่หลี่ชิงหยานนางนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ระหว่างที่คุยไปก็มีศิษย์ในชุดของนิกายเงาจันทร์ชั้นนอกเดินเข้ามาหาเย่หยวน
ฮันยองที่เห็นผู้มาใหม่นี้ถึงกับหน้าถอดสีไปทันที เขาบอกขึ้นมา “ซ่งถิง มันเป็นศิษย์พี่ของสามพี่น้องเจ่า!”
ซ่งถิงนัน้มีใบหน้าไม่รับแขกอย่างถึงที่สุด “เด็กน้อย ได้ยินว่าเจ้าลอบทำร้ายเจ่าซีจนขาแขนหักไม่สามารถมาเข้าร่วมการสอบครั้งนี้ได้?”
เย่หยวนนั้นโจมตีเขาไปอย่างหนักหน่วง ต่อให้เขาจะกินโอสถรักษาใดๆ มันก็คงไม่มีทางหายทันมาทดสอบในครั้งนี้
ด้วยสภาพของเจ่าซีในตอนนี้ เขาย่อมไม่มีทางที่จะเข้าร่วมการทดสอบใดๆ ได้
ซ่งถิงเปลี่ยนสีหน้าและตอบกลับมา “ดี ดีมาก! ไอ้เด็กคนนี้ เจ้าเตรียมตัวรับความพิโรธของข้าไว้เลย!”
เมื่อคนอื่นๆ เห็นภาพนั้นพวกเขาก็ได้แต่ตื่นตกใจจนอ้าปากค้าง
นอกจากสามนิกายใหญ่แล้ว นิกายคชสารมารนั้นก็นับว่ามีพลังเหนือกว่าใครๆ
ยอดฝีมือที่พวกเขาส่งมายังนิกายเงาจันทร์นั้นมีมากมายมหาศาล เส้นสายและอำนาจของพวกเขาเหล่านี้นับได้ว่าเหนือล้ำกว่าใครๆ
แต่ตอนนี้เย่หยวน ราชันพระเจ้าห้าดาวคนนี้กลับคิดไปท้าทายคชสารมารเสียอย่างนั้น
ไอ้เจ้าหมอนี่มันคงไม่สมองที่ไม่ปกติสักเท่าไหร่ใช่ไหม?
ฉันยองยกนิ้วโป้งขึ้นบอก “เป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ! น้องเย่เจ้าช่างกล้า! ซ่งถิงนั้นเป็นถึงยอดยุทธอาณาจักรนภาสวรรค์ครึ่งก้าว เขานั้นแทบจะได้เข้าไปเป็นศิษย์ชั้นในของนิกายแล้ว แต่ตอนนี้เขาคงคิดที่จะใช้เส้นสายของนิกายคชสารมารทั้งหมดออกมาในการสอบครั้งนี้และพยายามสังหารเจ้าลงเป็นแน่”
หยางฝานได้แค่ขมวดคิ้วแน่น “เจ้าเด็กคนนี้ช่างชอบก่อเรื่องนัก! ยอมๆ ไปหน่อยจะเป็นไรไป? ผู้ที่มาร่วมการสอบในครั้งนี้หลายคนมีพลังฝีมือไม่ได้ด้อยไปกว่าข้าเลย ที่สำคัญนิกายบุปผาเหินนั้นมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับนิกายคชสารมาร บางทีพวกมันอาจจะถึงขั้นบอกให้จงฮันหลินออกมาจัดการเจ้าเองเลยก็ได้ ถึงตอนนั้นต่อให้เป็นข้า ข้าก็คงไม่อาจต้านทานได้!”
เย่หยวนยิ้มตอบ “ข้าขอยอมยืนตายดีกว่าต้องก้มหัวให้ใคร หากอยากให้ข้ายอมมันย่อมไม่มีทาง หากอยากสังหารข้าก็จงมาพร้อมกับกำลังทั้งหมดที่มี! อ่า… เรื่องการสอบในครั้งนี้พี่ฮันกับพี่หยางไม่ต้องมารวมกลุ่มกับข้าหรอก ข้าจะขออยู่คนเดียวเอง”
เมื่อฮันยองได้ยินเขาก็ตอบกลับมาด้วยท่าทางสุดไม่พอใจ “เจ้าว่ายังไงนะ? ให้พูดไปเรื่องทั้งหมดนี้มันล้วนแล้วแต่เป็นความผิดข้า มีหรือที่ข้าจะทิ้งเจ้าลง? หากเจ้ายังพูดจาเช่นนี้อีกอย่าได้หาว่าข้าไม่เตือนเชียว!”
เย่หยวนรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในหัวใจแต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร ก็มีเสียงนุ่มนวลเสียงหนึ่งลอยดังมา
“เจ้าไม่มีคนร่วมกลุ่มด้วยหรือ? หากไม่มีมาร่วมกลุ่มกับข้าไหม?”
เย่หยวนหันไปมองที่ต้นเสียและมันจะยังเป็นใครไปได้นอกจากไป่หลี่ชิงหยาน?
ทุกคนได้แต่อ้าปากค้างเมื่อได้ยิน มองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
“ฮ-ฮ่าๆ เช่นนั้น… ตามเจ้าไปคงอันตรายเกินพอดี ข้าขอทิ้งเจ้าล่ะ” ฮันยองกระแอมไอออกมาพร้อมพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ดูมีเลศนัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
2970 อิหลินเสวียอิห่าราก ฟื้นขึ้นมาก็ทิ้งกันเลย😂...
พวกเมีย เพื่อนฝูง น้องๆ แม่งเป็นได้แต่ตัวถ่วง ตัวภาระ😂...
ตอนแรกๆอ่านยังไง...
DDD...