จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1798

สรุปบท ตอนที่ 1798 ไม่มีถ้ำหลวง: จอมเทพโอสถ

สรุปตอน ตอนที่ 1798 ไม่มีถ้ำหลวง – จากเรื่อง จอมเทพโอสถ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 1798 ไม่มีถ้ำหลวง ของนิยายActionเรื่องดัง จอมเทพโอสถ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 1798 ไม่มีถ้ำหลวง
ยอดหลักของนิกายนั้นอยู่ห่างไกลยอดรองไปมากมาย ตอนนี้เย่หยวนเพิ่งจะมาถึงยอดผู้กล้าสวรรค์ได้ผ่านทางค่ายกลเคลื่อนย้ายและรู้สึกราวกับว่าตัวเองได้เป็นเทพตกสวรรค์

เมื่อเทียบกับยอดหลักแล้ว สถานที่แห่งนี้มันช่างดูทรุดโทรมกว่ามาก

“เย่หยวน ข้าล่ะไม่อยากยอมรับจริงๆ! ด้วยฝีมือระดับเจ้าอย่างน้อยๆ ก็ควรได้ไปอยู่บนยอดรองสามลำดับแรกสิ ไอ้คนพวกนั้นมันใช้พลังอำนาจของตัวเองข่มเหงผู้คนเสียจริงถึงได้ส่งเจ้ามายังยอดผู้กล้าสวรรค์เช่นนี้” ข้างๆ เย่หยวนนั้นมีชายหนุ่มร่างผอมคนหนึ่งเดินมาด้วยท่าทางไม่พอใจ

ชายหนุ่มคนนี้มีนามว่าเซงโหยว เขาเองก็มาจากนิกายไร้ชื่อแห่งหนึ่ง

เขานั้นมีพลังฝีมือที่ไม่น้อย เป็นถึงยอดราชันพระเจ้าเจ็ดดาว ระหว่างการสอบรอบที่สองเขาเองก็ตียอดกลองจรัสไปได้ถึงระดับสอง

ในหมู่ศิษย์ที่มาจากนิกายเล็กนั้น เขานับได้ว่าเป็นคนในหมู่ยอดคนแล้ว

ให้พูดตามตรงแล้ว เขาไม่ควรจะได้มาอยู่ที่ยอดผู้กล้าสวรรค์นี้เลย แต่สุดท้ายเขากลับถูกโยนมายังยอดผู้กล้าสวรรค์แห่งนี้

คนที่เหลืออีกสี่สิบเอ็ดคนนั้นต่างได้ไปอยู่ยังยอดรองอีกแปดแห่ง

เรื่องการกระทำที่ไม่เท่าเทียมนี้ เซงโหยวย่อมไม่พอใจอยู่อย่างมากเป็นทุนเดิม

แต่ว่าเซงโหยวนั้นยิ่งเคารพเย่หยวนอย่างมาก การสะบัดมือน้อยๆ ของเขานั้นมันทำให้เซงโหยวประทับใจมาก

มาจากนิกายเล็กๆ เช่นเดียวกัน เย่หยวนกลับมีพรสวรรค์และความเป็นไปได้มากกว่าเขาหลายเท่าตัว

เย่หยวนแค่ยิ้มตอบกลับไป “หากเป็นทอง อยู่ที่ไหนก็ย่อมมีค่า ข้าได้ยินว่าผู้อาวุโสของยอดผู้กล้าสวรรค์เองก็มาจากนิกายเล็กเช่นกัน แต่เขาก็ยังสามารถพัฒนาตัวไปจนถึงอาณาจักรเทพถ่องแท้ได้ กลายเป็นผู้ปกครองแผ่นดิน”

เซงโหยวยิ้มออกมาอย่างขื่นขม “ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ยอดผู้กล้าสวรรค์นี้ก็ยังเป็นสถานที่ที่ทรุดโทรมที่สุดในนิกายเงาจันทร์แล้ว ถูกอีกแปดยอดดูถูกเหยียดหยามมาตลอด!”

ในนิกายเงาจันทร์นี้ ยอดผู้กล้าสวรรค์นั้นนับได้ว่าเป็นแดนคนนอก ไม่มีใครคิดอยากที่จะมายังยอดแห่งนี้ด้วยตัวเอง

คนทั้งหลายที่ได้มายังที่แห่งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นศิษย์ที่นิกายไม่ต้องการ หรือเป็นศิษย์ที่ไร้ค่ายสังกัด

เมื่อมาถึงมันก็เท่ากับว่าคนผู้นั้นต้องเสียอนาคตไป มันเป็นการยากมากที่จะลืมตาอ้าปากได้ในสถานที่แห่งนี้

เย่หยวนเดินเข้าไปตบไหล่ของเซงโหยวด้วยรอยยิ้ม “สหาย ได้เข้านิกายเงาจันทร์มาแค่นี้ ดูเหมือนเจ้าจะลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นใคร!”

พูดจบเย่หยวนก็เดินนำหน้าเขาโถงยอดผู้กล้าสวรรค์ไป

เซงโหยวมองดูหลังที่เดินนำไปนั้นของเย่หยวนด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน

ใช่แล้ว เขาเองก็มาจากนิกายระดับราชันพระเจ้าไร้ชื่อแห่งหนึ่ง ไม่มีทรัพยากรใดๆ มากมาย ขาดแคลนพลังวิญญาณในการบ่มเพาะพลังอย่างมาก

แต่เขาก็ยังดิ้นรนด้วยตัวเองจนเดินมาถึงจุดนี้ได้

เขาคิดว่าเมื่อเข้ามาในนิกายเงาจันทร์แล้วด้วยความสามารถพรสวรรค์ของตัวเอง เขาจะโผทะยานขึ้นฟ้าได้ในเวลาสั้นๆ

แต่สภาพตอนนี้มันต่างจากที่เขาวาดฝันมาก

เพราะฉะนั้นเขาจึงซึมเศร้า ไม่พอใจและคิดว่าอนาคตของตัวเองกำลังจบสิ้นลง

แต่เมื่อลองมองดูย้อนกลับไป ต่อให้ที่ที่เขาได้ร่วมจะเป็นยอดผู้กล้าสวรรค์นี้ มันก็ยังมีสภาพดีกว่านิกายเก่าของเขาอย่างมากมาย

เพราะฉะนั้นจะยังมาบ่นอะไรอีก?

ตราบเท่าที่เขายังคงพยายามอย่างไม่แพ้ในอดีต สักวันเขาต้องขึ้นลุกยืนเคียงบ่าเคียงไหล่คนอื่นๆ ได้แน่ จะได้ขึ้นไปตบหน้าคนที่เคยดูถูกเขาไว้

สำหรับนักยุทธแล้วแม้ว่าทรัพยากรจะสำคัญแค่ไหน แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือความต้องการที่จะเข้าถึงเต๋า

เมื่อเราหลงจากเส้นทางของตัวเองแล้วเท่านั้น ที่อนาคตของคนเราจะดับมืดลงได้

“ปลุกผู้หลับฝันให้ตื่นสู้ความจริง! เย่หยวนข้าขอขอบคุณ!”

สายตาของเซงโหยวที่มองตามแผ่นหลังของเย่หยวนไปในตอนนี้มันเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นอีกครั้งหนึ่ง

หน้าของศิษย์คนนั้นแดงขึ้นมาด้วยความไม่พอใจทันที “ไอ้เด็กนรก เจ้ากล้าพูดเช่นนี้ต่อหน้าศิษย์พี่เจ้า?”

เย่หยวนหันไปมองด้วยสายตาสุดดูถูก “เจ้าคิดอยากสังหารข้า มีหรือที่ข้ายังต้องมาเกรงใจเจ้า? ที่สำคัญ… เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหน ถึงกล้ามาอวดอ้างเรียกตัวเองว่าเป็นศิษย์พี่ข้า?”

ศิษย์ที่ดูแลการมอบถ้ำหลวงคนนี้เป็นแค่ราชันพระเจ้าเก้าดาว เย่หยวนจึงไม่คิดจะสนใจเขาแม้แต่น้อย

ศิษย์คนนั้นยิ้มออกมาอย่างชั่วร้ายทันที “ได้สิ ดูเหมือนว่าไอ้เด็กใหม่คนนี้มันจะโอหังนัก! ข้าจะสั่งสอนเจ้าเองว่าข้านั้นสมควรเป็นศิษย์พี่ของเจ้าหรือไม่!”

ภายในเขตนิกายเงาจันทร์ทั้งยอดหลักของเก้ายอดรองนั้นมันมีกฎห้ามศิษย์ฆ่าสังหารกันเองอยู่

แต่หากมีเหตุผลพอ การลงมือสั่งสอนกันมันก็ย่อมมิใช่ปัญหา

ศิษย์คนนั้นคิดว่าเย่หยวนเป็นแค่ราชันพระเจ้าหกดาวและกล้ามาอวดดีต่อหน้าเขา เขาจึงโกรธแค้นจนหน้าดำหน้าแดง

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมศิษย์พี่เชียนเย่ถึงได้อยากสั่งสอนมันนัก ที่แท้ไอ้เด็กคนนี้มันก็ช่างแสนจะอวดดีนี่เอง

ระหว่างพูดไปศิษย์คนนั้นก็ปล่อยคลื่นพลังของราชันพระเจ้าเก้าดาวออกมา พร้อมตบฟาดฝ่ามือมาทางเย่หยวนอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า

“เย่หยวนระวัง!”

เซงโหยวไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกระโดดออกมาโจมตีหน้าตายเช่นนี้ ตอนนี้แม้เขาจะอยากห้ามมันก็ไม่ทันเสียแล้ว

แถมอีกฝ่ายนั้นยังเป็นถึงราชันพระเจ้าเก้าดาว แข็งแกร่งกว่าตัวเขาไปมากทีเดียว

เพี๊ยะ!

เสียงตบดังขึ้นสนั่นฟ้า ร่างของศิษย์คนนั้นลอยปลิวไปไกล

…………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ