จอมเทพโอสถ นิยาย บท 1863

เบื้องหน้าสายตาของพวกเขาทั้งหลายนั้นมันคือทะเลทรายกว้างใหญ่ภายใต้แสงอาทิตย์อันร้อนแรง ดั่งว่าโลกทั้งใบนี้ถูกวางไว้บนเตาย่างร้อนๆ

เมื่อเข้าประตูแห่งวิหคชาดมาพวกเขาก็ได้พบเจอภาพเช่นนี้

“ไอ้สถานที่แห่งนี้มองไปอย่างไรก็ไม่เห็นจุดสิ้นสุด เราจะไปหาเลือดแท้ของวิหคชาดได้จากที่ใดกัน?”

“ดูท่าแล้วมันคงอยู่ลึกเข้าไปในทะเลทราย อย่าได้ชักช้ารีบมุ่งหน้าไปก่อนคนอื่นจะแย่งชิงมันไปได้ก่อน”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็รีบรุดมุ่งหน้าเดินเข้าสู่ทะเลทรายราวระลอกคลื่น

“เย่หยวน เราเองก็ไปกันเถอะ” เล้งชิวหลิงบอก

แต่เย่หยวนกลับยิ้มขึ้นมา “ยิ่งรีบจะยิ่งช้า ที่ด้านนอกมันสุดแสนอันตรายถึงขนาดนั้นแล้วมีหรือที่ทะเลทรายนี้มันจะไม่อันตราย?”

นั่นทำให้เล้งชิวหลิงหน้าถอดสีไปในทันที ในทะเลทรายกว้างใหญ่นี้นางไม่อาจสัมผัสได้ถึงความอันตรายใดๆ ที่หลบซ่อนอยู่เลย

นอกจากเรื่องที่ว่ามันร้อนนิดหน่อยแล้วมันก็ไม่มีอะไรที่ดูเป็นพิษเป็นภัย

“นี่มัน… แล้วเราจะทำอย่างไรดี?”

เย่หยวนบอก “เจ้าฝึกฝนวรยุทธบ่มเพาะธาตุเย็น เจ้าจงใช้ปราณเทวะครอบคลุมตัวเองไว้แล้วเจ้าย่อมที่จะปลอดภัย”

เล้งชิวหลิงนั้นไม่ค่อยเข้าใจในความหมายนั้นแต่นางก็ยังคงทำตามที่เย่หยวนบอกอย่างว่าง่าย

ตอนนี้บนร่างกายของเล้งชิวหลิงมันค่อยๆ มีคลื่นความเย็นกระจายตัวออกมาทำให้นางรู้สึกเย็นสบายผ่อนคลายลงมาก

หลังจากทำเช่นนี้คนทั้งสองก็ค่อยๆ เดินเข้าไปในทะเลทรายอย่างไม่คิดรีบร้อน

“หึ ไอ้เจ้าสองคนนั้นมันกลับทำเรื่องราวไร้สาระ ที่แห่งนี้มันไม่มีภัยอันตรายใดๆ ทั้งสิ้นแต่พวกมันกลับคิดใช้ปราณเทวะออกมา เมื่อถึงเวลาที่เจออันตรายแท้จริงเข้า ข้าอยากรู้เสียจริงว่าพวกมันจะยังเอาพลังที่ไหนจะต่อสู้ได้”

เมื่อเห็นปราณเทวะที่ไหลวนอยู่บนร่างของเล้งชิวหลิงเสียงหัวเราะเยาะเย้ยต่างๆ นาๆ ก็ดังขึ้นมา

เพราะในสายตาของทุกผู้คนแล้วการทำเช่นนั้นมันย่อมโง่เง่าอย่างไร้เปรียบ

การเดินปราณเทวะคลุมตัวนั้นมันย่อมหมายถึงว่าต้องสูญเสียปราณเทวะไปเรื่อยๆ หากเวลานั้นได้ไปเจอศัตรูเข้าแล้วพวกเขาคงไม่อาจรับมือกับศัตรูด้วยพลังสภาพที่เต็มร้อยได้แน่

“อ้าก!”

ในตอนนั้นเองกลับมีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาในหมู่คนก่อนจะเป็นภาพของร่างกายเขานั้นที่ติดไฟลุกท่วม

ทุกคนหน้าถอดสีทันทีก่อนจะรีบวิ่งพุ่งตัวหนีจากคนผู้นั้น

ไม่นานนักร่างกายของคนผู้นั้นก็มอดไหม้จนกลายเป็นธุลีปลิวหายไปกับสายลม

ทุกคนหน้าถอดสีไปตามๆ กันอย่างไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เขานั้นเดินมาอย่างไม่มีท่าทีใดๆ แต่ทำไมจู่ๆ ร่างกายของเขาจึงติดไฟขึ้นเช่นนั้นได้?

จู่ๆ ก็มีคนร่ำร้องขึ้นอย่างตื่นตกใจ “มัน… เกิดอะไรขึ้นกัน?”

และระหว่างที่ทุกผู้คนกำลังมึนงงกับภาพเหตุการณ์ตรงหน้าจู่ๆ ก็มีอีกหลายคนที่ร่างกายติดไฟจนถูกไหม้ไม่เหลือซาก

ตอนนี้ทุกผู้คนได้รู้แล้วว่าเรื่องราวเหตุการณ์ตรงหน้ามันไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดาแน่

ทะเลทรายแห่งนี้มันแฝงมาด้วยภัยเงียบที่พวกเขาไม่อาจสัมผัสถึงได้

“ท-ทุกคนระวังด้วย! ไฟนี้มันแสนที่จะร้อนแรง!”

“ทำไมจู่ๆ ร่างของเขาจึงมอดไหม้ไปเช่นนั้นกัน?”

“ข้า… ข้าไม่เอาด้วยแล้ว! ข้าขอตัวออกไปก่อนล่ะ!”

การได้เห็นภาพของคนมากมายมอดไหม้ไปตรงหน้ามันทำให้เหล่าคนทั้งหลายต้องตื่นตระหนก

ตอนนี้หลายๆ คนถึงขั้นคิดที่จะกลับออกไปภายนอก

แต่พวกเขาเดินไปได้แค่สองก้าวร่างกายก็กลับมอดไหม้กลายเป็นธุลี

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายได้แต่ยืนมองดูภาพตรงหน้าอย่างมึนงงไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

เล้งชิวหลิงหันมามองเย่หยวนด้วยสายตาที่ตกตะลึงไม่แพ้กัน นางรู้สึกได้ว่าการที่เย่หยวนบอกให้นางเดินปราณเทวะนั้นมันก็เพื่อทำการขับไล่ไฟที่ว่านี้ไป

แต่เจ้าสิ่งนี้มันคืออะไรกันแน่?

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายตอนนี้กลับไม่มีใครกล้าจะเดินไปไหนแม้สักก้าวเดียว

แต่มันก็ไร้ความหมายเพราะแม้จะหยุดนิ่งไปแล้ว แต่หลายๆ คนก็ยังลุกติดไฟร่างกายมอดไหม้สลายเป็นธุลี

ด้วยเหตุนี้พวกเย่หยวนที่เดินมาอย่างช้าเชื่องในตอนแรกจึงได้ขึ้นกลายเป็นผู้นำกลุ่มไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ