“เจ้าว่าอย่างไรนะ?!” เมื่อหยูจินซงได้ยินเช่นนั้นเขาก็ระเบิดเสียงร้องขึ้นทันที
แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่คิดสนใจหันกลับมามอง สายตาของเขาจ้องมองไปยังหยูเหวินเฟิงอย่างไม่คิดกลัวแม้แต่น้อย
แต่ความกล้าหาญของเย่หยวนนี้มันกลับทำให้ทุกผู้คนสะท้าน
เขานั้นไม่คิดอยากได้ที่ดินเท่าร้อยเมือง เขานั้นแค่อยากได้ชีวิตของหยูจินซง มันช่างเป็นมุมมองที่กว้างขวาง!
แน่นอนว่ามันต้องมีอีกหลายผู้คนที่คิดว่าเขาโง่เง่า
แต่เจียงยู่ถังที่ยืนอยู่ข้างๆ เขานั้นกลับเข้าใจได้อย่างดีว่าเย่หยวนแค่ต้องการจะระบายความโกรธแค้นให้แก่พวกเขาสองพ่อลูก
ที่ดินของหนึ่งร้อยเมืองนั้นมันจะมีพลังมีอำนาจเพียงใด จะสร้างชื่อเสียงยิ่งใหญ่ได้เพียงไหน? หยูเหวินเฟิงนั้นได้ยื่นข้อเสนอที่ดีเปรียบได้ดั่งเป็นเส้นเลือดของเมืองหลวงจักรพรรดิให้แก่เย่หยวน
แต่เย่หยวนกลับไม่คิดสนใจมันแม้แต่หางตา
หยูเหวินเฟิงร้องบอก “นอกจากเรื่องที่เจ้าว่ามานี้เราย่อมตกลงกันได้ทั้งสิ้น”
เย่หยวนส่ายหัวออกมา “ข้านั้นยื่นข้อแม้ ไม่ได้มาขายข้อเสนอ!”
นั่นทำให้ใบหน้าของหยูเหวินเฟิงดำเขียวขึ้นทันที “เด็กน้อย เจ้าไม่คิดกลัวความพิโรธของจวนเจ้าเมืองเลยใช่หรือไม่? เจ้ารู้ใช่ไหมว่ามันจะหมายความว่าอย่างไร?”
“หึ! หยูเหวินเฟิง เจ้าคิดว่าตัวเองเก่งกาจมากหรือ? ข้า หลี่คงหมิงจะขอปกป้องเย่หยวนเอง!” หลี่คงหมิงบอกด้วยรอยยิ้มของผู้มีชัย
ด้วยนิสัยเจ้าเล่ห์ของเขาแล้วมีหรือที่เขาจะปล่อยโอกาสนี้ไป?
ข้อแม้สองอย่างที่เย่หยวนยื่นมานี้มันเป็นสิ่งที่ทั้งสองคนย่อมไม่มีทางตอบตกลง
เพราะฉะนั้นเย่หยวนย่อมจะเลือกสำนักอากาศแจ่มมาแต่แรกแล้ว
เย่หยวนหันไปมองหลี่คงหมิงพร้อมกล่าวขึ้น “ท่านเองก็อย่าได้เปลืองแรงเลย ข้าจะไม่ร่วมกับสำนักอากาศแจ่มเด็ดขาด”
ใบหน้าของหลี่คงหมิงแข็งค้างไปทันที “ท-ทำไมกัน? เจ้าไม่รู้หรือว่าหากไม่มีสำนักอากาศแจ่มข้าปกป้องแล้วเจ้าจะต้องพบเจอเรื่องราวใดต่อจากนี้ไป?”
“ฮ่าๆๆ! หลี่คงหมิง หลงตัวเองอยู่ครั้งวันสุดท้ายเจ้าก็ได้แค่คิดเข้าข้างตนว่ามันจะเลือกเจ้า! แต่สุดท้ายมันกลับไม่สนใจเจ้าเลย!” หยูเหวินเฟิงหัวเราะลั่น
เย่หยวนบอกขึ้น “พวกเจ้าเองก็อย่าได้คิดว่าตัวเองสูงส่งนักเลย ข้า เย่หยวนผู้นี้ไม่ต้องการให้ใครมาปกป้อง ข้านั้นมาที่เมืองหลวงจักรพรรดิเก้ามั่นนี้ก็แค่เพื่อช่วยพี่เจียงเท่านั้น เมื่อเรื่องราวในครั้งนี้จบลงแล้วข้าย่อมไม่คิดจะไปยุ่งเกี่ยวกับการละเล่นแย่งชิงอำนาจของพวกเจ้าทั้งหลาย”
คำพูดนี้ทำให้ทุกสิ่งอย่างเงียบลง ทุกผู้คนต่างมึนงงกับคำพูดนี้ของเย่หยวน
โอหัง!
ช่างแสนอวดดี!
แม้ต้องเจอกับเหล่าเทพถ่องแท้มากมาย เย่หยวนกลับไม่คิดกลัวและพูดรนหาที่ตายออกมาเช่นนี้!
เด็กคนนี้สมองมันเพี้ยนหรือ? หรือมันมีอะไรเป็นที่พึ่งพาจริงๆ?
ในเมืองหลวงจักรพรรดินั้นเทพถ่องแท้นับว่าเป็นตัวตนที่สูงส่งที่สุด แต่เย่หยวนกับพูดจาใส่พวกเขาเหมือนเป็นแค่ขยะชิ้นหนึ่ง!
คำพูดเช่นนั้นมันสุดแสนจะโอหัง
เพราะตัวเขาเองนั้นเป็นได้แค่นภาสวรรค์ห้าดาวคนหนึ่ง
เมื่อเทพถ่องแท้ทั้งสามได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ผงะไปทันทีและเป็นหยูเหวินเฟิงที่หัวเราะลั่นขึ้นมาก่อน “เด็กน้อย เจ้ารู้หรือไม่ว่าตัวเองกำลังพูดกับใครอยู่?”
เย่หยวนตอบกลับ “ข้าย่อมรู้ดี!”
นั่นทำให้เสียงหัวเราะของหยูเหวินเฟิงเปลี่ยนกลายเป็นเสียงคำราม “เช่นนั้นก็ย่อมได้ ข้าผู้นี้อยากเห็นเหลือเกินว่าเจ้าไปเอาความมั่นใจเช่นนั้นมาจากไหน!”
ไม่มีใครคิดใครฝันว่าเย่หยวนกลับพยักหน้ารับ “เช่นนั้นก็เข้ามาลอง”
พูดจบเย่หยวนก็ดันร่างอ่อนแรงของหยูจินซงไป
ทุกคนมึนงงอย่างมาก เย่หยวนกลับคืนตัวประกันให้อีกฝ่ายง่ายๆ เช่นนี้?
แล้วเขาจะเอาอะไรไปสู้?
เทพถ่องแท้ของจวนเจ้าเมืองรีบพุ่งตัวออกมารับหยูจินซงไว้ทันที
เมื่อหลุดรอดจากมือของเย่หยวนมาได้ หยูจินซงก็ได้ร้องตะโกนขึ้น “ท่านพ่อ สังหารมัน! สังหารมัน!”
ปัง!
หยูเหวินเฟิงฟาดซัดฝ่ามือลงมาพร้อมด้วยพลังโลกที่บ้าคลั่งใส่เย่หยวน
“พี่เจียง ตามข้ามา!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...