“ลูกศิษย์?”
เย่หยวนที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีก่อนจะหยุดคิดไปนานแสนนาน แต่เขาไปรับลูกศิษย์จริงๆ จังๆ ตั้งแต่ตอนไหนกัน?
แต่คิดไปคิดมาแล้วมันก็คงไม่มีใครที่จะบ้าถึงขั้นมาอ้างเป็นศิษย์เขาหน้าประตูบ้านของเขา
“พาเขาเข้ามา” เย่หยวนสั่ง
ไม่นานนักหนิงเทียนปิงก็ได้นำพาชายหนุ่มผู้หนึ่งที่มีใบหน้าหล่อเหลาได้รูปเข้ามา
“ท่านอาจารย์!” เมื่อชายหนุ่มเห็นเย่หยวนเขาก็ร้องขึ้นมาด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจก้มหัวลงกราบแทบพื้นทันที
เมื่อได้เห็นหน้าของอีกฝ่ายแล้วเย่หยวนก็จับได้ขึ้นมาทันทีว่าศิษย์คนนี้เป็นใครและตอบรับกลับไปด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจไม่น้อยไปกว่ากัน
“ไป๋เฉิน!”
ชายหนุ่มคนนี้คือศิษย์ที่เย่หยวนรับไว้ตอนยังอยู่ในดินแดนนภาบรรพต เขาคือเจ้าวังเทวะรัตติกาลฉาย ไป๋เฉินนั่นเอง
จากกันไปนับพันปีเย่หยวนย่อมไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาหาเขาถึงที่แห่งนี้จึงรู้สึกอบอุ่นซาบซึ้งหัวใจอย่างมาก
หนิงเทียนปิงและโซชูเจียที่ด้านข้างนั้นมองดูภาพตรงหน้าด้วยใบหน้ามึนงง
ยอดนภาสวรรค์เก้าดาวขั้นสุดผู้นี้กลับเรียกเย่หยวนว่าอาจารย์ มันเป็นเรื่องที่ดูแปลกตาไม่น้อย
พวกเขาย่อมไม่ได้สงสัยในคุณสมบัติของเย่หยวน เพียงแค่ว่าการที่ศิษย์จะเหนือล้ำกว่าอาจารย์ไปได้มันก็ต้องมีขอบเขตกันบ้าง
ที่สำคัญไป๋เฉินคนนี้เองก็ยังหนุ่มยังแน่น แต่กลับสามารถพัฒนาขึ้นไปถึงนภาสวรรค์เก้าดาวขั้นสุดได้มันจึงทำให้พวกเขาแปลกประหลาดใจมาก
“ชิๆ นายท่านนี่ก็เป็นนายท่านจริงๆ แม้แต่ศิษย์ที่รับเข้ามายังยอดเยี่ยมขนาดนี้!” หนิงเทียนปิงบอกขึ้น
“เจ้าเองก็ติดตามนายท่านมานาน เจ้าเคยเห็นท่านรับศิษย์หรือไม่?” โซชูเจียถาม
หนิงเทียนปิงส่ายหัวออกมา “ไม่เคย”
โซชูเจียหรี่ตาลงทันทีด้วยความตื่นตกใจ “เช่นนั้นมันย่อมหมายความว่าศิษย์คนนี้นายท่านรับมาตั้งแต่ก่อนจะมาอยู่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์เรา? เช่นนั้นศิษย์คนนี้… ก็จะเก่งกาจจนเกินไปแล้วใช่ไหม?”
ไป๋เฉินนั้นมีอายุที่น้อยกว่าเย่หยวนเสียด้วยซ้ำ เหตุใดเขาจึงสามารถบ่มเพาะได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้กัน?
“ฮ่าๆ รีบลุกขึ้นมาๆ! ไม่นึกเลยว่าผลวิญญาณเต๋าที่เจ้าหลอมซับไปนั้นจะเป็นถึงผลวิญญาณเต๋านภาสวรรค์เก้าดาวขั้นสุด ตอนนี้เจ้ามีพลังที่เหนือล้ำกว่าข้าแล้วเสียด้วยซ้ำ!” เย่หยวนบอกพร้อมหัวเราะขึ้น
หากจะบอกว่าเขานั้นเลี้ยงดูไป๋เฉินมามันก็คงไม่ผิดนัก
การที่เห็นคนที่ได้เลี้ยงดูเติบใหญ่ขึ้นเช่นนี้มันย่อมทำให้เขาปลื้มปีติ
นภาสวรรค์เก้าดาวขั้นสุด แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นยอดฝีมืออย่างแท้จริงแต่มันก็นับว่าเป็นยอดคนในภูมิภาคได้แล้ว
เมื่อหนิงเทียนปิงและโซชูเจียได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ได้เข้าใจเรื่องราว แท้จริงแล้วไป๋เฉินนั้นหลอมซับผลวิญญาณเต๋านภาสวรรค์มาจึงได้บ่มเพาะได้รวดเร็วปานนี้
ไป๋เฉินพูดขึ้นมาด้วยความอับอาย “ท่านอาจารย์ อย่าได้ว่าแกล้งข้าเลย ท่านอาจารย์ต่างหากที่บ่มเพาะได้เร็วเหนือคนจนน่ากลัว ในเวลาแค่พันปีนี้ท่านกลับบ่มเพาะจากอาณาจักรปฐมพระเจ้าขึ้นมาจนถึงอาณาจักรที่ท่านอยู่ได้เช่นนี้ มันเป็นเรื่องที่เหนือล้ำอย่างไม่เคยมีมาก่อน! ที่สำคัญท่านอาจารย์นั้นยังมีความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัด แต่ข้านั้นมันหมดหวังที่จะบรรลุขึ้นไปได้อีกแล้ว!”
พูดมาถึงตรงนี้ดวงตาของไป๋เฉินก็แสดงความเศร้าหมองออกมา
สำหรับเขาในตอนนั้นแล้วอาณาจักรนภาสวรรค์นั้นเป็นตัวตนที่ไม่อาจเอื้อม ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิตมันก็ไม่อาจจะก้าวไปถึง
แต่ตอนนี้เขานั้นเป็นเจ้าแห่งดินแดนนภาบรรพต ยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์เก้าดาว แน่นอนว่าสายตาของเขามันย่อมยกสูงขึ้นอย่างที่ไม่อาจเทียบเคียงกับเมื่อก่อนได้
บนมหาพิภพถงเทียนนี้มันยังมีโกลอีกทั้งใบให้เขารู้จัก!
ก่อนหน้านั้นเย่หยวนเองก็ได้เตือนเขาไว้แล้ว แต่ในตอนนั้นเขาก็ถูกสถานการณ์บังคับพร้อมๆ กับรู้ดีว่ามันเป็นอาณาจักรที่เขาไม่อาจเอื้อมต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิต
แต่ตอนนี้เขาที่ได้ซึมซับผลวิญญาณเต๋าเข้าไปกลับรู้สึกสิ้นหนทาง
นี่เป็นเส้นทางที่เขาเลือกเดิน ตัวเขาย่อมไม่คิดเสียใจภายหลัง แต่หัวใจของเขาก็ไม่อาจต้านทานความรู้สึกว่างเปล่านี้ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้เห็นเย่หยวนที่แข็งแกร่งขึ้นมาอย่างมากมายผู้นี้แล้ว
เมื่อเห็นท่าทางของไป๋เฉินนั้นเย่หยวนเองก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา
ไป๋เฉินนั้นมีพรสวรรค์ที่ดีไม่น้อยในดินแดนนภาบรรพต แต่แม้จะมีพรสวรรค์เช่นนั้นมันยังเป็นเรื่องยากหากคิดอยากบรรลุขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์
การหลอมผลวิญญาณเต๋านั้นเป็นทางเลือกที่ถูกต้องแล้วสำหรับเขา
แต่ความโลภของมนุษย์นั้นมันไร้สิ้นสุด มีหรือที่ใครจะยอมยืนนิ่งไม่พัฒนาใดๆ เลยในชีวิตได้?
ที่สำคัญไป๋เฉินนั้นยังหนุ่มยังแน่นอยู่มาก
คิดมาถึงตรงนี้เย่หยวนก็เกิดความคิดแสนบ้าขึ้น
ผู้ที่ซึมซับหลอมผลวิญญาณเต๋านั้นจะไม่สามารถบรรลุได้อีกแล้วหรือในชีวิต?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...