ในหมู่ผู้มาถึงทั้งหลายนี้มันไม่มีเทพถ่องแท้อยู่เลย
ในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นนอกจากเจ้าหมูลึกลับนั่นแล้วมันก็ไม่มีนักยุทธระดับเทพถ่องแท้อยู่เช่นกัน
นี่ถือเป็นการแสดงความเคารพของจวนเจ้าเมืองต่อเมืองสันเขาใต้นี้อย่างมาก
แน่นอนว่าทุกคนรู้ดี สิ่งที่เจ้าเมืองเกรงใจนั้นหาใช่ตัวสิบเมืองสันเขาใต้นี้แต่เป็นผู้ตรวจการเย่หยวนต่างหาก
“ชิๆ พวกเขาทั้งหลายนั้นเป็นคนใหญ่คนโตจากเมืองหลวงจักรพรรดิ! หากไม่ใช่เพราะท่านเย่หยวนแล้วมีหรือที่คนเหล่านี้จะเดินทางมาถึงบ้านนอกคอกนาเช่นนี้?”
“ข้าได้ยินว่าผู้ที่กำลังกล่าวทักทายท่านเย่หยวนอยู่ในตอนนี้คือลูกชายของท่านเจ้าเมืองหลวงจักรพรรดิเก้ามั่น พลังบ่มเพาะอาณาจักรเทพถ่องแท้ครึ่งก้าว แต่ถึงจะเป็นคนระดับนั้นก็ยังต้องก้มหัวให้แก่ท่านเย่หยวน!”
“หึ ท่านเย่หยวนนั้นไร้เทียมทาน แม้จะเป็นเทพถ่องแท้มาเองก็คงต้องทำทุกสิ่งอย่างตามที่เขาว่าอย่างแน่นอน!”
…
ในเมืองนั้นมีผู้คนมากมายต่างมองดูภาพการพบปะกันของเย่หยวนและยอดฝีมือจากทางจวนเจ้าเมืองหลวงจักรพรรดิด้วยสีหน้าชื่นชม
เย่หยวนหันไปมองดูหยูจินซงที่ถูกมัดไว้ทุกด้านจนไม่อาจขยับตัวได้ “ดูท่าท่านเจ้าเมืองท่านจะจริงใจเสียจริงๆ!”
เย่หยวนเข้าใจได้ทันทีว่าการมัดจับมาเช่นนี้มันก็เพื่อให้ตัวเขาได้เห็น ตอนนี้หยูจินซงนั้นย่อมไม่มีแรงใดๆ จะขัดขืนได้แต่แรก
เพราะผนึกที่เย่หยวนใส่ลงไปในทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของหยูจินซงนั้นแม้จนถึงทุกวันนี้ทางจวนเจ้าเมืองก็ไม่อาจแก้ไขมันได้!
เย่หยวนนั้นมีปราณเทวะโกลาหลที่แปลกประหลาดกว่าคนทั่วไปเป็นทุนเดิม เมื่อผสานมันเข้ากับลายพระเจ้าแล้วต่อให้เป็นเทพถ่องแท้ก็ย่อมไม่อาจจะทำลายผนึกนี้ลงได้ง่ายๆ
ใบหน้าเปี่ยมศักดิ์ศรีของหยูจินซงแต่เดิมนั้นไม่มีให้เห็นอีกต่อไป ตอนนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและหวาดกลัว
หยูชางหยุนนั้นยกมือขึ้นมาคารวะ “น้องชายข้านั้นเลวร้าย ทำให้สุดท้ายสร้างเรื่องเลวร้ายขึ้นมากมาย ท่านพ่อจึงสั่งให้ข้านั้นนำตัวเขามาส่งให้ท่านผู้ตรวจการตัดสิน”
เย่หยวนยิ้มขึ้นมา “ไปที่จวนเจ้าเมืองก่อนจะคุยเรื่องอื่นใดกันต่อเถอะ”
เย่หยวนเดินนำอีกฝ่ายเข้ามาถึงยังจวนเจ้าเมืองและแยกกันนั่งลงในที่นั่งแขกและเจ้าบ้าน
หยูชางหยุนนั้นส่งสัญญาณให้ลูกน้องนำตัวหยูจินซงเข้ามาด้านในและวางเขาก้มหัวลงต่อหน้าเย่หยวน
“ท่านพ่อบอกว่าเด็กคนนี้มันชั่วร้ายเกินไป จนไปลบหลู่ท่านผู้ตรวจการเข้า ตอนนี้เราจับมันมายังที่แห่งนี้แล้วท่านคิดอยากฆ่าสังหารลงโทษมันใดๆ ก็ย่อมแล้วแต่ท่าน”
หยูชางหยุนนั้นยกมือขึ้นคารวะด้วยท่าทางสุดแสนเคารพราวกับว่าคนที่กำลังจะถูกตัดสินโทษนี้มิใช่น้องชายของตน
เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ด้วยตัวข้าเองแล้วต่อให้สังหารมันไปนับร้อยรอบก็คงไม่อาจพอใจได้ แต่เรื่องราวในครั้งนี้ข้าเองก็ไม่ใช่ผู้ที่เสียหาย จะสังหารฆ่ามันหรือไม่นั้นข้าคงต้องถามพี่เจียงสองพ่อลูกก่อน”
นั่นทำให้เจียงยู่ถังร่างสั่นสะท้านน้ำตาหลั่งไหลออกมาทันที
ตั้งแต่ตอนที่เขาถูกใส่ร้ายจับขังไว้จนถึงวันที่เขาหนีได้มาจนถึงที่แห่งนี้ เจียงยู่ถังไม่เคยคิดเคยฝันว่าตัวเองจะสามารถแก้แค้นเข้าได้สักวัน
สำหรับเขาแล้วหยูจินซงนั้นเป็นตัวตนที่เหนือเกินเอื้อมจนเกินไป
แม้คิดอยากแก้แค้นมันก็คงยากเกินมือ
แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับมอบโอกาสนี้มาให้ต่อหน้าเขา
เขาเดินขึ้นมาหาหยูจินซงด้วยร่างสั่นเทา เสียงเท้าแต่ละครั้งที่ก้าวเดินเข้ามาแสดงถึงความหนักหน่วง
เขานั้นเกลียดชังหยูจินซงไปถึงกระดูกดำ แต่ไม่ใช่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเขา แต่เป็นเพราะเรื่องที่ลูกสาวของเขาต้องพบเจอ
เจ้าสัตว์ร้ายนี้มันพรากความบริสุทธิ์ของเจียงไห่ถังไป มีหรือที่เขาจะยอมอภัยให้มันได้?
“เจียงยู่ถัง เจ้ากล้า?!” หยูจินซงร้องออกมาเมื่อสัมผัสได้ถึงความตายที่คืบคลาน
นั่นทำให้เจียงยู่ถังหน้าถอดสีทันที ฝีเท้าของเขาก็หยุดลงเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ตัวเขา เจียงยู่ถังนั้นเป็นได้แค่ตัวตนแสนเล็กน้อยไม่มีใครสนใจ
ต่อให้หยูจินซงจะถูกจับมัดไว้เขาก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายนั้นมีที่มายิ่งใหญ่เพียงใด
เจียงยู่ถังนั้นไม่คิดสนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตน แต่เขานั้นกลัวว่าการสังหารหยูจินซงนั้นจะเป็นการสร้างปัญหาให้แก่เย่หยวน
หากหยูจินซงที่ถูกจับมัดมานี้เป็นแค่การไว้หน้าของหยูเหวินเฟิงแล้ว การคิดสังหารมันลงจริงๆ คงทำให้เกิดปัญหามากมายตามมาแน่
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียหยูเหวินเฟิงก็เป็นถึงเทพถ่องแท้ขั้นกลางผู้หนึ่ง หากเขาหมดความอดทนจริงๆ แล้วสิบเมืองสันเขาใต้นี้คงต้องพินาศลงอย่างแน่นอน
“พี่เจียง อย่าได้กังวลให้มากมาย คิดอยากสังหารสับมันเป็นชิ้นๆ อย่างไรล้วนแล้วแต่ท่าน ข้าย่อมรับผลของมันได้ทั้งสิ้น!” เย่หยวนบอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...