ตอน ตอนที่ 1932 คำขอโทษ จาก จอมเทพโอสถ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 1932 คำขอโทษ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
หวางเจียนมองดูที่ขวดโอสถในมือด้วยความตื่นตะลึงจนลืมที่จะหายใจ
“โอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะวิญญาณไพศาล! นี่มัน…มันเป็นไปได้อย่างไร? นี่มันคือโอสถเพลิงแดงเก้ากระจ่าง โอสถความยากระดับแปดเชียวนะ!”
เมื่อคำพูดเหล่านั้นถูกกล่าวออกมาคนทั้งหลายก็ต่างตกตะลึงไปทันที
ก่อนหน้านี้เย่หยวนนั้นเคยหลอมโอสถขั้นเทวะวิญญาณไพศาลมาไม่น้อยแต่เมื่อขึ้นมาถึงสังเวียนจิตม่วงแล้วเขาก็ไม่ได้หลอมโอสถให้ถึงขั้นเทวะวิญญาณไพศาลอีกต่อไป แม้แต่โอสถขั้นเทวะโมฆะก็ยังแทบไม่มีให้เห็น
ทุกคนต่างคิดว่าการหลอมโอสถที่มีความยากมากขึ้นนั้นทำให้พลังฝีมือของเย่หยวนไม่อาจจะจัดการมันได้อีกต่อไป
แต่เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้รู้ว่ามันผิดพลาดสิ้น
ความผิดพลาดครั้งใหญ่!
เมื่อเย่หยวนประลองกับพวกเขาทั้งหลายเขานั้นไม่ได้ใช้พลังถึงสามในสิบด้วยซ้ำ
เขานั้นแค่ล้อคนอื่นๆ เล่น
โอสถศักดิ์สิทธิ์ความยากแปดขั้นเทวะวิญญาณไพศาล มันเป็นโอสถระดับใด?
พลังฝีมือระดับนี้มันมากพอจะทำลายเหล่านักหลอมโอสถสวรรค์เกล็ดดำจนสิ้น
เหล่าคนในขั้นเกล็ดดำนั้นอย่าว่าแต่ขั้นเทวะวิญญาณไพศาล แม้จะเป็นขั้นเทวะม่วงก็ยังยากที่จะพบเห็น
แต่เย่หยวนกลับหลอมมันได้จนถึงขั้นเทวะวิญญาณไพศาล
ความแตกต่างนี้มันยิ่งใหญ่เกินไป
หรือว่าแท้จริงแล้วเย่หยวนนั้นมีฝีมือถึงขั้นที่จะเป็นปรมาจารย์นักหลอมโอสถสวรรค์ยาฟ้าแล้ว?
คิดมาได้ถึงตรงนี้ทุกผู้คนต่างก็ตื่นตะลึง
ยู่หยิงมองดูภาพนี้อย่างเหม่อลอยจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่อยากเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้
เขาแพ้! แพ้พ่ายลงอย่างราบคาบ!
ในเวลาแค่ไม่กี่อึดใจนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ เขานั้นได้แพ้พ่ายลงให้แก่คลื่นพลังจิตของเย่หยวนอย่างราบคาบ
แต่เย่หยวนคนนี้กลับหลอมโอสถไปได้ถึงขั้นเทวะวิญญาณไพศาล!
พลังฝีมือเช่นนี้มันเหนือล้ำจนเกินกว่าที่เขาจะอาจเอื้อม
เย่หยวนค่อยๆ เดินมาตรงหน้ายู่หยิง “เชิญท่านได้”
ยู่หยิงสั่นสะท้านขึ้นทันที สีหน้าของเขาเปลี่ยนสีไปอย่างฉับพลัน
เหตุผลที่เขามาท้าทายเช่นนี้มันย่อมเป็นเพราะว่าเขานั้นไม่คิดว่าตนจะแพ้
แต่ผลกลับออกมาตรงข้ามกับที่เขาหวัง
หากไม่ให้เข้ามาในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวอีกตลอดชีวิตนี้แล้ว มันคงเป็นโทษที่หนักหนาสาหัสเกินกว่าเขาจะรับได้
เขานั้นมีโอกาสความเป็นไปได้ใหญ่โตมากมายด้วยความหวังที่ว่าจะขึ้นสู่ระดับยาฟ้าได้
แต่ตอนนี้ทุกสิ่งอย่างมันกลับพังทลายลง
เมื่อได้เห็นว่ายู่หยิงไม่ยอมตอบอะไรเลยเย่หยวนก็พูดขึ้นซ้ำ “แพ้แล้วยังคิดคืนคำ นี่หรือคือวิถีของโถงวาโยขจี?”
ยู่หยิงเงียบนิ่งไปแต่ใบหน้าของเขากลับกระตุกสั่น ดูท่าแล้วเขาคงกำลังหนักใจอย่างมาก
การกลับคำต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้เขาจะยังเอาหน้าที่ไหนไปสู้ผู้คนในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวต่อไป?
แต่การให้เขาต้องไปจากยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวเช่นนี้มันเกินกว่าที่เขาจะรับได้เช่นกัน
“เจ้าหนุ่ม เจ้าต้องบีบบังคับผู้คนขนาดนี้เลยหรือ?” ในความเงียบงันนั้นก็มีเงาร่างหนึ่งปรากฏกายออกมา
นั่นทำให้ใบหน้าของยู่หยิงเปลี่ยนสีไปทันที “ท่านเจ้าโถง! ข้า…”
เย่หยวนหันไปมองชายร่างอ้วนในชุดหรูหรานั้น เสื้อผ้าที่เขาใส่อยู่นี้มันทำให้เขาดูเหมือนยอดเศรษฐีหรือขุนนางท้องถิ่น
เย่หยวนไม่นึกไม่ฝันว่าเขาคนนี้จะเป็นเจ้าโถงวาโยขจีนั้น
ชายร่างอ้วนคนนี้ทำให้เย่หยวนรู้สึกพิศวง
“บีบบังคับผู้คน? หึ เรื่องราวในวันนี้ทุกผู้คนต่างเห็นดีว่าใครกันแน่ที่มาหาเรื่องใคร ข้าเชื่อว่าหากไปถามใคร เขาก็คงจะตอบท่านได้” เย่หยวนกล่าวออกมา
“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” เจียงหยวนเผลอพูดขึ้นมาด้วยความกังวลและความรู้สึกผิดปกติแปลกๆ ในใจ
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “แน่นอนว่ามันย่อมไม่กล้ามาเผชิญหน้ากับข้าหรอก เรื่องราวนี้ขอแค่ท่านกับข้าได้พบกัน มันก็ไม่มีที่ใดให้หนีแล้ว ผู้อาวุโสเจียง ท่านนั้นเป็นถึงผู้อาวุโสแห่งโถงวาโยขจีอันยิ่งใหญ่เหตุใดจึงถูกคนใช้ปั่นหัวง่ายดายเช่นนี้? จนถึงขั้นสร้างเรื่องราวใหญ่โตถึงขั้นนี้เสียด้วย ช่างน่าขัน!”
นั่นทำให้สีหน้าของเจ้าโถงเปลี่ยนไปทันที ดูท่าแล้ววันนี้เขาคงถูกผู้คนหลอกจึงได้แต่ขมวดคิ้วขึ้นถาม “สหายหนุ่มเย่ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”
เย่หยวนเองก็ย่อมไม่คิดปกปิดใดๆ และเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนที่เขาไปยังบ้านตระกูลเจียงในวันนั้นออกไปทำให้สีหน้าของคนทั้งสามขาวซีดลง
“เรื่องนี้จะพิสูจน์นั้นมันแสนง่ายดาย ขอแค่ท่านผู้อาวุโสเจียงลองไปถามดูกับคนที่ไปยังเรือนรับรองในวันนั้นข้าว่าท่านคงรู้เรื่องราวในทันที ส่วนเรื่องที่ท่านกล่าวหาว่าข้านั้นทำร้ายมันและดูถูกดูหมิ่นโถงวาโยขจีเองก็ไม่เป็นความจริงใดๆ เพราะตั้งแต่วันนั้นมาข้ายังไม่ได้เจอหน้ามันอีกเลย” เย่หยวนตอบ
นั่นทำให้เจียงหยวนต้องกำหมัดแน่น เขาได้แต่ขบกัดฟันด้วยความเจ็บใจ ดูท่าคงโกรธจนถึงขีดสุดแล้ว
เขานั้นไม่นึกไม่ฝันว่าตัวเอง ผู้อาวุโสคนนี้กลับจะกลายเป็นดาบในมือคนใช้ไปได้
และดาบนี้มันมิใช่แค่ทำร้ายเขา แต่ยังทำให้โถงวาโยขจีต้องเสียชื่ออีก
วันนี้แม้แต่เจ้าโถงก็ยังต้องออกมารับหน้าเอง จะบอกว่าโถงวาโยขจีนั้นเสียชื่อจนไม่เหลือซากใดๆ เลยก็ว่าได้
เขาอยากจะสับหั่นเจียงหัวลงให้ได้เสียตอนนี้
ยู่หยิงเองก็มีใบหน้าที่ไม่พอใจเช่นกันก่อนจะพูดออกมา “เช่นนั้นแล้วทำไมเจ้าไม่บอกมาแต่แรกเล่า?”
เย่หยวนมองดูใบหน้านั้นพร้อมตอกกลับไป “หากแม้ข้าพูดไปแล้วท่านจะเชื่อ?”
ยู่หยิงแทบสำลักเมื่อได้ยินเช่นนั้น เป็นเวลานั้นเองที่เขานึกขึ้นมาได้ว่าเย่หยวนปฏิเสธไปครั้งหนึ่ง แต่เป็นเขาเองที่ไม่ยอมรับฟัง
ต่อให้ตอนนั้นเย่หยวนจะอธิบายใดๆ เขาก็ย่อมจะไม่เชื่อ คิดเพียงแค่ว่าเย่หยวนนั้นหาข้ออ้าง
เรื่องนี้เย่หยวนเองก็ย่อมเข้าใจดี เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่ได้คิดเปลืองน้ำลายพูดออกมา
เมื่อพูดจาใดๆ โดยไร้พลังแล้วมันก็ไม่ต่างจากการผายลม
พลังนั้นคือเส้นทางของราชัน เย่หยวนทำให้ยู่หยิงพ่ายลงและค่อยเริ่มอธิบายเรื่องราว แน่นอนว่าความน่าเชื่อถือนั้นมันย่อมมากกว่าเป็นไหนๆ
ในตอนนั้นเองที่ทางเจ้าโถงยกมือขึ้นมาคารวะเย่หยวน “สหายหนุ่มเย่ เรื่องครั้งนี้ล้วนเป็นความผิดโถงวาโยขจีข้าทั้งสิ้น ข้าขออภัยเจ้าแทนผู้อาวุโสยู่และผู้อาวุโสเจียงด้วย”
…………………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
2970 อิหลินเสวียอิห่าราก ฟื้นขึ้นมาก็ทิ้งกันเลย😂...
พวกเมีย เพื่อนฝูง น้องๆ แม่งเป็นได้แต่ตัวถ่วง ตัวภาระ😂...
ตอนแรกๆอ่านยังไง...
DDD...