เคารพผู้ใหญ่!
คำพูดเหล่านี้ไม่ได้กล่าวขึ้นเพื่อบอกแค่ซือหยู่และชิงหยุน แต่มันยังเป็นคำที่พูดให้เหล่าผู้อาวุโสศาลาโอสถสวรรค์ทั้งหลายฟังด้วย
พวกเขาทั้งหลายเหล่านี้คือยอดจอมเทพโอสถหกดาวขั้นสุดที่มีชื่อเสียงสนั่นแผ่นดิน แต่กลับถูกบอกให้มาเคารพจอมเทพโอสถห้าดาวอย่างนั้นหรือ?
หากเป็นก่อนหน้าพวกเขาทั้งหลายย่อมไม่คิดจะยอมรับแม้ต้องตายตกลง
แต่ตอนนี้เมื่อได้เห็นพลังฝีมือของเย่หยวนอย่างชัดแจ้งแล้วพวกเขาย่อมไม่มีทางกล้าที่จะบ่นใดๆ ออกมาได้
เพราะเย่หยวนคนนี้สามารถประลองกับเทพสวรรค์เปียวหยูได้อย่างสูสีทั้งในด้านฝีมือและกำลัง
ที่สำคัญหลังจากเทพสวรรค์เปียวหยูประลองกับเย่หยวนแล้วเขายังได้บรรลุในเต๋าอีกด้วย!
อาณาจักรบรรพกาล!
สำหรับนักหลอมโอสถทั้งหลายแล้วอาณาจักรบรรพกาลนั้นคือเป้าหมายสุดท้ายของชีวิต
ตราบเท่าที่คนผู้นั้นเดินทางมาในเส้นทางนักหลอมโอสถพวกเขาย่อมก็ต้องเฝ้าฝันถึงอาณาจักรบรรพกาลบ้างไม่มากก็น้อย!
แล้วอาณาจักรบรรพกาลนี้มันเป็นสิ่งที่ยากเย็นเกินเอื้อมเพียงใด?
หากให้เทียบแล้วมันคงยากกว่าการบ่มเพาะให้ขึ้นถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์เสียด้วยซ้ำ!
ในมหาพิภพถงเทียนนี้มันมีจักรพรรดิเทพสวรรค์อยู่ไม่น้อย แต่มันจะมียอดฝีมืออาณาจักรบรรพกาลอยู่สักกี่คน?
เทพสวรรค์เปียวหยูที่ก้าวเดินมาจนถึงจุดนี้มันราวกับว่าตัวเขานั้นได้ก้าวย่างเท้าขึ้นไปเหยียบสวรรค์!
เช่นนั้นแล้วเย่หยวนคนที่ช่วยผลักดันให้เทพสวรรค์เปียวหยูขึ้นถึงจุดนี้ได้ ตัวเขาเองจะต้องเก่งกาจเหนือล้ำเพียงใด?
การบ่มเพาะของเย่หยวนในตอนนี้ยังนับได้ว่าต่ำต้อย แต่มันย่อมไม่มีใครจะสงสัยในอนาคตวันข้างหน้าของเขาอย่างแน่นอน!
“ท่านเย่หยวน!” เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายต่างก้มหัวลงต่อเย่หยวนในทันที
เย่หยวนพยักหน้ารับและกล่าวขึ้น “พวกท่านทั้งหลายล้วนเป็นผู้อาวุโส ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้”
เย่หยวนนั้นยังแสดงท่าทีอ่อนน้อมออกมาแต่มีหรือที่พวกเขาจะกล้าทำตามที่เย่หยวนว่า?
ในวันหน้าเทพสวรรค์เปียวหยูจะไม่มาถกถอนผมพวกเขาจนหมดหัวหรือ?
แต่เซินชางนั้นไม่อาจจะทนความสงสัยที่มีในใจได้อีกต่อไปจึงถามขึ้น “นายท่าน ข้าเพียงแค่สงสัยว่าการประลองนี้ใครกันแน่ที่ชนะใครกันแน่ที่แพ้?”
เย่หยวนย่อมรู้ดีว่าผู้คนทั้งหลายนั้นสงสัยจึงยิ้มตอบกลับไป “ข้าแพ้!”
ได้ยินเช่นนั้นทุกผู้คนก็รู้สึกโล่งขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
เทพสวรรค์เปียวหยูนั้นมอบหม้อหลอมเจ้าเพลิงประณีตออกมาทำให้พวกเขาทั้งหลายนั้นคิดไปว่าการประลองครั้งนี้เทพสวรรค์เปียวหยูจะแพ้
แต่แม้ว่าเย่หยวนจะเป็นฝ่ายแพ้มันก็ไม่มีใครกล้าพูดจาดูถูกเขาอีกต่อไปแล้ว
เมื่อได้เห็นเซินชางที่ยังมีใบหน้าติดใจสงสัยไม่หายเย่หยวนจึงได้โยนขวดโอสถนั้นออกไปให้ด้วยรอยยิ้ม “วันนี้ผู้อาวุโสเปียวหยูและข้าประลองหลอมโอสถกัน มีแค่พวกท่านทั้งหลายที่รู้ถึงผลของมัน หากมีเรื่องใดแพร่งพรายออกไปข้านั้นย่อมจะไม่ถือโทษพวกท่าน แต่ในวันหน้าผู้อาวุโสเปียวหยูท่านออกมาจากการเก็บตัวเมื่อใดท่านคงต้องมาจัดการลงโทษพวกท่านทั้งหลายแล้ว”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นพวกเขาทั้งหลายก็แทบลืมหายใจ
เพราะแม้ว่านี่จะเป็นชัยชนะของเทพสวรรค์เปียวหยูแต่เย่หยวนเองก็เก่งกาจประลองได้อย่างสูสีมาก
หากเรื่องราวเช่นนั้นถูกเผยออกไปในโลกภายนอกแล้วมันคงสร้างความเสียหายให้แก่ชื่อของเทพสวรรค์เปียวหยู
เซินชางรับขวดใบน้อยนั้นมาและปล่อยจิตของตนลงไปด้านในก่อนจะตัวแข็งทื่อไปทันที
คนทั้งหลายที่ได้เห็นก็รู้สึกสงสัยจนแทบห้ามใจไม่ได้ “พี่เซิน เป็นอย่างไรบ้าง พูดอะไรออกมาหน่อยสิ!”
เซินชางนั้นสะดุ้งตัวขึ้นทันทีก่อนจะมอบขวดใบน้อยไปต่อให้เฉินหยู่ “เจ้าดูเองเถอะ”
เฉินหยู่เองก็มึนงงไม่แพ้คนอื่นๆ แต่ก็ยังรับขวดนั้นมาและส่งจิตลงไปดูก่อนจะแข็งทื่อไปไม่ต่างกัน
ทุกคนมึนงงกับสภาพของคนทั้งสองนี้มากแต่พวกเขาก็รู้ดีว่าโอสถแก่นโกลาหลพันทุกข์นี้มันต้องไม่ใช่โอสถธรรมดาแน่ๆ
เมื่อยื่นมอบมันไป ทุกผู้คนต่างตัวแข็งทื่อเมื่อได้รับมัน
พร้อมด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความตื่นตะลึงอย่างที่สุด
เมื่อซือหยู่และชิงหยุนเห็นเช่นนั้นพวกเขาก็แทบจะอยากกระโดดเข้าไปแย่งคว้าขวดใบน้อยนั้นมาดูกับตา
เจ้าโอสถนี่มันมีพลังเวทมนตร์ใดหรือจึงสามารถทำให้เหล่าผู้อาวุโสแห่งศาลาโอสถสวรรค์ทั้งหลายแสดงสีหน้าราวกับเห็นผีออกมาเห็นนั้นได้?
หลังจากโอสถเลื่อนมาถึงพวกเขาทั้งสองบ้างสีหน้าของพวกเขาเองก็ไม่ได้แตกต่างไปจากคนทั้งหลายเลย
“โอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะวิญญาณมรณา! ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าเฒ่าคนนี้จะได้เห็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะวิญญาณมรณาในชีวิตนี้! คุ้มค่าที่เกิดมาจริงๆ!” จู่ๆ ทางเซินชางก็ถอนหายใจยาว
เหล่าผู้อาวุโสคนอื่นๆ เองก็พยักหน้าออกมาด้วยความรู้สึกเช่นเดียวกับเซินชาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...