ตอนที่ 1950 จุดฝังเข็มทอง – ตอนที่ต้องอ่านของ จอมเทพโอสถ
ตอนนี้ของ จอมเทพโอสถ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1950 จุดฝังเข็มทอง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
“นายท่าน!”
เมื่อเห็นว่าเย่หยวนถูกจับไปต่อหน้าต่อตาเช่นนั้นเหล่าผู้คนทั้งหลายจึงร่ำร้องออกมา
หลายต่อหลายคนนั้นถึงขั้นก้มคุกเข่ากราบลงในทิศทางที่เย่หยวนจากไป
พวกเขานั้นรู้ดีอย่างเต็มอกว่าที่เย่หยวนถูกคนทั้งหลายนี้จับตัวไปมันเป็นเพราะว่าเขาต้องการจะปกป้องชาวเมือง
ผู้บ่มเพาะกายนั้นเมื่อต้องปิดพลังกายและเส้นเลือดไปแล้วมันก็ไม่ต่างอะไรกับการถูกปิดผนึกทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของนักยุทธ์ทั่วๆ ไป ไม่อาจจะใช้พลังกายที่เหนือล้ำนั้นออกมาได้อีก
เย่หยวนทำเช่นนั้นมันย่อมหมายถึงการปล่อยให้อีกฝ่ายนั้นมัดมือตน กลายเป็นได้เพียงหมูบนเขียงรอวันเชือด
ไป๋เฉิน หนิงเทียนปิงและเล้งชิวหลิงนั้นต่างอดทนไม่ไหวพุ่งตัวตามขึ้นไปหวังว่าจะหยุดคนทั้งหลายไว้
“ปล่อยอาจารย์ข้านะ!”
“นายท่าน ข้าไม่ยอมให้พวกมันนำตัวท่านไปแน่!”
…
เมื่อซูเหมาเห็นภาพนั้นเขาก็ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
“หยุด!”
แต่จู่ๆ กลับเป็นเย่หยวนก็ร้องห้ามขึ้น
ไป๋เฉินและพวกจึงได้แต่หยุดเท้าลงทันที
เย่หยวนมองดูคนทั้งหลายด้วยใบหน้าโกรธเคือง
ไป๋เฉินและพวกนั้นไม่เคยได้เห็นใบหน้าของเย่หยวนที่แสดงอารมณ์โกรธแค้นมากเท่านี้มาก่อน
เย่หยวนจ้องมองอย่างรุนแรงพร้อมกล่าวขึ้น “พวกเจ้ากลับไปเสีย! ใครก็ตามที่คิดก้าวเข้ามาอีกแม้แต่ก้าวเดียววันหน้าอย่ามานับว่าข้าเป็นคนรู้จักของพวกเจ้าอีก!”
นั่นทำให้ทุกผู้คนหน้าถอดสีไปอย่างไม่กล้าจะพูดอะไรอีก
ซูเหมาที่เห็นเช่นนั้นจึงยิ้มขึ้นมา “ช่างเป็นภาพที่น่าซาบซึ้งจริง! แต่… ยอมให้ตัวเองถูกจับเพื่อปกป้องมดปลวกทั้งหลาย ข้าต้องยอมรับเลยว่าเจ้านี่มันโง่เง่าจริงๆ”
เย่หยวนนั้นยังคงใบหน้าเรียบเฉยไว้ได้ในตอนที่พูดคุยกับซูเหมาและเขาเพียงแค่ตอบกลับไปสั้นๆ “ไปกัน”
เท่านี้เย่หยวนก็ถูกจับตัวไปภายใต้สายตาของทุกผู้คน
“เฮ้อ การได้มาพบเจ้าเจ้าเมืองเช่นนี้เรามันช่างมีโชคดีเป็นล้นพ้น! หากเป็นเมืองอื่นแล้วต่อให้เราจะถูกฆ่าสังหารล้างเมือง ท่านเจ้าเมืองก็คงไม่คิดแม้แต่จะขมวดคิ้วให้”
“นายท่านถูกพาตัวไปเช่นนั้นแล้ว…เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์จะเป็นอย่างไรต่อไป?”
“ไม่ว่าจะอย่างไรเสียเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้ก็จะเป็นบ้านของข้าไปตลอดชีวิต!”
…
การที่เย่หยวนยอมสละตนเพื่อช่วยเหลือผู้คนเช่นนี้มันย่อมทำให้ผู้คนทั้งหลายซาบซึ้งอย่างมาก
ในโลกของนักยุทธ์ผู้บ่มเพาะตนนั้นมันเป็นโลกที่แสนเห็นแก่ตัว
แต่ก็เป็นเพราะเช่นนั้นเองที่ทำให้การกระทำนี้ของเย่หยวนมันทรงคุณค่ามากขึ้นในจิตใจของผู้คน
เพราะแม้พวกเขาทั้งหลายนั้นจะเพิ่งพบเจอเรื่องราวสุดน่าหวาดกลัวแต่หลายต่อหลายคนก็ได้ตัดสินใจที่จะเรียกเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้ว่าบ้านไปแล้ว
ภายในจวนเจ้าเมืองในตอนนี้พวกไป๋เฉินทั้งหลายได้แต่กัดฟันแน่นด้วยใบหน้าโศกเศร้า
พวกเขานั้นไม่รู้เลยว่าเหล่าเทพถ่องแท้ทั้งหลายนั้นมาจากค่ายสำนักใด แต่ค่ายสำนักที่สามารถส่งกำลังเทพถ่องแท้ออกมาได้มากมายขนาดนั้นมันย่อมมิใช่กองกำลังที่ธรรมดาแน่
“ให้ตายสิ! ให้ตาย! นี่มัน… มันเป็นพวกเราที่อ่อนแอเกินไป!” ไป๋เฉินร่ำร้องขึ้นมาด้วยน้ำตานองหน้า
เหล่าคนที่เหลือก็ได้แต่นิ่งเงียบ
เพราะแม้แต่ไป๋เฉิน เทพถ่องแท้ผู้นี้ยังไม่อาจทำอะไรได้ แล้วพวกเขาเหล่านภาสวรรค์ทั้งหลายจะไปช่วยเหลืออะไรได้?
พวกเขานั้นพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะตามรอยเท้าของเย่หยวนแต่นับวันความห่างระหว่างตัวพวกเขาทั้งหลายและเย่หยวนมันกลับยิ่งกว้างออก
จนสุดท้ายแล้วก็เป็นเย่หยวนที่ต้องมาปกป้องพวกเขาทั้งหลาย
แต่ระหว่างที่คนทั้งหลายนั้นยังคงมึนงงไม่อาจคิดได้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไปก็มีเงาร่างหนึ่งบินเข้ามาในจวนเจ้าเมือง
‘ตุบ!’
ไป๋ตงโยนร่างหนึ่งลงสู่พื้นเบื้องหน้าและมันจะเป็นใครไปได้นอกจากลู่ซิน?
สภาพของลู่ซินในตอนนี้เขาได้ถูกปิดผนึกทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ไปเรียบร้อยและได้เพียงแค่นอนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่มีแรงขัดขืน
เมื่อไป๋ตงเข้ามาถึงเขาก็สัมผัสได้ทันทีว่าบรรยากาศภายในมันผิดปกติอย่างมากจึงได้ถามขึ้นมา “เกิดอะไรขึ้น? เย่หยวนเล่า?”
“นี่มัน…เช่นนั้นเราต้องรีบหนีแล้ว ตราบเท่าที่เราหนีไปถึงชายแดนของเมืองจักรพรรดิปีกทองคำได้ภารกิจครั้งนี้ของเราย่อมจะลุลวงลงด้วยดี!”
ซูเหมาพยักหน้ารับ “ท่านหยิงเฟิงเองก็ได้ส่งเรื่องไปยังสาขาปีกทองคำแล้ว พวกเขาน่าจะส่งกำลังมารอรับเราที่ชายแดนเรียบร้อย แต่พวกเจ้าก็มิต้องกังวลให้มากมาย เรามีเด็กคนนี้อยู่ในมือต่อให้มันผู้นั้นตามมาถึงจริงๆ เราก็ยังพอจะใช้เด็กคนนี้ในการต่อรองไม่ให้มันทำร้ายเราไปได้”
แต่จู่ๆ ร่างของเย่หยวนก็หยุดลง
ซูเหมาขมวดคิ้วแน่น “เด็กน้อย เจ้าคิดจะทำอะไร? ข้าขอเตือนเลยนะว่าหากคิดทำอะไรแล้วแม้ว่าเบื้องบนจะสั่งให้จับเป็น แต่หากเจ้าทำให้เราลำบากจริงๆ ข้าก็รับประกันชีวิตให้ไม่ได้!”
เย่หยวนไม่คิดสนใจและตอบกลับไปด้วยสายตาเย็นเยือก “ที่นี่น่าจะไกลจากเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์พอแล้วใช่หรือไม่?”
“หืม? หมายความว่าอย่างไร?” ซูเหมาและพวกที่ได้ยินต่างสะดุ้งตัวขึ้นในทันที
จู่ๆ ภายในมือของเย่หยวนก็ปรากฏเข็มทองขึ้นและก่อนที่จะมีใครได้ทันขยับตัวเย่หยวนก็ได้ปักเข็มทองนั้นลงบนร่างด้วยความเร็วที่สายตาแทบมองไม่ทัน
จนในที่สุดเข็มทองนี้ก็ได้ปักลงไปยังจุดไป่หุ๋ยที่กลางศีรษะ
ภาพนี้มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนทำให้ซูเหมาและพวกไม่มีเวลาจะหยุดห้ามใดๆ ตอนนี้พวกเขาได้แต่มองมันด้วยหน้าซีดเผือด
‘อ้าก!’ เย่หยวนร้องออกมาพร้อมคลื่นพลังที่ปะทุขึ้น
‘ปัง!’
จู่ๆ พลังกายอันมหาศาลก็ปะทุออกมาจากร่างของเย่หยวนทำให้กดแรงกดดันมหาศาลขึ้นจนทำให้เทพถ่องแท้สองดาวทั้งสี่เสียสมดุล
ซูเหมามองดูภาพตรงหน้าอย่างแตกตื่น “นี่มัน… มันเป็นไปได้อย่างไร? ข้าปิดผนึกพลังกายเส้นเลือดของเจ้าแล้วแท้ๆ ทั้งยังนั่งรอจนพลังกายของเจ้าหายลับไปจนสิ้น! เหตุใด…เจ้าทำมันได้อย่างไรกัน?”
การผนึกพลังกายนั้นมันเป็นอะไรที่สุดแสนปลอดภัย
เพราะต่อให้อีกฝ่ายจะเก่งกาจมากมายเพียงใดเมื่อถูกผนึกแล้วก็ย่อมไม่มีแรงจะขัดขืน
ไม่เช่นนั้นแล้วด้วยสมองระดับซูเหมามีหรือที่เขาจะปล่อยให้เย่หยวนตามมาตัวเปล่าไม่มีการผูกมัดใดๆ เช่นนี้?
แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับสามารถเปิดพลังกายเบิกเส้นเลือดได้อีกครั้ง
เมื่อเห็นคลื่นพลังของเย่หยวนตรงหน้านี้พวกเขาทั้งหลายต่างสัมผัสได้เลยว่ามันมากเหนือกว่าก่อนหน้าเสียอีก!
เย่หยวนมองดูที่ซูเหมาพร้อมกล่าวขึ้น “เข็มทองฝังลงกลางจุดเปลี่ยนกลับพลังกายเส้นเลือด ประตูแห่งนรกสวรรค์บรรลุในทันตา!”
……………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
2970 อิหลินเสวียอิห่าราก ฟื้นขึ้นมาก็ทิ้งกันเลย😂...
พวกเมีย เพื่อนฝูง น้องๆ แม่งเป็นได้แต่ตัวถ่วง ตัวภาระ😂...
ตอนแรกๆอ่านยังไง...
DDD...