“นายท่าน มันเป็นเรื่องใดกันถึงเรียกพวกเรามา?”
“ใช่แล้ว การเรียกรวมพลมากมายขนาดนี้ในสาขาเก้ามั่นมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!”
…
ทุกผู้คนต่างพยายามพูดแสดงความคิดเห็นของตนออกมาแต่การกระทำครั้งนี้ของหยิงเฟิง
แม้ว่าสาขาเก้ามั่นนี้มันจะดูเหมือนมิใช่สาขาที่ใหญ่โตนักแต่พลังของพวกเขามันก็มากพอที่จะทำลายเมืองหลวงจักรพรรดิลงได้ง่ายๆ
โดยปกติแล้วคนทั้งหลายนี้ย่อมจะแยกย้ายกันไปประจำการในที่ต่างๆ
การที่เรียกระดมพวกเขามาพร้อมๆ กันเช่นนี้มันย่อมทำให้พวกเขาทั้งหลายต้องประหลาดใจ
หยิงเฟิงยกมือขึ้นมาเป็นสัญญาณให้ทุกคนสงบก่อนจะกล่าวขึ้น “ที่เรียกพวกเจ้าทั้งหลายมาในวันนี้ก็ย่อมเพราะว่ามันมีเรื่องสำคัญให้ต้องจัดการ…”
หยิงเฟิงได้บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ออกมาทำให้ทุกผู้คนหน้าถอดสีไปทันที
“แค่เมืองจักรพรรดิน้อยๆ นั้นกลับมียอดฝีมือมากมายเช่นนั้น?”
“นี่มันจริงหรือ? แค่เพราะเด็กน้อยนภาสวรรค์ผู้หนึ่งทางหอมหาสมบัติกลับจะส่งผู้คนมากมายขนาดนี้มาเพื่อปกป้องเขา?”
“เจ้าจะไปรู้อะไร! เย่หยวนผู้นี้นี่แหละที่ตอนนี้ได้กลายเป็นเสาหลักทำเงินของหอมหาสมบัติ การส่งผู้คนมาปกป้องเขาในระดับนี้มันย่อมมิใช่เรื่องแปลกใดๆ เลย”
…
ในห้องลับใต้ดินน้อยๆ นี่มันถูกใช้เป็นสถานที่วางแผนการบุกเข้าเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ ส่วนอีกด้านที่จวนเจ้าเมืองของเมืองหลวงจักรพรรดิเก้ามั่นนั้น หยูเหวินเฟิงก็กำลังนั่งพูดคุยกับชายวัยกลางคนตรงหน้าด้วยท่าทางสุดแสนจะระมัดระวังเกรงใจ
ชายคนนี้มีนามว่าต้วนยี่ เป็นเจ้าหอมหาสมบัติแห่งยอดเมืองหลวงจักรพรรดิห้าสวรรค์และเป็นยอดฝีมือเทพถ่องแท้เก้าดาว
“นี่มัน…ท่านต้วนยี่ เจ้าโรงเตี้ยมน้อยๆ นั้นมันมีเรื่องราวใดเกิดขึ้นกันแน่?” หยูเหวินเฟิงไม่อาจทนความสงสัยได้อีกต่อไปจึงถามขึ้น
ต้วนยี่นั้นนั่งหลังตรงยกชาขึ้นมาจิบพร้อมด้วยท่าทางสุดจะชื่นชมในรสชานี้
“ท่านเจ้าเมืองหยูทนไม่ถามมาได้นานถึงขนาดนี้มันทำให้ข้าประทับใจจริงๆ แต่มิใช่ว่าต้วนผู้นี้ไม่คิดจะบอกท่าน แต่ข้าแค่กลัวว่าท่านจะกังวลกลัวเรื่องที่เกิดขึ้นจนเกินไป ท่านอยากจะรู้จริงๆ หรือ?” ต้วนยี่ถามด้วยรอยยิ้มบางๆ
หยูเหวินเฟิงหรี่ตาลงไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขานั้นคาดเดาได้แล้วว่าโรงเตี้ยมน้อยๆ แห่งนั้นมันต้องมีเรื่องไม่ธรรมดาเกิดขึ้นอย่างแน่นอนถึงได้ทำให้เทพถ่องแท้เก้าดาวได้เดินทางมายังจวนเจ้าเมืองแห่งนี้ มีหรือที่มันจะเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปได้?
ที่สำคัญในตอนนี้ภายในจวนเจ้าเมืองเองก็ยังมีเทพถ่องแท้ขั้นปลายพักอยู่มากถึงยี่สิบกว่าคน
กองกำลังเช่นนี้มันย่อมทำให้หยูเหวินเฟิงไม่อาจนอนหลับได้สนิทในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
เขานั้นตื่นตกใจเป็นอย่างมากเพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเหล่ายอดฝีมือเทพถ่องแท้ทั้งหลายนี้ หลายต่อหลายคนไม่ได้มาจากค่ายสำนักเดียวกัน
อย่างเช่นต้วนยี่ที่เป็นเจ้าหอมหาสมบัติแห่งยอดเมืองหลวงจักรพรรดิห้าสวรรค์ ส่วนยอดฝีมือท่านอื่นนั้นบ้างก็มาจากยอดเมืองหลวงจักรพรรดิ บ้างก็มาจากเมืองหลวงจักรพรรดิระดับสูง
และมันยังมีอีกหลายคนที่เป็นยอดฝีมือมาจากวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์
เพียงแค่ว่าเหตุใดคนทั้งหลายจึงได้มารวมตัวกันที่นี่?
เทพสวรรค์?
แต่แม้จะเป็นยอดฝีมือเทพสวรรค์เองก็คงไม่อาจบัญชาเทพถ่องแท้จากหลายค่ายสำนักเช่นนี้ออกมาได้!
แล้วใครกันที่สามารถสั่งการกองกำลังผสมเช่นนี้?
หยูเหวินเฟิงนั้นเต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้เปี่ยมหัวใจมาในหลายวันนี้
คนทั้งหลายนี้ได้ลอบเข้ามาในเมืองและมาถึงจวนเจ้าเมืองอย่างที่ไม่มีใครรับรู้
ตอนนี้ภายในจวนเจ้าเมืองมันมีเพียงเขาผู้เดียวเท่านั้นที่รู้เรื่องราว
เมื่อได้ยินคำถามนั้นของต้วนยี่ หยูเหวินเฟิงจึงพยักหน้ารับออกมา “ท่านต้วนโปรดชี้แนะด้วย!”
ต้วนยี่ยกชาขึ้นมาดื่มอีกครั้งก่อนจะยิ้มตอบ “แท้จริงแล้วเจ้าโรงเตี้ยมน้อยนั้นมันเป็นที่ตั้งสาขาของประตูวิญญาณมรณา! หากให้ข้าเดาแล้วมันคงมียอดฝีมือเทพถ่องแท้ขั้นกลางหลบซ่อนอยู่ภายในนั้นไม่น้อยกว่าสิบคน!”
‘เคร้ง!’
หยูเหวินเฟิงตัวสั่นเทาปล่อยให้แก้วชาในมือร่วงลงสู่พื้นจนแตกออก
ตอนนี้ใบหน้าของเขาขาวซีดเสียยิ่งกว่ากระดาษ สองมือนั้นสั่นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ประตูวิญญาณมรณานั้นมันคือชื่อที่ผู้คนได้ยินแล้วต้องขวัญผวา
และกองกำลังในระดับนั้นมันกลับมาตั้งสาขาอยู่ใต้จมูกของเขา!
พวกนี้มาอยู่ได้กี่ปีแล้ว?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...