“นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร?”
“ไม่เป็นอะไรเลย! ท่านเย่หยวนนั้น… ทำได้อย่างไรกัน?”
“นี่มันเป็นพลังป้องกันที่เหนือล้ำฟ้าดิน!”
…
ตอนนี้เสียงโห่ร้องยินดีดังไปทั่วทั้งเมือง
ไม่ได้เจอกันไม่กี่สิบปีเย่หยวนกลับพัฒนาจนทำให้คนทั้งหลายต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย
แน่นอนว่าผู้ที่สั่นสะท้านที่สุดก็คือศัตรู
เติ้งเหว่ยที่เห็นเช่นนั้นต้องเบิกตากว้างจ้องมองร่างนั้นอย่างไม่คิดอยากเชื่อ
เย่หยวนนั้นยืนมั่นอยู่ตรงนั้นอย่างไม่มีร่องรอยบาดแผลใดๆ แม้แต่น้อย
มันต้องเป็นพลังป้องกันที่เหนือล้ำขนาดไหน?!
หลู่ซือยีนั้นเบิกตากว้าง ท่าทางจะตื่นตกใจกับภาพตรงหน้าไม่น้อย
“เมื่อสักครู่นี้มันมี… คลื่นพลังจากสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์! ตัวเขานี้มีสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ประเภทเครื่องป้องกัน!” หลู่ซือยีร้องบอก
“สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์?” เติ้งเหว่ยที่ได้ยินจึงหันหน้าไปหาเย่หยวนอย่างทันท่วงที
ตอนนี้ใบหน้าของเขามีแต่ความตื่นเต้นดีใจ
เย่หยวนนั้นมีสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์อยู่กับตัวมันย่อมหมายความว่าหากเขาฆ่าสังหารเย่หยวนลงได้สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์นี้ก็คงเป็นของเขาแล้ว?
มีหรือที่ความคิดตื้นๆ ของเติ้งเหว่ยนี้จะหลบรอดจากสายตาเย่หยวนไปได้?
เย่หยวนจึงได้เปิดปากพูดขึ้น “อยากได้สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์?”
เติ้งเหว่ยเองก็ไม่ได้คิดจะปิดบังใดๆ “ไม่นึกเลยว่าเดินทางมาครั้งนี้มันจะได้โชคลาภเช่นนี้ สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์นั้นข้าย่อมจะต้องการ!”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ได้ ตราบเท่าที่เจ้ารับการโจมตีจากข้าได้”
เติ้งเหว่ยหัวเราะลั่นออกมาทันที “เจ้าโง่หลงตัวเอง! เจ้าคิดว่าแค่มีพลังของสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ประเภทเครื่องป้องกันก็จะสามารถมีพลังเหนือล้ำกว่าข้าได้หรือ? หากนายน้อยผู้นี้ไม่อาจรับพลังโจมตีของเจ้าได้แล้วชีวิตที่ข้าบ่มเพาะมานานแสนนานนี้มันจะไม่เสียเปล่าหรือ?”
เย่หยวนนั้นไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกมาแต่ความโกรธแค้นของเขามันยังปะทุอยู่ภายใน
“ได้ เช่นนั้นก็รับให้ดี!”
เย่หยวนขยับร่างกายพุ่งทะยานเข้าหาเติ้งเหว่ยราวสายฟ้า
“เร็ว!”
เติ้งเหว่ยที่เห็นเช่นนั้นต้องเบิกตากว้างพยายามปล่อยพลังโลกและปราณเทวะออกมาป้องกันอย่างบ้าคลั่ง
แต่ทว่าพลังโลกหรือปราณเทวะของเขานั้นไม่อาจป้องกันพลังของเย่หยวนได้เลยแม้แต่น้อย
เย่หยวนนั้นเป็นดั่งมีดที่แหลมคมฝ่าเข้ามากลางพลังโลกของเติ้งเหว่ยพร้อมใช้มือทั้งสองจับไหล่ของเขาไว้
เติ้งเหว่ยที่สัมผัสได้ถึงมือทั้งสองนี้ก็รู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งกายพยายามจะใช้พลังที่มีสะบัดตัวเย่หยวนออกไป
แต่ไม่นานเขาก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่หนักหนาราวกับว่าร่างกายจะฉีกขาดออกจากกัน
‘เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดข้าจึงไม่อาจสัมผัสถึงร่างกายตนได้?’
นี่คือความคิดสุดท้ายในหัวของเติ้งเหว่ยเพราะตอนนี้ร่างกายของเขามันได้ถูกเย่หยวนฉีกจนขาดออกจากกันไปแล้ว
เมืองทั้งเมืองถูกความเงียบเข้ากลืนกิน!
ทุกผู้คนต่างมองภาพตรงหน้านี้อย่างไม่อยากเชื่อสายตา
การฉีกร่างของเทพถ่องแท้ห้าดาวออกมาด้วยมือข้างเดียวมันย่อมเป็นภาที่สุดแสนน่าสยดสยอง เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นเรื่องราวเช่นนี้ในชีวิต
สุดแสนตื่นตะลึง สุดแสนโหดร้าย!
สุดแสน… จะสะใจ!
คนทั้งหลายนี้วางท่าทำตัวเหนือท่านเอาแต่พูดว่าคนชั้นต่ำอย่างนั้นอย่างนี้
ในสายตาของคนเหล่านี้เหล่านักยุทธ์ทั่วๆ ไปนั้นมันเป็นอะไรไปไม่ได้มากกว่าแค่ปศุสัตว์
แต่เติ้งเหว่ยกลับถูกเย่หยวนฉีกร่างออกเป็นชิ้นๆ
“กายทองคำสัมบูรณ์ระดับหก… ขั้นกลาง!”
หลู่ซือยีและไต้หยางต้องเบิกตากว้างมองดูเย่หยวนอย่างตื่นตะลึง
พลังกายของเย่หยวนนี้มันเหนือล้ำกว่าที่พวกเขาคาดคิดไปหนักหนามาก
เป็นตอนนี้เองที่พวกเขานั้นได้รู้ว่าตอนที่เย่หยวนรับการโจมตีของเติ้งเหว่ย สมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ใดๆ นั้นมันเป็นได้เพียงแค่ไม้ประดับ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...