ผู้บัญชาการกานนั้นไม่คิดจะมองดูเหรียญใดๆ ในมือของเย่หยวนและแค่หัวเราะเย้ยขึ้น “ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดมันก็ไร้ค่า ผู้บัญชาการผู้นี้จะยอมรับเพียงแค่บัตรเชิญโอสถเมฆาเท่านั้น”
“ฮ่าๆ เจ้าคิดว่ายอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆานั้นมันเป็นเมืองน้อยๆ เมืองหนึ่งหรือ? แค่หยิบเหรียญออกมาเขาก็จะให้เจ้าเข้าไป? บ้านนอกเสียจริงๆ!” เจิ้งเฉียนร้องบอกด้วยสีหน้าดูถูกเต็มที่
“งานชุมนุมโอสถเมฆานั้นต้องมีบัตรเชิญเท่านั้น ไม่ยอมรับสิ่งอื่นใด เรื่องแค่นี้เจ้าก็ยังไม่รู้ถึงมันแล้วยังกล้ามีหน้ามาร่วมงานชุมนุมโอสถเมฆา?” เจิ้งปู้ฉุนร้องบอกขึ้นตาม
พวกเขาทั้งหลายนั้นได้แต่หัวเราะจนท้องแข็ง
สภาพของเย่หยวนในเวลานี้มันดูไม่ต่างอะไรจากเด็กบ้านนอกที่เพิ่งเข้าเมือง ไม่รู้เรื่องราวใดๆ บนโลก
เจ้าหมอนี่มันไม่ได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับงานชุมนุมโอสถเมฆาแม้แต่น้อย เมื่ออยู่ต่อหน้าเหล่ายอดนักหลอมโอสถอย่างพวกเขามันย่อมจะเป็นได้แค่ตัวตลก
เมื่อได้เห็นสีหน้าของคนทั้งหลายนั้นเย่หยวนก็อดไม่ได้ที่จะผงะด้วยความมึนงง
เขานั้นถือเหรียญปรมาจารย์ไว้ในมือแต่กลับถูกเย้ยหยัน
ดูท่าแล้วเจ้าของสิ่งนี้มันจะไม่ได้เป็นประโยชน์มากมายนัก
เขานั้นเคยคิดว่ามันเป็นสุดยอดเหรียญจากตอนที่ได้รับมันมา แต่เมื่อได้ลองเอามันออกมาแล้วคนทั้งหลายกลับไม่มีใครรู้จักมัน
“เด็กน้อย ดูท่าเจ้าจะอยากให้ผู้บัญชาการผู้นี้ลงมือเสียจริงๆ สินะ!”
ในสายตาของผู้บัญชาการกานนั้นเย่หยวนนั้นเป็นแค่เด็กน้อยที่ชอบอวดเบ่งพูดจาเหนือหัวผู้คน
เขาจึงปล่อยคลื่นพลังอย่างรุนแรงคิดจับตัวเย่หยวนไว้ทันที
นั่นมันคือพลังของเทพถ่องแท้ห้าดาวที่กำลังครอบงำเย่หยวนเอาไว้
ส่วนทางพวกเจิ้งเฉียนนั้นกำลังมองดูภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าสบายใจ
เย่หยวนที่เห็นเช่นนั้นก็ได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่น การโจมตีนี้ของผู้บัญชาการกานมันแสนรุนแรง หากการจับคว้านี้ถูกโดนเข้าตัวเขาคงบาดเจ็บสาหัส
ดูท่าเจ้าหมอนี่มันจะคิดประจบเอาใจเหล่าคนทั้งหลายนั้นจึงคิดลงมือหนักหน่วงกว่าที่จำเป็น
แต่เย่หยวนนั้นกลับหัวเราะเย้ยขึ้นมาก่อนจะใช้ตราประทับความเป็นความตาย
เทพถ่องแท้ห้าดาวปะทะเทพถ่องแท้สามดาว แน่นอนว่าผู้บัญชาการกานย่อมจะคิดว่ามันเป็นเรื่องแสนง่ายดาย
แต่เมื่อเย่หยวนใช้วิชานี้ออกมาคลื่นพลังที่ถล่มทลายหนักหน่วงราวเขาทั้งลูกกลับพุ่งเข้าใส่ตัวเขาอย่างฉับพลัน
ปัง!
ผู้บัญชาการกานนั้นไม่ทันตั้งตัวและถูกตราประทับความเป็นความตายซัดเข้าจนลอยปลิวไปไกลก่อนจะร่วงลงพื้นอย่างหนักหน่วง
เจิ้งปู้ฉุนที่เห็นเช่นนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นทันที “นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร?”
ชายหนุ่มอีกคนที่มากับกลุ่มคนด้วยร้องขึ้นอย่างตื่นตะลึง “เจ้าเด็กคนนี้มันแข็งแกร่งปานนี้ได้อย่างไร?”
พวกเขาทั้งหลายนั้นต่างรอดูสภาพน่าสมเพชของเย่หยวนแต่ใครจะไปคิดไปฝันว่าเย่หยวนกลับจัดการผู้บัญชาการกานลงได้ด้วยกระบวนท่าเดียว
เทพถ่องแท้ขั้นต้นกลับสามารถซัดเทพถ่องแท้ขั้นกลางจนปลิวไปได้ด้วยกระบวนท่าเดียว เรื่องนี้มันย่อมจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เย่หยวนนั้นไม่ได้ดูเก่งกาจมากมายอายุแค่พันกว่าปี จะแข็งแกร่งขนาดนั้นได้อย่างไร?
ทั้งอย่างนั้นตัวเขากลับสามารถจัดการผู้บัญชาการกานลงได้ด้วยกระบวนท่าเดียว!
“จะยังยืนนิ่งทำไมอีก? ไอ้เด็กคนนี้มันมาเพื่อหาเรื่องชัดๆ ป-ไปจัดการมันเสีย!” ผู้บัญชาการกานร้องสั่งทหารทั้งหลาย
นั่นทำให้กองทหารขนาดใหญ่รีบพุ่งตัวเข้ามาล้อมเย่หยวนไว้ในทันที
ส่วนตัวเย่หยวนก็ทำได้แค่ขมวดคิ้วแน่น เขานั้นก็ไม่ได้คิดจะมาก่อเรื่องใดๆ แต่ไม่นึกไม่ฝันว่าคนทั้งหลายนี้จะไม่มีใครรู้จักเหรียญปรมาจารย์
แต่หากจะไปโทษผู้บัญชาการกานหรือทหารทั้งหลายมันก็คงไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะเหรียญปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่นั้นเหล่าผู้บัญชาการกานหรือทหารทั้งหลายจะรู้จักหน้าตามันได้อย่างไร?
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียในแดนใต้นี้มันก็มีเหรียญปรมาจารย์นี้เพียงแค่สิบสี่เหรียญ
และเหล่าผู้มีเหรียญปรมาจารย์นี้ติดตัวต่างจะเป็นยอดคนชื่อเลื่องลื่อ อย่างน้อยก็ต้องเป็นเทพสวรรค์ขั้นกลางหรืออาจจะถึงขั้นปลาย
เมื่อคนทั้งหลายนั้นเดินทางมาถึงยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆา การต้อนรับย่อมจะยิ่งใหญ่มหาศาล ไม่มีใครมาแอบเดินดูในเมืองเช่นนี้เป็นแน่
เย่หยวนนั้นไม่ได้รู้ถึงเหตุผลภายใน ตัวเขานั้นคิดแค่อยากจะเดินดูรอบๆ เมือง ใครจะไปคิดว่าเรื่องราวมันจะบานปลายเช่นนี้ได้
แต่ถึงเวลานี้เย่หยวนเองก็ย่อมไม่คิดจะยอมง่ายๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...