จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2039

บนสังเวียนในเวลานี้มันเกิดหมอกหนาลอยตัวขึ้นอย่างเชื่องช้าและอ่อนโยน

แม้ว่ามันจะไม่ได้ดูรุนแรงอย่างเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายก่อนหน้าแต่คลื่นพลังนี้มันกลับทำให้ทุกผู้คนหน้าซีดเผือด

แข็งแกร่ง!

มันแข็งแกร่งจนเหนือคาด!

เทพสวรรค์เจาหยวนนั้นมีเต๋าโอสถที่ยิ่งใหญ่ราวขุนเขาระฟ้า มั่นคงหนักแน่น

ต่อให้เย่หยวนจะสามารถขยี้เทพสวรรค์ออหยุนลงได้อย่างเด็ดขาดแต่พลังที่เขาใช้ออกมานั้นมันก็ยังไม่อาจเทียบเคียงกับคลื่นพลังอันหนักแน่นนี้ได้

“หึๆ พี่เจาหยุนช่างมีเต๋าโอสถที่สูงส่งเพิ่มขึ้นมากนัก! ดูท่าเขาคงเป็นคนผู้เดียวในแดนใต้ที่จะก้าวขึ้นอาณาจักรบรรพกาลต่อจากข้าเสียแล้ว! แม้ว่าเย่หยวนผู้นี้จะเก่งกาจจนน่ากลัว แต่อุปสรรคนี้มันก็คงยากเกินข้าม!”

เมื่อเทพสวรรค์ดันหยู่ได้เห็นภาพตรงหน้านั้นเขาก็อมยิ้มออกมาด้วยท่าทางชื่นชม

ดูท่าแล้วเขาคงมั่นใจในพลังฝีมือของเทพสวรรค์เจาหยวนมาก

ตอนนี้มันเกิดเสียงโห่ร้องอย่างตื่นตะลึงขึ้นทั่วลาน ดูท่าทุกผู้คนคงไม่มีใครคิดฝันว่าเทพสวรรค์เจาหยวนจะมีวิชาโอสถที่เหนือล้ำได้ปานนี้

“เท่านี้ปรมาจารย์เย่ก็คงตกที่นั่งลำบากแล้ว! ศัตรูคนนี้มันแข็งแกร่งเกินไป!”

“ข้าไม่นึกเลยว่าเทพสวรรค์เจาหยวนจะมีวิชาโอสถที่เหนือล้ำได้ปานนี้ แข็งแกร่งกว่าเหล่าปรมาจารย์ทั้งหลายเสียด้วยซ้ำ”

“มันจบแล้วๆ! ปรมาจารย์เย่อุตส่าห์พิสูจน์ฝีมือมาได้ ไม่นึกว่าสุดท้ายกลับยังต้องถูกไล่ออกจากงานชุมนุมโอสถเมฆาไป!”

หากเทพสวรรค์เจาหยวนจะไม่ใช้หม้อหลอมตะวันขาว บางทีเย่หยวนอาจจะยังพอมีพลังเหลือพอต้านทาน แต่เย่หยวนกลับไปบอกให้อีกฝ่ายใช้หม้อหลอมตะวันขาวออกมา

ด้วยสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์คอยหนุนส่งพลังของเทพสวรรค์เจาหยวนย่อมจะเพิ่มพูนขึ้นไปได้อีกราวๆ ยี่สิบถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์

และความแตกต่างในระดับนั้นมันย่อมจะส่งผลใหญ่หลวงต่อการประลองของยอดฝีมือ

ตอนนี้แม้แต่ตัวเย่หยวนเองก็ยังตื่นตะลึงไม่น้อยเพราะเขาไม่นึกไม่ฝันว่าเทพสวรรค์เจาหยวนนั้นจะมีฝีมือที่เหนือล้ำปานนี้

หากดูจากพลังที่เทพสวรรค์เจาหยวนปล่อยออกมานี้เขาย่อมจะเทียบเคียงกับเทพสวรรค์เปียวหยูเมื่อครานั้นได้

แต่ทว่าเย่หยวนกลับไม่แสดงท่าทีกังวลใดๆ ออกมาและยิ้มรับพร้อมสู้แทน

ต้องเจอคู่ต่อสู้เช่นนี้การเดินทางไกลมันถึงจะนับได้ว่าคุ้มค่า!

“ฮ่าๆ เข้ามา!”

เย่หยวนหัวเราะลั่นพร้อมใช้เคล็ดดาราสวรรค์บัญชาสารทิศปล่อยคลื่นพลังที่ไม่ได้อ่อนแอกว่าเทพสวรรค์เจาหยวนออกมา

‘ตูม!’

สองคลื่นพลังอันยิ่งใหญ่เข้าปะทะกันอย่างรุนแรงราวกับขุนเขาที่พุ่งเข้าหากันจนทำให้เกิดลมฟ้าแปรปรวนโดยรอบ

ภาพในเวลานี้มันแทบไม่ได้ด้อยไปกว่าตอนที่เย่หยวนประลองโอสถกับเทพสวรรค์เปียวหยูในครานั้นเลย!

เทพสวรรค์ดันหยู่เบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง “เสมอกัน! นี่มัน… จะเป็นไปได้อย่างไร?”

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเทพสวรรค์เจาหยวนนั้นก็มีความได้เปรียบทั้งในด้านพลังของจิตศักดิ์สิทธิ์ ปราณเทวะ และด้านอื่นๆ อีกมากมายทั้งยังมีสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์อยู่ในมือ

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเย่หยวนก็ยังปะทะกับเขาได้อย่างสูสี

นี่มันเท่ากับว่าหากคนทั้งสองอยู่ในระดับเดียวกันแล้วเทพสวรรค์เจาหยวนย่อมจะไม่อาจเทียบเคียงเย่หยวนได้เลย

เทพสวรรค์เปียวหยูเองก็หรี่ตาลงด้วยความไม่อยากเชื่อเช่นกัน

เพราะตัวเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเย่หยวนนั้นเก่งกาจขึ้นมากกว่าครั้งก่อนที่ได้ประลองกับตัวเขาอย่างมหาศาล

หากตัวเย่หยวนในเวลานี้ไปประลองกับตัวเขาในเวลานั้นแล้ว ชัยชนะมันจะเป็นของฝ่ายไหนก็คงไม่แน่นอน!

“หึๆ มันแค่สูสีจริงๆ หรือ?” เทพสวรรค์เปียวหยูยิ้มขึ้นมาด้วยรอยยิ้มที่เย็นเยือก

ได้ยินเช่นนั้นทุกผู้คนก็สั่นสะท้านไปทั้งกาย

เมื่อลองจ้องมองลงไปอีกครั้งอย่างถี่ถ้วนพวกเขาก็ได้เห็นว่าแท้จริงแล้วตอนนี้พลังของเย่หยวนยังคงพุ่งทะยานสูงขึ้นเรื่อยๆ จนแทบที่จะเอาชนะพลังของเทพสวรรค์เจาหยวนได้

แต่ทว่ามันเป็นความได้เปรียบที่ไม่เด่นชัดนัก เพราะไม่ว่าอย่างไรเทพสวรรค์เจาหยวนก็ไม่ได้อ่อนแอเหมือนพวกเทพสวรรค์ออหยุนทั้งหลาย

ในเวลานี้เทพสวรรค์เจาหยวนนั้นแสดงสีหน้าขมขื่นออกมา ไม่นึกไม่ฝันว่าวันหนึ่งเขากลับจะต้องเผชิญหน้าแรงกดดันในระดับนี้จากจอมเทพโอสถหกดาวผู้หนึ่ง

เทพสวรรค์เจาหยวนนั้นเป็นนักยุทธจร เขานั้นเคยได้ไปพบเจอกับสมบัติสืบทอดจากจอมเทพโอสถแปดดาวผู้หนึ่งเข้า

เคล็ดแท้พันลวงมหาสวรรค์เมฆาฝันนี้ ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นถึงเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายตัวเขาก็ไม่คิดหวาดหวั่นแม้แต่น้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ