คลื่นพลังอันแสนเดียวดายพุ่งทะยานออกมาจากร่างของเทพสวรรค์ดันหยู่
คลื่นพลังของเขาในเวลานี้มันแข็งแกร่งเหนือล้ำกว่าทุกผู้คนที่ผ่านมาอย่างมาก รวมไปถึงตัวเย่หยวนด้วย
พลังของเทพสวรรค์ดันหยู่ตรงหน้านี้มันแทบจะเรียกได้ว่าเทียบเคียงเต๋าสวรรค์
มันเป็นพลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบสามารถเปลี่ยนแปลงฤดูกาลได้ในพริบตา พลังที่อยู่ตรงหน้าผู้คนทั้งหลายในเวลานี้มันคือพลังในระดับนั้น
“นี่หรือคืออาณาจักรบรรพกาล?” เย่หยวนมองดูเทพสวรรค์ดันหยู่อย่างตื่นตะลึง
เพราะนี่มันคือตัวตนสูงส่งที่สุดเท่าที่นักหลอมโอสถจะก้าวขึ้นไปถึง เป็นยอดของเต๋าโอสถอย่างแท้จริง!
อาณาจักรนี้มันเป็นสิ่งที่ทุกผู้คนเฝ้าใฝ่ฝัน รวมไปถึงตัวเย่หยวนเองด้วย
เทพสวรรค์ดันหยู่ยื่นมือออกมาก่อนจะพลิกกลับเปลี่ยนแปลงสมุนไพรวิญญาณทั้งหลายให้กลายเป็นผงลอยเข้าไปในสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ของตนทันทีจนทำให้เกิดแสงสีเหลืองทองพุ่งกระจายออกมาจากภายในสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ชิ้นนั้นพุ่งเข้าปกคลุมรอบกายเทพสวรรค์เปียวหยูสิ้น
“นี่คือเคล็ดทะยานสวรรค์แปลงฟ้าของเทพสวรรค์ดันหยู่ ว่ากันว่าหากบ่มเพาะไปได้จนถึงขั้นสุดแล้วมันจะสามารถหลอมกลั่นได้ทุกสิ่งอย่างแม้แต่ดวงดาว ได้เห็นมันวันนี้แล้วดูท่าคงเป็นความจริง”
“สมชื่อยอดเต๋าโอสถอันดับหนึ่งแห่งแดนใต้เราจริงๆ พลังฝีมือในระดับนี้มันทำให้ผู้คนกลัวไม่กล้าแม้แต่จะไปท้าทายต่อสู้! เทพสวรรค์เปียวหยูเองก็บ้าบิ่นเกินไป ต่อให้เขาจะก้าวขึ้นถึงอาณาจักรบรรพกาลได้จริงๆ แต่มีหรือที่จะเทียบเคียงกับเทพสวรรค์ดันหยู่ได้รวดเร็วปานนั้น?”
“นี่หรือคืออาณาจักรบรรพกาล? ช่างเหนือล้ำเสียจริง! ข้ารู้สึกได้เลยว่าเต๋าโอสถของตนนั้นมันเป็นได้แค่มดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้าพลังนี้”
…
อย่าว่าแต่แค่แดนใต้นี้ ต่อให้เป็นทั้งมหาพิภพถงเทียนก็ตาม คนที่จะก้าวขึ้นไปให้ถึงอาณาจักรบรรพกาลได้นั้นมันย่อมจะมีเพียงแค่หยิบมือ
ต่อให้เป็นเหล่าจอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายนี้ พวกเขาทั้งหลายเองก็แทบจะไม่เคยได้เห็นยอดฝีมืออาณาจักรบรรพกาลลงมือเองจริงๆ
เพราะในหมู่จอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายก็มิใช่ทุกคนที่จะเคยได้เห็นเทพสวรรค์ดันหยู่ลงมือ
เทพสวรรค์ดันหยู่นั้นเป็นถึงยอดฝีมืออาณาจักรบรรพกาล ตัวตนของเขานั้นคือตำนานที่ยังมีลมหายใจ
แต่ในวันนี้พวกเขากลับได้เห็นตำนานผู้นั้นลงมือต่อหน้า!
ทุกผู้คนมองดูทุกท่วงท่าของเทพสวรรค์ดันหยู่อย่างไม่ละสายตา กลัวว่าจะพลาดรายละเอียดสำคัญใดๆ ไป
เพราะประสบการณ์เช่นนี้มันย่อมจะล้ำค่าแก่ทุกผู้คนอย่างมากล้น
“เปียวหยู เจ้าเป็นผู้ที่ท้ารับความอับอายนี้เอง! เจ้าอย่าได้ลืมไป หากเจ้าแพ้แล้วยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวจะต้องมอบส่วนแบ่งตลาดโอสถครึ่งหนึ่งออกมา!” เทพสวรรค์ดันหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“วางใจเถอะ เทพสวรรค์ผู้นี้ย่อมรู้ดีว่ามันเดิมพันอะไรไว้” เทพสวรรค์เปียวหยูตอบ
เย่หยวนที่ได้ยินจึงขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่เข้าใจความหมายของคนทั้งสอง
เขานั้นคิดและเข้าใจไปว่านี้เป็นแค่การประลองโอสถธรรมดาๆ แต่พอได้ยินเช่นนี้แล้วดูท่ามันจะไม่เรียบง่ายปานนั้น
“พี่ซืออี้ พวกเขาทั้งสองกำลังพูดถึงเรื่องใดกันอยู่หรือ?” เย่หยวนถามเทพสวรรค์ซืออี้
เทพสวรรค์ซืออี้ยิ้มตอบไปด้วยใบหน้าไม่ค่อยดีนัก “เรื่องมันยาวน่ะ ก็จริงที่ว่างานชุมนุมโอสถเมฆานี้มันคือแหล่งที่เหล่านักหลอมโอสถจากสารทิศจะมาแลกเปลี่ยนความรู้กัน แต่มันก็ยังมีหน้าที่ในการแลกเปลี่ยนแย่งชิงผลกำไรกันด้วย!”
ที่แท้แล้วตอนที่เหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดรวมตัวกันก่อตั้งพันธมิตรแดนใต้ ทางยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆาได้นั่งตำแหน่งผู้นำพันธมิตรด้วยความสามารถอันเก่งกาจเหนือล้ำของเทพสวรรค์ดันหยู่
เหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดนั้นได้ครอบครองส่วนแบ่งของการค้าขายโอสถและสมุนไพรวิญญาณในแดนใต้ไปกว่าเจ็ดในสิบ
เพราะเหล่าโอสถทั้งหลายนั้นมันย่อมจะเป็นสินค้าที่นักยุทธผู้บ่มเพาะฝึกตนทุกผู้คนต้องการ แน่นอนว่าเจ็ดส่วนของมันนี้ย่อมจะเป็นผลประโยชน์ที่มหาศาล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดที่อยู่ในอาณาจักรเต๋าขั้นสุดด้วยแล้ว ตำแหน่งใดๆ ของพวกเขาย่อมจะเหนือล้ำอย่างไม่อาจเทียบเคียงได้
และเหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดนั้นได้ตกลงกันว่าจะให้ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆานั้นเป็นผู้นำของพวกเขาทั้งหลาย
ระหว่างดินแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยกันแล้ว หากพวกเขาคิดอยากได้ดินแดนหรือส่วนแบ่งตลาดจากใคร พวกเขาก็จะมาตัดสินดวลกันที่งานชุมนุมโอสถเมฆานี้
แต่ทว่าตัวตนของเทพสวรรค์ดันหยู่นั้นมันเหนือล้ำผู้คน นั่งตำแหน่งผู้นำของพันธมิตรมาตลอด
ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆานั้นกินส่วนแบ่งไปถึงสี่สิบเปอร์เซ็นต์จากผลประโยชน์เจ็ดในสิบที่พันธมิตรครอบครอง ส่วนที่เหลือหกสิบเปอร์เซ็นต์นั้นแบ่งกันไปในหกดินแดน
และเรื่องราวการแย่งชิงผลประโยชน์ใดๆ ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกนั้นพวกเขาทั้งหลายจะสามารถใช้ส่วนแบ่งที่ตัวเองมีได้แค่หนึ่งในสิบเท่านั้นในการดวลแต่ละครั้ง ผู้ชนะได้หนึ่งในสิบของผู้แพ้ ผู้แพ้เสียหนึ่งในสิบของที่ตนมี
แต่เพราะว่าเหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหกนั้นพวกเขาทั้งหลายมีฝีมือไม่แตกต่างกันมากมายนัก แม้จะจัดงานชุมนุมโอสถเมฆาขึ้นมาหลายต่อหลายครั้งแล้วแต่ส่วนแบ่งของแต่ละคนก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากมายใดๆ
หากให้พูดตามจริงแล้วเทพสวรรค์เปียวหยูที่เก่งกาจที่สุดน่าจะสามารถนำส่วนแบ่งผลประโยชน์กลับไปให้ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวได้มากที่สุด แต่เทพสวรรค์ดันหยู่นั้นก็มักจะขัดขวางลงดาบยอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวด้วยตำแหน่งของผู้นำพันธมิตรอยู่เสมอ ทำให้กลายเป็นว่ายอดเมืองหลวงจักรพรรดิทองวาวนั้นมีส่วนแบ่งน้อยกว่าอีกห้าดินแดนไปเสีย
และก็เป็นเพราะเช่นนี้เองที่ทำให้เทพสวรรค์เปียวหยูไม่ค่อยจะพอใจในตัวของเทพสวรรค์ดันหยู่มากมายนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...