เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ว่าจิตศักดิ์สิทธิ์ของตนนั้นมันเป็นราวหยดน้ำตกลงสู่ห้วงทะเลแห่งแนวคิดอันกว้างใหญ่
ภายในทะเลอันกว้างใหญ่นี้เย่หยวนรู้สึกได้ว่าตนเองนั้นมันช่างเล็กจ้อย
แต่เมื่อผสานตนเข้าไปแล้วเขาก็รู้สึกได้ราวกับว่าตนเองกำลังก้มมองโลกทั้งใบจากมุมอันสูงล้ำ
ภาพรอบๆ จัตุรัสนี้มันราวกับว่าเขาสามารถควบคุมมองดูมันได้ทุกสิ่งอย่าง ราวกับว่าเป็นเทพเจ้าที่ควบคุมโลกทั้งใบ
ต่อให้จะเป็นมดตัวน้อยที่เดินอยู่บนพื้นดิน แมลงที่แหวกว่ายอยู่บนผิวน้ำ เย่หยวนสามารถมองและแยกแยะทุกสิ่งอย่างได้อย่างชัดแจ้ง
ความรู้สึกเช่นนี้มันเหนือล้ำราวกับต้องมนต์
“นี่มัน… หรือว่าจะเป็นอาณาจักรบรรพกาล? ไม่สิ! แม้ว่าอาณาจักรบรรพกาลจะเหนือล้ำปานใดแต่มันก็คงไม่อาจก้าวล้ำไปได้ถึงขั้นนี้แน่”
เย่หยวนรู้สึกพึ่งพอใจในสภาพนี้อย่างมาก
ภายในทะเลแห่งแนวคิดนี้เทพสวรรค์ดันหยู่ เทพสวรรค์เปียวหยู เทพสวรรค์ลี่หยางและเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างกำลังทำความเข้าใจทะเลแห่งแนวคิดอยู่
เย่หยวนนั้นสามารถมองเห็นถึงกระแสแนวคิดรอบกายของคนทั้งหลายได้อย่างชัดเจน
ในหมู่คนทั้งหลายนั้นผู้มีดูดซับแนวคิดไปได้รวดเร็วที่สุดมันย่อมจะเป็นเทพสวรรค์เปียวหยู ดูท่าแล้วเขาคงมีความสามารถในการเรียนรู้ที่รวดเร็วที่สุดในหมู่คนทั้งหลาย
ต่อมาก็คือเทพสวรรค์ดันหยู่
แต่สิ่งที่เย่หยวนไม่คาดคิดก็คือนอกจากสองคนนี้แล้ว อันดับที่สามมันกลับเป็นเทพสวรรค์เหลียวหมิง
“ดูท่าอายุของเทพสวรรค์เหลียวหมิงจะยังไม่มากนักทำให้ยังพอมีศักยภาพพอจะพัฒนาต่อไปได้ ด้วยพรสวรรค์ระดับนี้แล้วเมื่อได้สัมผัสทะแลแห่งแนวคิดเช่นนี้วันหน้าเขาก็คงจะบรรลุขึ้นอาณาจักรบรรพกาลมาได้เช่นกัน เพียงแค่ว่า… น่าเสียดายที่เทพสวรรค์เจาหยวนไม่ได้อยู่ในงานแล้ว หากเขายังอยู่แล้วเขาคงสามารถบรรลุขึ้นได้ในทันทีแน่”
แต่เย่หยวนนั้นกลับรู้สึกว่า ไม่ว่าตนจะสอดส่องดูคนทั้งหลายไปเท่าไหร่พวกเขากลับไม่อาจสัมผัสถึงการมองดูนี้ได้เลย
สภาพเช่นนี้มันย่อมจะเป็นสิ่งที่อาณาจักรบรรพกาลไม่อาจทำได้แน่
เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นก็เป็นถึงอาณาจักรเต๋าขั้นปลายสิ้น ที่สำคัญพวกเขายังมีจิตที่แข็งแกร่งหนักหน่วง ต่อให้เป็นการขยับไหวเล็กน้อยใดๆ มันก็คงไม่อาจรอดพ้นสายตาของคนทั้งหลายนี้ไปได้แน่
“หรือว่า… ตอนนี้ข้าจะกำลังทองดูพวกเขาผ่านทะเลแห่งแนวคิด? หรือก็คือเวลานี้ข้าได้ผสานเป็นหนึ่งกับเต๋าสวรรค์ในบริเวณนี้แล้ว? โอกาสเช่นนี้ไม่ได้มาง่ายๆ! ต้องสัมผัสให้รู้ซึ้ง”
เย่หยวนนั้นตื่นเต้นในหัวใจ! เพราะเวลานี้มันราวกับว่าร่างของเขานั้นได้รวมเป็นหนึ่งกับแนวคิดของเต๋าสวรรค์
เขานั้นคือเต๋าสวรรค์ และเต๋าสวรรค์นั้นก็คือตัวเขา เย่หยวน!
เย่หยวนค่อยๆ เรียบเรียงความคิดและเริ่มวิเคราะห์ทำความเข้าใจเต๋าสวรรค์
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในพริบตาเวลาหนึ่งเดือนก็ได้ผ่านไป
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นได้เบิกลืมตาขึ้นมาแทบจะพร้อมๆ กันกลับจากสภาพตั้งมั่นในสมาธิพร้อมสีหน้าท่าทางเสียดาย
ด้วยการวิเคราะห์ทำความเข้าใจในวันนี้ พวกเขาทั้งหลายย่อมจะได้รับประโยชน์กันมากมาย
แต่การทำความเข้าใจใดๆ ในตอนนี้มันย่อมจะมีขีดจำกัด เมื่อการบ่มเพาะของพวกเขายังไม่ถึง การอยู่ในทะเลแห่งแนวคิดเนินนานเกินไปมันอาจจะทำให้ถึงตายได้
เพราะไม่ว่าเทพสวรรค์จะเก่งกาจปานใดแต่มันก็ไม่มีทางเก่งกาจไปกว่าเต๋าสวรรค์ได้
ทะเลแห่งแนวคิดนี้มันเหมือนเป็นน้ำอมฤตที่ทรงคุณค่ามหาศาล
ดื่มลงไปเพียงนิดก็ทำให้ผู้คนอิ่มไปนานปี
แต่หากดื่มมากไปมันก็จะส่งพลังที่มหาศาลเกินไปสู่ร่างจนอาจจะทำให้ตัวแตกตายไปในที่สุด
แต่เหล่าพลังของแนวคิดนี้มันย่อมจะต้องใช้เวลาอีกมากที่พวกเขาจะนำมันไปย่อยวิเคราะห์เป็นความรู้ของตน
ส่วนเหล่านักหลอมโอสถทั้งหลายที่มาร่วมฟังการบรรยายนั้น พวกเขาทั้งหลายได้แยกย้ายกันออกจากม่านทะเลแห่งแนวคิดไปนานแสนนาน
พลังฝีมือของพวกเขานั้นมันไม่อาจจะทนทานพลังของทะเลแห่งแนวคิดได้เลย
“ข้าไม่นึกเลยว่าทะเลแห่งแนวคิดนี้มันจะอยู่นานนับเดือน ช่างยากที่จะเห็นนัก! หืม? เย่หยวนยังอยู่อีกหรือ?” เทพสวรรค์ดันหยู่ร้องขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ
เพราะหากให้พูดแล้วเย่หยวนนั้นมีพลังบ่มเพาะที่ต่ำกว่าพวกเขามาก น่าจะต้องถอนตัวออกไปนานแสนนานแล้ว
เทพสวรรค์เปียวหยูก็หันไปมองพร้อมพูดขึ้นตาม “เจ้าหมอนี่ มันไม่รู้จักคำว่าทำอะไรเกินตัวหรือ?”
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายย่อมจะตื่นตกใจอย่างมาก เพราะพวกเขาเหล่าเทพสวรรค์นั้นได้ถอนตัวออกมาแล้วแต่เย่หยวนยังคงปักหลังทำสมาธิอยู่ภายใน
“พี่เปียวหยู สภาพของเย่หยวนมันดูแปลก!” เทพสวรรค์ซืออี้ร้องบอก
เทพสวรรค์เปียวหยูที่ได้ยินก็หน้าซีดลงทันที เมื่อได้มองดูดีๆ แล้วเขาก็พบว่าเย่หยวนนั้นมีสภาพร่างกายที่ไม่ปกติจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...