ชายหนุ่มผู้นี้คือคนที่ฆ่าสังหารลูกสาวของเขาพร้อมฆ่าสังหารลูกน้องของตัวเขาอีกนับพันๆ
แต่ตอนนี้กลับต้องมาก้มหัวให้อีกฝ่าย มันย่อมจะทำให้เขารู้สึกอึดอัดหัวใจอย่างไม่อาจบรรยายได้
แต่เขานั้นก็เข้าใจดีว่าด้วยตำแหน่งปัจจุบันของเย่หยวนแล้ว ต่อให้จะมีสิบหลู่เหยียนมันก็ไม่อาจจะเทียบเคียงได้
หากไม่มีจักรพรรดิเทพสวรรค์ปกป้อง เย่หยวนคงสามารถจะเรียกเทพสวรรค์มาจัดการยอดเมืองหลวงจักรพรรดิห้าสวรรค์ลงได้อย่างง่ายดาย
ลองดูเถิดว่าเวลานี้ผู้คนที่เย่หยวนรู้จักคบหานั้นเป็นใครบ้าง?
เทพสวรรค์เปียวหยู เทพสวรรค์เจาหยวน และยังว่ากันว่ามีเหล่าเจ็ดตระกูลโบราณผู้ยิ่งใหญ่นั้นอยู่อีกด้วย
คนเหล่านี้เพียงแค่คนเดียวตัวเขาก็ไม่กล้าจะไปลบหลู่ใดๆ
แม้ว่าเย่หยวนในเวลานี้จะเป็นแค่เทพถ่องแท้ แต่ตัวเขานั้นสูงส่งจนผู้คนต้องเงยหน้ามองไปแล้ว
“เทพสวรรค์หลู่เหยียนมาหาเย่ผู้นี้มันช่างน่าแปลกใจนัก!” เย่หยวนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเย็นเยือก
หลู่เหยียนนั้นได้แต่พูดขึ้นมาด้วยท่าทางอึดอัด “เรื่อง… เรื่องที่ผ่านมานั้นมันเป็นเพราะหลู่ผู้นี้มีตาหามีแววไม่ ไม่เข้าใจถึงพลังความเก่งกาจที่แท้ของปรมาจารย์เย่จนได้ไปลบหลู่ปรมาจารย์เย่เข้า ข้าแค่หวังว่าปรมาจารย์เย่จะใจกว้างไม่ถือสาเอาความเราหนักหนา”
เมื่ออยู่ในบ้านคนอื่นแล้วเขาก็ได้แต่ต้องก้มหัวลงจรดพื้นเท่านั้น
ในเวลานี้เขาจะยังกลัวเสียหน้าเทพสวรรค์อีกหรือ?
ที่สำคัญไปกว่านั้นแม้แต่เหล่ายอดคนจากพันธมิตรแดนใต้ก็ยังต้องยอมก้มหัวลงต่อเย่หยวน แล้วตัวเขา แค่เทพสวรรค์สองดาวผู้หนึ่งจะนับว่าเป็นเรื่องใหญ่โตใด?
เย่หยวนที่ได้ยินจึงหัวเราะขึ้นมา “หากขอโทษแล้วมันหายพวกเราทั้งหลายก็คงไม่ต้องบ่มเพาะกันหรอกใช่ไหม? หลู่เหยียน เวลานั้นเจ้าได้สั่งทัพนับแสนพร้อมด้วยเทพถ่องแท้นับพันๆ มา หากเย่คนนี้อ่อนแอกว่านั้นเมืองอินทรีสวรรค์นี้คงไม่เหลือแม้แต่ซากเศษแล้วกระมัง? เจ้าคิดจะให้ข้าปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปด้วยคำพูดเดียวของเจ้า? ที่สำคัญหลายปีมานี้เจ้ายังขับไล่หอมหาสมบัติออกจากเมืองของตัว ดูอย่างไรมันก็เป็นการแสดงความคับแค้นใจ เจ้าคิดว่าข้า… คิดว่าเย่ผู้นี้ยังควรช่วยพวกเจ้า?”
เย่หยวนเองก็มิใช่คนใจคับแคบมากมาย แต่ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิห้าสวรรค์นั้นมันได้แสดงความดูถูกต่อชีวิต เริ่มตั้งแต่ที่หลู่ซือยีผู้นั้น เอะอะพูดขึ้นก็จะฆ่าสังหาร เป็นนิสัยท่าทางที่ตัวเขาเกลียดชังมาก
จากนั้นหลู่เหยียนยังส่งทัพนับแสนมาบอกว่าจะถล่มทำลายเมืองลง
หากเย่หยวนไม่ได้ฆ่าสังหารเทพถ่องแท้ทั้งหลายจนหมดสิ้นแล้ว มีหรือที่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์จะยังตั้งมาอยู่จนถึงวันนี้ได้?
พวกหลู่เหยียนได้แต่ยืนทำหน้าไม่ถูกอยู่ตรงนั้น เพราะในเวลานั้นพวกเขานั้นเป็นดั่งน้ำและไฟที่มีเลือดเป็นแรงขับ
เพียงแค่ว่าสถานการณ์นั้นมันเหลือล้ำผู้คนเสมอ พวกหลู่เหยียนทั้งสามนั้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องก้มหัวลงต่อเย่หยวน!
“ที่ปรมาจารย์เย่ว่ามามันก็ถูก ในตอนนั้นมันเป็นพวกเราทั้งหลายที่โง่เขลา เราจึงได้มาอยู่ในสภาพนี้ เพื่อที่จะขอโทษแล้ววันนี้เราจึงได้นำของขวัญมามอบให้หวังว่าปรมาจารย์เย่จะรับมันไว้ด้วย” หลู่เหยียนบอก
เย่หยวนที่ได้ยินก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา “หลู่เหยียน อย่าหาว่าเย่ผู้นี้ดูถูกเจ้าเลยนะ แต่ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิห้าสวรรค์เจ้าจะมีปัญญามอบของที่ถูกใจเย่ผู้นี้ได้หรือ?”
เมื่อคนทั้งสามได้ยินพวกเขาก็แทบสำลักออกมา
มันเป็นความจริงที่ว่าด้วยอำนาจและรายได้ของเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ในเวลานี้แล้ว พวกเขาควบคุมตลาดโอสถแดนใต้กว่าสิบเปอร์เซ็นต์ รายได้ที่มีนั้นมันจะต้องมากมายปานใด?
แค่ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิห้าสวรรค์เมืองหนึ่งต่อให้เหล่าเทพสวรรค์ทั้งสามนี้จะมอบทรัพย์สมบัติที่เก็บมาทั้งชีวิตให้เย่หยวน มันก็คงไม่อาจจะมีค่าใดๆ ในสายตาอีกฝ่ายได้!
คนทั้งสามจึงได้แต่หันมองหน้ากันอย่างเงียบงัน ไม่รู้ว่าจะต้องพูดกล่าวใดๆ ออกมา
แม้ว่าพวกเขานั้นจะเป็นเทพสวรรค์ แต่ต่อหน้าเย่หยวนแล้วตัวตนของพวกเขามันช่างเล็กจ้อย!
ระหว่างที่คนทั้งสามกำลังได้แต่หันไปมองหน้ากันอย่างไม่รู้จะต้องทำอย่างไรต่อเย่หยวนก็กล่าวขึ้นมา “พวกเจ้ามาหาข้านี้คงเพราะเรื่องจะขอให้หอมหาสมบัติกลับไปตั้งร้านในยอดเมืองหลวงจักรพรรดิห้าสวรรค์ใช่ไหม? ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้า แต่จะทำหรือไม่มันก็ขึ้นอยู่กับตัวพวกเจ้าเอง”
เมื่อคนทั้งสามได้ยินพวกเขาก็ยิ้มกว้างขึ้นทันที
แต่ไม่นานนักหลู่เหยียนก็เป็นคนแรกที่หุบยิ้มลง
เพราะเขานั้นรู้ได้ว่าเย่หยวนคงคิดจะขอให้พวกเขาทำเรื่องที่ไม่ง่ายแน่ๆ
“พี่หลู่เหยียน จะยังลังเลใดอยู่เล่า? ปรมาจารย์เย่ได้ให้โอกาสเราอีกครั้งแล้วนะ!” เติ้งหยุนไซร้องบอก
ทุกวันนี้ตัวเขาไม่อาจจะอดทนรับความชักช้าใดๆ ได้อีก เพราะเวลานี้ตระกูลเติ้งของเขาเริ่มขาดแคลนโอสถมาหลายปีแล้ว
หากมันยังไม่มีโอสถใดๆ มาอีกการบ่มเพาะพลังฝีมือของตระกูลเติ้งมันก็จะยิ่งชักช้าลงไปอีกหลายเท่าตัว
เมื่อได้ยินคำของเย่หยวนเติ้งหยุนไซจึงไม่คิดลังเลใดๆ
หลู่เหยียนยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นไปนาน ส่วนทางเย่หยวนเองก็ไม่ได้เร่งรีบใดๆ นั่งรอคำตอบของคนทั้งหลายนี้อย่างเงียบงัน
จนสุดท้ายหลู่เหยียนก็ได้เบิกตากว้างด้วยท่าทางหนักแน่นก่อนจะถามขึ้น “ปรมาจารย์เย่ต้องการสิ่งใด หลู่ผู้นี้จะยอมทำให้แน่นอน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...