จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2092

เทพสวรรค์สามดาวขั้นต้น!

เทพสวรรค์สามดาวขั้นกลาง!

เทพสวรรค์สามดาวขั้นปลาย!

พลังของเทพสวรรค์ปิงหยุนในเวลานี้พุ่งทะยานขึ้นไปอย่างมหาศาลเลยผ่านอาณาจักรเทพสวรรค์สองดาวขึ้นไปจนถึงอาณาจักรเทพสวรรค์สามดาวขั้นสุด

แต่มันยังไม่จบเท่านั้น!

เพราะเวลานี้คลื่นพลังของนางนั้นได้ก้าวล้ำขึ้นไปถึงอาณาจักรเทพสวรรค์สี่ดาว

เดิมทีแล้วด้วยอายุเท่านี้นางคงต้องใช้เวลาอย่างมากมายมหาศาลกว่าที่จะสามารถบรรลุขึ้นไปได้แม้แต่ขั้นหนึ่ง

แต่ทว่าเวลานี้ทางศิษย์ทั้งหลายของหอเมฆาน้ำแข็งนั้นได้เหือดแห้งกลายเป็นแค่ศพไร้ชีวิต ไม่ว่าจะเหนือล้ำปานใดมันก็ยังเป็นวิธีการที่โหดร้ายอย่างมากล้ำ

ตอนนี้หยางเฟยเอ๋อที่เห็นภาพนี้ได้แต่ยืนตัวแข็ง

เหล่าศิษย์และหลายศิษย์ทั้งหลายของนางที่รู้จักกันมาเป็นปี ๆ กลับตายสิ้นไม่เหลือแม้แต่ร่องรอบของชีวิตใด ๆ

นางนั้นได้แต่หันไปมองดูเย่หยวน หากมิใช่เพราะเขาคนนี้แล้วนางเองก็คงมีสภาพไม่แตกต่างจากคนทั้งหลายตรงหน้านี้

เหล่าเทพสวรรค์คนอื่น ๆ เองก็ได้แต่ต้องหันมามองดูเทพสวรรค์ปิงหยุนอย่างตื่นตะลึงและหวาดกลัว

ไม่มีใครคิดใครฝันว่าตัวนางจะยังมีไม้เด็ดเช่นนี้ซ่อนไว้กับตัว

ที่แท้แล้วเทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นเป็นตัวร้ายที่มีความทะเยอทะยานสูงล้ำกว่าพวกเขาทั้งหลายทั้งสิ้นนี้

แต่การปรากฏตัวของเย่หยวนนั้นมันทำให้แผนของเทพสวรรค์ปิงหยุนต้องพังทลาย

ไม่เช่นนั้นแล้วหากในวันหน้าเมื่อหอเมฆาน้ำแข็งพัฒนาไปได้มากกว่านี้ เมื่อเทพสวรรค์ปิงหยุนกลืนศิษย์ทั้งหลายลงไปในเวลานั้นแล้วนางคงก้าวขึ้นเป็นยอดคนอันดับหนึ่งแห่งทุ่งราบสุดอุดรนี้ได้แน่ ๆ!

ต่อให้จะเป็นเทพสวรรค์ห่าวเฟิงออกมาจัดการเรื่องราวเอง ถึงเวลานั้นมันก็คงไม่ง่ายดายแล้ว

คิดได้เท่านี้คนทั้งหลายก็สั่นสะท้านไปทั้งใจ

หากคนที่ใช้วิธีโหดร้ายเช่นนี้ออกมาได้ก้าวขึ้นเป็นผู้ปกครองแล้วทุ่งราบสุดอุดรนี้มันคงได้กลายเป็นดินแดนอันมืดมนภายใต้การปกครองของนางมารร้ายแน่

ในเวลาแค่ชั่วพริบตานี้ สุดท้ายเทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นได้ก้าวขึ้นไปเป็นถึงเทพสวรรค์ห้าดาว!

ตอนนี้หากเทพสวรรค์ห่าวเฟิงไม่ออกหน้าเอง มันก็คงมีแค่ไม่กี่คนในทุ่งราบสุดอุดรนี้ที่จะต้านทานตัวนางได้

เพราะแม้แต่เทพสวรรค์หลัวเฟิงก็ยังไม่อาจจะเทียบนางได้ในเวลานี้

เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นพุง่ตัวขึ้นไปบนอากาศสูงพร้อมชุดที่ปลิวไสวจ้องมองดูเย่หยวน “เด็กน้อย เจ้าบังคับข้าเอง! หนี้นี้ของเราจะต้องถูกสะสางเข้าสักวัน!”

พูดจบเทพสวรรค์ปิงหยุนก็ก้าวเข้าไปในช่องว่างมิติทันที

คนทั้งหลายได้แต่จ้องมองภาพตรงหน้านี้อย่างมึนงงพร้อมหันไปหาเย่หยวนตาม ๆ กัน

พวกเขานั้นกลัว กลัวว่าเย่หยวนจะหันมาฟาดสายฟ้าสะเทือนสวรรค์ใส่พวกตนทั้งหลาย

เย่หยวนหรี่ตาทั้งสองลงและก้าวเท้าออกหายเข้าไปในช่องว่างมิติเช่นกัน

เมื่อได้เห็นเย่หยวนหายไปคนทั้งหลายก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาว

ในที่สุดก็ส่งเจ้าปีศาจนี้ไปพ้น ๆ เสียที!

“พี่หลัวเฟิง นี่…” เทพสวรรค์ฉือหยูหันไปมองอีกฝ่ายด้วยท่าทางลำบากใจ

เทพสวรรค์หลัวเฟิงส่ายหัวออกมาตอบ “เรื่องนี้มันไม่จบง่าย ๆ หรอก! หึ! หลังจากมันใช้สายฟ้าสะเทือนสวรรค์ออกไปแล้วข้าล่ะอยากจะรู้ว่ามันจะยังเอาอะไรมาต้านทานพวกเราได้! เรื่องของเทียนหยางนี้ข้าเกรงว่าพี่ข้าคงรู้ถึงแล้ว เวลานี้ตัวเขาคงกำลังเดินทางออกมาเป็นแน่”

อาจจะเป็นเพราะว่าความรู้สึกอับอายที่ต้องหวาดกลัวเทพถ่องแท้ ในเวลานี้เมื่อเทพสวรรค์หลัวเฟิงพูดจาขึ้นมามันจึงดังจนผิดปกติ

เทพสวรรค์ฉือหยูเองก็พยักหน้ารับ เพราะเข้าใจดีว่าเรื่องราวมันคงไม่จบลงง่าย ๆ เช่นนี้แน่

เฟิงเทียนหยางนั้นเป็นยอดคน แต่ยอดคนเช่นนั้นกลับมาตายลงในชุมเก้าสาย หากมันไม่มีคำอธิบายเรื่องราวที่ดีพอแล้วเทพสวรรค์ห่าวเฟิงคงได้พลิกทุ่งราบสุดอุดรนี้จากหน้าเป็นหลังมือแน่

ไม่นานก่อนหน้าเรื่องราวทั้งหลายจะเกิดขึ้นนั้นในของห้องมืด ๆ ห้องหนึ่งในชุมวายุไพศาลมันได้มีร่างของชายผู้หนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ภายใน

ที่ด้านหลังของเขามันมีตะเกียงหลายต่อหลายดวงวางตั้งเรียงอยู่

และตะเกียงทั้งหลายนี้เองมันคือตะเกียงเลือดเชื่อมวิญญาณของคนสำคัญ ๆ ของชุมวายุไพศาล

แต่จู่ ๆ ตะเกียงดวงหนึ่งมันก็ได้สั่นไหวอย่างรุนแรงก่อนที่จะวูบดับลง

นั่นทำให้ร่างใหญ่โตของชายผู้นั้นต้องเบิกตาออกกว้างจ้องมองเข้าไปในความมืดมิดด้านหน้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ