เทพสวรรค์สามดาวขั้นต้น!
เทพสวรรค์สามดาวขั้นกลาง!
เทพสวรรค์สามดาวขั้นปลาย!
พลังของเทพสวรรค์ปิงหยุนในเวลานี้พุ่งทะยานขึ้นไปอย่างมหาศาลเลยผ่านอาณาจักรเทพสวรรค์สองดาวขึ้นไปจนถึงอาณาจักรเทพสวรรค์สามดาวขั้นสุด
แต่มันยังไม่จบเท่านั้น!
เพราะเวลานี้คลื่นพลังของนางนั้นได้ก้าวล้ำขึ้นไปถึงอาณาจักรเทพสวรรค์สี่ดาว
เดิมทีแล้วด้วยอายุเท่านี้นางคงต้องใช้เวลาอย่างมากมายมหาศาลกว่าที่จะสามารถบรรลุขึ้นไปได้แม้แต่ขั้นหนึ่ง
แต่ทว่าเวลานี้ทางศิษย์ทั้งหลายของหอเมฆาน้ำแข็งนั้นได้เหือดแห้งกลายเป็นแค่ศพไร้ชีวิต ไม่ว่าจะเหนือล้ำปานใดมันก็ยังเป็นวิธีการที่โหดร้ายอย่างมากล้ำ
ตอนนี้หยางเฟยเอ๋อที่เห็นภาพนี้ได้แต่ยืนตัวแข็ง
เหล่าศิษย์และหลายศิษย์ทั้งหลายของนางที่รู้จักกันมาเป็นปี ๆ กลับตายสิ้นไม่เหลือแม้แต่ร่องรอบของชีวิตใด ๆ
นางนั้นได้แต่หันไปมองดูเย่หยวน หากมิใช่เพราะเขาคนนี้แล้วนางเองก็คงมีสภาพไม่แตกต่างจากคนทั้งหลายตรงหน้านี้
เหล่าเทพสวรรค์คนอื่น ๆ เองก็ได้แต่ต้องหันมามองดูเทพสวรรค์ปิงหยุนอย่างตื่นตะลึงและหวาดกลัว
ไม่มีใครคิดใครฝันว่าตัวนางจะยังมีไม้เด็ดเช่นนี้ซ่อนไว้กับตัว
ที่แท้แล้วเทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นเป็นตัวร้ายที่มีความทะเยอทะยานสูงล้ำกว่าพวกเขาทั้งหลายทั้งสิ้นนี้
แต่การปรากฏตัวของเย่หยวนนั้นมันทำให้แผนของเทพสวรรค์ปิงหยุนต้องพังทลาย
ไม่เช่นนั้นแล้วหากในวันหน้าเมื่อหอเมฆาน้ำแข็งพัฒนาไปได้มากกว่านี้ เมื่อเทพสวรรค์ปิงหยุนกลืนศิษย์ทั้งหลายลงไปในเวลานั้นแล้วนางคงก้าวขึ้นเป็นยอดคนอันดับหนึ่งแห่งทุ่งราบสุดอุดรนี้ได้แน่ ๆ!
ต่อให้จะเป็นเทพสวรรค์ห่าวเฟิงออกมาจัดการเรื่องราวเอง ถึงเวลานั้นมันก็คงไม่ง่ายดายแล้ว
คิดได้เท่านี้คนทั้งหลายก็สั่นสะท้านไปทั้งใจ
หากคนที่ใช้วิธีโหดร้ายเช่นนี้ออกมาได้ก้าวขึ้นเป็นผู้ปกครองแล้วทุ่งราบสุดอุดรนี้มันคงได้กลายเป็นดินแดนอันมืดมนภายใต้การปกครองของนางมารร้ายแน่
ในเวลาแค่ชั่วพริบตานี้ สุดท้ายเทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นได้ก้าวขึ้นไปเป็นถึงเทพสวรรค์ห้าดาว!
ตอนนี้หากเทพสวรรค์ห่าวเฟิงไม่ออกหน้าเอง มันก็คงมีแค่ไม่กี่คนในทุ่งราบสุดอุดรนี้ที่จะต้านทานตัวนางได้
เพราะแม้แต่เทพสวรรค์หลัวเฟิงก็ยังไม่อาจจะเทียบนางได้ในเวลานี้
เทพสวรรค์ปิงหยุนนั้นพุง่ตัวขึ้นไปบนอากาศสูงพร้อมชุดที่ปลิวไสวจ้องมองดูเย่หยวน “เด็กน้อย เจ้าบังคับข้าเอง! หนี้นี้ของเราจะต้องถูกสะสางเข้าสักวัน!”
พูดจบเทพสวรรค์ปิงหยุนก็ก้าวเข้าไปในช่องว่างมิติทันที
คนทั้งหลายได้แต่จ้องมองภาพตรงหน้านี้อย่างมึนงงพร้อมหันไปหาเย่หยวนตาม ๆ กัน
พวกเขานั้นกลัว กลัวว่าเย่หยวนจะหันมาฟาดสายฟ้าสะเทือนสวรรค์ใส่พวกตนทั้งหลาย
เย่หยวนหรี่ตาทั้งสองลงและก้าวเท้าออกหายเข้าไปในช่องว่างมิติเช่นกัน
เมื่อได้เห็นเย่หยวนหายไปคนทั้งหลายก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาว
ในที่สุดก็ส่งเจ้าปีศาจนี้ไปพ้น ๆ เสียที!
“พี่หลัวเฟิง นี่…” เทพสวรรค์ฉือหยูหันไปมองอีกฝ่ายด้วยท่าทางลำบากใจ
เทพสวรรค์หลัวเฟิงส่ายหัวออกมาตอบ “เรื่องนี้มันไม่จบง่าย ๆ หรอก! หึ! หลังจากมันใช้สายฟ้าสะเทือนสวรรค์ออกไปแล้วข้าล่ะอยากจะรู้ว่ามันจะยังเอาอะไรมาต้านทานพวกเราได้! เรื่องของเทียนหยางนี้ข้าเกรงว่าพี่ข้าคงรู้ถึงแล้ว เวลานี้ตัวเขาคงกำลังเดินทางออกมาเป็นแน่”
อาจจะเป็นเพราะว่าความรู้สึกอับอายที่ต้องหวาดกลัวเทพถ่องแท้ ในเวลานี้เมื่อเทพสวรรค์หลัวเฟิงพูดจาขึ้นมามันจึงดังจนผิดปกติ
เทพสวรรค์ฉือหยูเองก็พยักหน้ารับ เพราะเข้าใจดีว่าเรื่องราวมันคงไม่จบลงง่าย ๆ เช่นนี้แน่
เฟิงเทียนหยางนั้นเป็นยอดคน แต่ยอดคนเช่นนั้นกลับมาตายลงในชุมเก้าสาย หากมันไม่มีคำอธิบายเรื่องราวที่ดีพอแล้วเทพสวรรค์ห่าวเฟิงคงได้พลิกทุ่งราบสุดอุดรนี้จากหน้าเป็นหลังมือแน่
…
ไม่นานก่อนหน้าเรื่องราวทั้งหลายจะเกิดขึ้นนั้นในของห้องมืด ๆ ห้องหนึ่งในชุมวายุไพศาลมันได้มีร่างของชายผู้หนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่ภายใน
ที่ด้านหลังของเขามันมีตะเกียงหลายต่อหลายดวงวางตั้งเรียงอยู่
และตะเกียงทั้งหลายนี้เองมันคือตะเกียงเลือดเชื่อมวิญญาณของคนสำคัญ ๆ ของชุมวายุไพศาล
แต่จู่ ๆ ตะเกียงดวงหนึ่งมันก็ได้สั่นไหวอย่างรุนแรงก่อนที่จะวูบดับลง
นั่นทำให้ร่างใหญ่โตของชายผู้นั้นต้องเบิกตาออกกว้างจ้องมองเข้าไปในความมืดมิดด้านหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...