“ไม่ได้! เจ้าจะไปกราบเขาเป็นอาจารย์ไม่ได้! หากเจ้าไปกราบเขาเป็นอาจารย์แล้วข้าก็ต้องกลายเป็นคนรุ่นหลังเขาไปสิ?”
“ข้าต้องกราบรองมหาปราชญ์เป็นอาจารย์ให้ได้! โอกาสนี้พลาดไปแล้วชาตินี้คงไม่อาจหาได้อีก!”
“ข้าบอกว่าไม่ ก็คือไม่! หากเจ้ายังคิดไปกราบเขาอีกข้าจะร้องไห้จริง ๆ แล้วด้วย!”
“เจ้านี่มันรั้นไม่ยอมหยุดเสียที!”
“เจ้าต่างหากที่ไม่ยอมฟังเหตุผล! หึ่ม!”
ภายในวิหารนักบวชนั้นมีสองเงาร่างกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่อย่างดุดัน หนึ่งพยายามรั้งหนึ่งพยายามไป แน่นอนว่าทั้งสองนี้คือหลงเสี่ยวไห่และหลงเสี่ยวฉุนสองพี่น้องแล้ว
ส่วนที่ด้านหลังของคนทั้งสองนั้นมีหลงฉือกำลังยืนส่ายหัวอยู่
หลงเสี่ยวฉุนนางนี้ช่างน่าปวดหัวจริง ๆ
ซินหลัวนั้นออกมาจากโถงในเพื่อต้อนรับแขก แต่เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้าตัวเขาก็อดไม่ได้ที่อมยิ้มออกมา “โปรดรอสักครู่ เวลานี้ท่านฉือเซียวกำลังปรึกษาขอความรู้จากท่านรองมหาปราชญ์อยู่ อีกไม่นานท่านรองมหาปราชญ์คงออกมาพบพวกท่านได้”
หลงฉือพยักหน้ารับ
ตัวเขานั้นเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์แน่นอนว่าย่อมจะไม่คิดวางตัวสุภาพใด ๆ ต่อหน้าซินหลัว
เวลานี้เย่หยวนได้ย้ายเข้ามาอยู่ภายในวิหารนักบวชประจำเมืองและมีเหล่านักบวชทั้งหลายคอยรับใช้บูชาราวกับเขาเป็นเทพเจ้า
ทุก ๆ วันจะมีเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายเข้ามาพบปะเขาเสมอด้วยท่าทางสุดเคารพ
ฉือเซียวเองก็เป็นหนึ่งในคนทั้งหลายนั้น ตัวเขาทิ้งศักดิ์ศรีใด ๆ ที่เคยค้ำคอและเข้ามาขอความรู้จากเย่หยวนทุก ๆ วัน ถามถึงความรู้ด้านโอสถที่ตนยังไม่เข้าใจ
และในทุก ๆ วันเขาจะได้กลับไปพร้อมความรู้ล้นสมอง
ไม่นานนักเย่หยวนก็ได้เดินออกมาจากโถงในโดยมีฉือเซียวและกู้หงสองเทพสวรรค์นั้นเดิมตามมาด้วยท่าทางราวคนรับใช้
เมื่อหลงเสี่ยวฉุนได้เห็นเย่หยวนนางก็รีบพุ่งตัวเข้ามาชี้หน้าเย่หยวนทันที “เย่หยวน เจ้าห้ามรับพี่เสี่ยวไห่เป็นศิษย์นะ! ไม่เช่นนั้นแล้วเราสองคนขาดกัน!”
เย่หยวนได้แต่ยืนงงอยู่ตรงนั้นอย่างไม่เข้าใจว่านางกำลังว่ากล่าวเรื่องใด
แต่หลงเสี่ยวไห่ก็วิ่งตามมาดึงตัวหลงเสี่ยวฉุนไปทันทีก่อนจะกล่าวว่าขึ้น “เสี่ยวฉุน เจ้าอย่าได้มายุ่ง! ท่านรองมหาปราชญ์ หลงเสี่ยวไห่คิดอยากกราบท่านเป็นอาจารย์!”
พูดไปหลงเสี่ยวไห่ก็ก้มหัวลงคุกเข่ากราบเย่หยวน
เย่หยวนที่ได้เห็นต้องรีบเข้าไปประคองตัวเขาทันที “พี่เสี่ยวไห่อย่าได้ทำเช่นนี้! หากท่านมีเรื่องใดสงสัยในการโอสถก็มาถามมาคุยกับข้าเอาเถอะ แต่อย่าได้พูดถึงเรื่องการกราบอาจารย์ใด ๆ เลย เย่ผู้นี้นับท่านและเสี่ยวฉุนนั้นเป็นดั่งพี่น้อง มีหรือที่จะรับพี่น้องเป็นศิษย์ได้? ที่สำคัญไปกว่านั้นอย่าได้เรียกข้าว่ารองมหาปราชญ์ใด ๆ อีกเลย แค่เรียกนามของข้าก็พอแล้ว”
หลงเสี่ยวฉุนที่ได้ยินก็รีบเข้ามาตบบ่าของเย่หยวนทันทีด้วยเสียงหัวเราะ “ฮ่า ๆ เจ้าเข้าใจข้าจริง ๆ! หากหลงเสี่ยวไห่นี้กราบเจ้าเป็นอาจารย์แล้ว ข้าก็คงได้กลายเป็นคนรุ่นหลังเจ้ากันพอดีใช่หรือไม่? เจ้าได้ยินหรือไม่หลงเสี่ยวไห่?”
เย่หยวนเองก็ไม่รู้ต้องตอบอย่างไร ความคิดของนางผู้นี้มันแปลกกว่าผู้คนจนเกินกว่าจะเข้าใจจริง ๆ.ไอลีนโนเวล.
หลงเสี่ยวไห่ร้องขัดขึ้นมาด้วยท่าทางหนักใจ “แต่…อีกไม่นานเราจะต้องกลับไปยังเผ่ามังกรแล้ว! ถึงเวลานั้นข้าจะมาหาท่านได้อย่างไรเล่า?”
ตอนนี้หลงฉือที่เงียบอยู่นานก็ทำใจได้ ก้มหัวลงต่อเย่หยวนในที่สุด “หลงฉือขอคารวะท่านรองมหาปราชญ์”
เขานั้นไม่สนใจซินหลัวได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่หยวนผู้ยืนอยู่เคียงทั้งมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลและโอสถบรรพกาลแล้ว ตัวเขาก็ได้แต่ต้องเก็บศักดิ์ศรีของจักรพรรดิเทพสวรรค์ใด ๆ ลงกระเป๋า
เมื่อได้เห็นความสามารถของเย่หยวนนี้ต่อให้จะเป็นหลงฉือหรือฉีซือซูก็ต่างต้องเข้าใจความสำคัญของเย่หยวนต่อมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล
หากมันเกิดเรื่องร้ายใด ๆ ต่อเย่หยวนขึ้น ทางมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลคงไม่พอใจพร้อมที่จะประกาศสงครามศักดิ์สิทธิ์ในทันทีแน่!
เรื่องเช่นนั้นมันไม่มีใครจะทนรับได้
เพราะฉะนั้นแม้ทางเผ่ากิเลนจะอยากได้กระดูกจักรพรรดิกิเลนจนตัวสั่น แต่ก็ยังไม่อาจจะกล้าทำอะไรเย่หยวนอีก
ส่วนเรื่องการตายของฉีเจิ้นใด ๆ นั้นมันย่อมจะไม่มีค่าอีก
มีหรือที่จะเอาคนอย่างฉีเจิ้นมาเทียบเคียงกับรองมหาปราชญ์แห่งเผ่าอสูรได้?
เย่หยวนพยักหน้ารับออกมา “จักรพรรดิเทพสวรรค์หลงฉือท่านสุภาพเกินไปแล้ว เชิญนั่งเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...