เมื่อผลึกต้นมังกรนี้เข้าสู่ร่างกายเย่หยวนก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงเข้ามาจนต้องสูดหายใจเข้าลึก
จากนั้นพลังงานต้นกำเนิดมังกรมันก็ค่อยๆ ไหลรวมเข้ากับเส้นชีพจรของเขา
เวลานี้ทั้งกายเนื้อและสายเลือดของเย่หยวนมันต่างกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
เขานั้นสัมผัสได้ว่าร่างกายของตนกำลังพัฒนาขึ้นไปทีละน้อยๆ
แต่ว่าพลังจากเจ้าผลึกต้นมังกรนี้มันกลับมีส่วนหนึ่งที่ถูกดูดไหลลงไปสู่ปราณเทวะและจิตศักดิ์สิทธิ์ด้วย
ตั้งแต่ที่เย่หยวนบรรลุขึ้นอาณาจักรพิภพโกลาหลมานี้ เย่หยวนก็ได้รู้ว่าไม่ว่ามันจะเป็นพลังงานใดแต่เมื่อเขาดูดซับมันเข้าร่างไป พลังวิญญาณนั้นมันจะถูกแบ่งออกเป็นสามสาย
หรือก็คือไม่ว่าเขาจะบ่มเพาะอย่างไร สุดท้ายแล้วมันก็จะเป็นการพัฒนาปราณ กายและจิตขึ้นไปพร้อมๆ กันอย่างไม่อาจควบคุม!
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วพลังของเย่หยวนมันย่อมจะหนักแน่นขึ้นในทุกด้าน
แต่แน่นอนว่าข้อเสียก็คือการบ่มเพาะของเขามันจะช้าลงเป็นอย่างมาก
แต่ทว่าเจ้าพลังงานต้นกำเนิดมังกรนี้มันกลับถูกส่งเข้าไปพัฒนาอีกสิ่งหนึ่งในกายเย่หยวน
เวลานี้เย่หยวนสัมผัสได้ชัดเจนว่ามีคลื่นพลังอบอุ่นไหลเข้าไปที่หว่างคิ้วของเขายังตำแหน่งของตรามังกรสวรรค์ก่อนที่มันจะค่อยๆ ไหลลงไปทั่วร่างอีกครั้ง
มันจึงทำให้พลังสายเลือดมังกรของเขานั้นบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น!
เว้นเสียแต่ว่าแม้จะดูดซับผลึกต้นมังกรไปถึงหกชิ้นแล้วแต่เย่หยวนก็ยังไม่อาจสัมผัสได้ว่าตรามังกรสวรรค์นี้จะตื่นขึ้นใดๆ จนต้องรู้สึกผิดหวัง
“พลังสายเลือดเพิ่มพูนขึ้นร้อยละยี่สิบ วรยุทธเผ่ามังกรเองก็พัฒนาขึ้นไปอีกร้อยละยี่สิบ! เจ้าผลึกต้นมังกรนี้มันเป็นของดีเสียจริง!” เย่หยวนร้องกล่าว
เพราะเมื่อก้าวขึ้นมาถึงระดับของเขานี้การจะพัฒนาสายเลือดใดๆ ขึ้นไปมันย่อมเป็นเรื่องสุดแสนยากเย็น
แต่เจ้าผลึกต้นมังกรไม่กี่ชิ้นนี้มันกลับเพิ่มพลังสายเลือดขึ้นไปได้ราวร้อยละยี่สิบ สมชื่อว่าเป็นยอดสมบัติของเผ่าพันธุ์
แต่เย่หยวนเองก็สัมผัสได้ว่าผลของผลึกต้นมังกรมันค่อยๆ ลดจางลงไป
ที่สำคัญความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในทีแรกมันกลับมีแต่จะเพิ่มขึ้นไม่มีลดตาม
เย่หยวนคาดเดาว่าเขาคงต้องดูดซับพลังของมันเข้าไปอีกระดับหนึ่งก่อนที่มันจะถึงจุดอิ่มตัว
หลังจากลุกขึ้นได้เย่หยวนก็ไม่คิดรอช้าใดๆ รีบเดินหน้าออกตามหาผลึกต้นมังกรต่อไป
ของเช่นนี้ยิ่งมีมากมันยิ่งจะดีกว่า
ไม่นานนักเขาก็ได้ใช้ตรามังกรสวรรค์ออกตามหาผลึกต้นมังกรจนเจออีกชิ้น
แต่ทว่าเวลานี้เองทายาทมังกรสวรรค์อีกผู้หนึ่งก็ได้เจอมันเข้าเช่นกัน
“เย่หยวน!” อีกฝ่ายหนึ่งร้องขึ้นอย่างตกใจ
เย่หยวนนั้นได้เห็นมาก่อนแล้วว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นใคร เขาคนนี้ก็คืออ่าวหยูนั่นเอง
อ่าวหยูยิ้มเย้ยออกมา “ศัตรูกันมันย่อมไม่อาจหลบกันพ้น! ว่าอย่างไรเล่า? เจ้าพอรู้ตัวบ้างหรือยัง?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “รู้ตัว? เรื่องใดเล่า?”
อ่าวหยูได้แต่ส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยินก่อนจะใช้สายตาเย้ยหยันมองดูเย่หยวน “ช่างไม่อาจเข้าใจได้จริงๆ ว่าความมั่นใจของเจ้านี้มันมาจากที่ใด กล้ามาทำตัวอาจหาญต่อหน้าข้าในเวลานี้ได้! เจ้าคงไม่รู้สินะ? ก่อนหน้านี้ข้าได้ไปเจอกับหลงฉีแห่งปราการมังกรเมฆาและจัดการเอาชนะมันลงได้อย่างไม่ยากเย็น!”
หลงฉีนั้นเป็นตัวตนที่อาจขึ้นถึงอันดับหนึ่งในสามได้ เวลานี้เขาผู้นั้นกลับแพ้พ่ายให้แก่อ่าวหยู
แค่นี้มันก็มากพอจะเป็นหลักฐานแล้วว่าฝีมือของอ่าวหยูมันพัฒนาไปมากเท่าใด
แต่ใครจะไปคาดคิดว่าเย่หยวนกลับไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกมาและถามกลับ “อ่า? แล้ว?”
คำพูดไร้อารมณ์ของเย่หยวนนี้มันทำให้อ่าวหยูไม่พอใจ กระตุ้นความโกรธแค้นของเขาขึ้นอย่างมาก
ที่ด้านนอกนั้นเมื่ออ่าวฉีได้เห็นคนทั้งสองเขาก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวออกมาอย่างหมดหวัง
อย่างที่เขาว่าโลกมันกลม สุดท้ายคนทั้งสองนี้ก็มาเจอกันจนได้!
ก่อนหน้านี้ที่ด้านนอกนั้นเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายได้เห็นเรื่องราวสุดตื่นตะลึงกับตา
อ่าวหยูที่เดิมทีไม่มีใครคิดสนใจนี้กลับเอาชนะอ่าวฉีผู้ถูกวางไว้ว่าเป็นตัวเต็งหนึ่งในสาม
ผลลัพธ์นี้มันย่อมทำให้พวกเขาทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง
เดิมทีไม่มีใครคิดสนใจอ่าวหยู แต่เวลานี้เมื่อเขาเข้าไปยังลานศึกหมอกแล้วเขากลับเหมือนดั่งได้บรรลุฟ้า ได้รับผลึกต้นมังกรมาอย่างไม่ขาดมือ.ไอรีนโนเวล.
สุดท้ายตรามังกรสวรรค์ของเขาจึงตื่นขึ้นได้ถึงสองครั้งและยังสามารถปลุกทักษะเทวะภายในที่สองออกมา แม้แต่หลงฉีเองก็ไม่อาจจะเทียบเคียงเขาได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...