เวลานี้มันเกิดวงพลังหนักหน่วงโดยมีเย่หยวนอยู่เป็นศูนย์กลาง
ภายใต้คลื่นพลังของเย่หยวนนี้พลังโลกของหลินฉางชิงนั้นกลายเป็นดั่งกระดาษบางถูกฉีกทลายลงอย่างง่ายดาย
มันเป็นความรู้สึกดั่งไข่ปะทะก้อนหิน
หลินฉางชิงนั้นหน้าเปลี่ยนสีไปทันทีที่สัมผัสได้ เขาพยายามผลักดันพลังโลกของตนออกมาป้องกันการรุกรานของเย่หยวนอย่างสุดกำลัง
แต่ทว่ามันกลับไม่มีประโยชน์ใดๆ แม้แต่น้อย!
พลังของคนทั้งสองนั้นมันเป็นเหมือนดั่งชายร่างกำยำและเด็กตัวน้อยผลักดันกัน
ชายร่างกำยำนั่นย่อมจะเป็นฝ่ายผลักเด็กน้อยแต่เพียงผู้เดียว
คลื่นพลังที่เขาปล่อยออกมานั้นมันแผ่ขยายออกไปอย่างรวดเร็วจนถึงระยะพันเมตร
และในระยะพันเมตรนี้มันก็คือพื้นที่หนักแน่นไร้การต่อต้าน มีเพียงเย่หยวนผู้เดียวที่ครอบครองมันได้!
ทุกผู้คนต่างมองดูเรื่องราวตรงหน้าอย่างมึนงง ไม่เข้าใจว่าเหตุใดพลังโลกของเย่หยวนมันจึงได้หนาแน่นปานนี้
หลินฉางชิงนั้นเองก็เป็นเทพสวรรค์สองดาวเช่นกัน แต่เขากลับไม่มีกำลังจะผลักพลังโลกนี้กลับมาแม้แต่น้อย
หลินฉางชิงเองนั้นก็ได้แต่เบิกตากว้างจนแทบถลนออกจากเบ้า
เขาได้แต่มองดูเย่หยวนอย่างมึนงง รู้สึกไม่อาจจะเข้าใจภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าใดๆ ได้เลย
“เจ้า…เจ้า…เจ้าเป็นเทพสวรรค์สองดาว นี่…มันเป็นไปได้อย่างไร?”
หลินฉางชิงนั้นได้แต่ต้องสงสัยว่าดวงตาของเขานั้นฝาดไปหรือไม่
เขานั้นเคยคิดมาตั้งแต่ที่พบกันว่าเย่หยวนนั้นเป็นคนมากพรสวรรค์ คงเป็นไปได้หากจะบรรลุขึ้นอาณาจักรเทพถ่องแท้ได้ในเวลาพันปีนี้
บางทีเขานั้นอาจจะถึงขั้นเป็นเทพถ่องแท้ขั้นปลายได้เสียด้วยซ้ำ
แต่เขาก็ไม่เคยคิดฝันว่าเย่หยวนนั้นจะใช้เวลาแค่พันปีสั้นๆ นี้ก้าวขึ้นมาจากอาณาจักรนภาสวรรค์สู่อาณาจักรเทพสวรรค์สองดาว!
เวลานี้เย่หยวนกลับมายืนอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ในระดับเดียวกับเขาได้แล้ว!
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือพลังโลกของเย่หยวนนี้มันหนักแน่นจนเหนือกว่าตัวเขาไปเสียด้วยซ้ำ
สิ่งนี้มันเป็นหลักฐานอย่างดีว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้บ่มเพาะขึ้นมาอย่างไร้หลักการไม่มีพื้นฐานที่หนักแน่น
แต่…มันจะเป็นไปได้อย่างไร?
เจิ้งหยูเฟิงนั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
ศิษย์น้องฉางชิงที่เขาคิดว่าเป็นสัตว์ประหลาดของวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ลั่วเฟิงนี้มีพรสวรรค์เหนือล้นพร้อมทั้งความเร็วการบ่มเพาะที่มากล้น
แต่พรสวรรค์ของเขานั้นมันกลับไร้ค่าใดต่อหน้าเย่หยวน!
“จำได้หรือไม่ เจ้าบอกว่าตนเอง ข้าและลี่เอ๋อนั้นอยู่กันคนละโลก ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้! เจ้าว่ากล่าวได้ถูกต้องไม่มีผิด! เจ้าและข้านั้นมันห่างชั้นกันคนละโลก!”
คำพูดของเย่หยวนนี้มันทำให้หลินฉางชิงต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายใจ
คำพูดเดียวกันนั้น แต่ความหมายมันกลับขั้วกันไปเสียแล้ว
นี่มันคือการมองดูถูกจากเบื้องบนโดยแท้!
เวลาแค่พันปีนี้เย่หยวนกลับสลับตำแหน่งกับหลินฉางชิงอย่างสิ้นเชิง
เขานั้นไม่เคยจะนึกว่าเย่หยวนนั้นจะมีค่าใดมากมายมาก่อน
มดปลวกจากเมืองจักรพรรดิกลับคิดอยากแข่งขันกับเขายอดอัจฉริยะจากวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์?
แต่เย่หยวนนั้นกลับก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรเทพสวรรค์สองดาว ทำลายความมั่นใจใดๆ ของเขาลงสิ้น!
และนี่มันเป็นแค่เวลาพันปี!
อีกพันปีจากนี้เย่หยวนจะก้าวขึ้นไปถึงอาณาจักรใด?
ข้อตกลงสองพันปี…มันช่างน่าขัน!
พันปีจากนี้ไปด้วยความเร็วการบ่มเพาะนี้ เย่หยวนคงก้าวขึ้นมาเหยียบขยี้เขาลงได้ด้วยเท้าเดียว!
เจิ้งหยูเฟิงได้แต่มองตาค้าง เป็นเวลานี้เองที่เขาได้เข้าใจว่าคำพูดที่เย่หยวนกล่าวตอนมาถึงนั้นมันหมายถึงเรื่องใด
“พันปีจากนี้ข้าคงสังหารมันได้ด้วยลมหายใจ จะมีอะไรให้ต้องประลองอีก?”
แน่นอนว่ามันย่อมจะไม่มีอะไรให้เทียบกันได้อีก!
พันปีจากนี้เย่หยวนคงก้าวขึ้นถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ขั้นกลางได้อย่างแน่นอน หรืออาจจะก้าวขึ้นไปได้ถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ขั้นปลาย
ส่วนทางหลินฉางชิงนั้นอย่างมากก็คงก้าวขึ้นไปถึงอาณาจักรเทพสวรรค์สามดาวเท่านั้น
แต่แม้เย่หยวนจะยังเป็นแค่เทพสวรรค์เหมือนกัน แต่พลังของเทพสวรรค์ขั้นปลายมันก็ย่อมจะจัดการเทพสวรรค์ขั้นต้นลงได้อย่างไม่ยากเย็นใด
ผสานสามแนวคิดได้แล้วจะทำไมเล่า?
จู่ๆ หลินฉางชิงก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้พร้อมหรี่ตาลงอย่างหนักแน่น
‘ใช่แล้ว ข้ายังมีการผสานสามแนวคิด!’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...