จะอย่างไรเสียมันก็คงต้องยอมรับถึงความเก่งกาจของเทียนเหออย่างไม่อาจเถียง
ตั้งแต่เกิดจนมาถึงวันนี้ เทียนเหอผู้นี้คงเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เย่หยวนเคยพบเจอ
ต่อให้จะมีพลังบ่มเพาะไม่ห่างกันมากแต่เวลาชะงักของเย่หยวนที่ใช้พลังกายสุดตัวออกมาก็ยังหยุดเขาลงได้แค่ชั่วเสี้ยววินาที
ส่วนเจ้าดาบแสงรวมจิตนั้น เย่หยวนต้องใช้พลังปราณเทวะที่เหลือออกมาจนแทบหมดสิ้น
การโจมตีทุ่มสุดตัวนี้ของเย่หยวนมันกลับไม่อาจสังหารเขาผู้นั้นลงได้
ทั้งๆ ที่ตัวเทียนเหอนั้นถูกกักขังผนึกไว้นานนับล้านปีและยังได้รับบาดเจ็บจากธนูสาบานสังหารเทพไปไม่น้อย
เทียนเหอบอกว่าตัวเองนั้นเคยฆ่าสังหารมังกรบรรพกาลมาก่อน เย่หยวนนั้นย่อมไม่มั่นใจได้ว่าเขาพูดจริงหรือไม่ แต่พลังของเขานี้มันก็คงมากพอทำได้!
แต่ดาบนี้ของเย่หยวนเองก็ได้ทำลายรากฐานพลังของเทียนเหอไปไม่น้อย ดูท่าแล้วเขาคงไม่อาจจะออกมาสร้างเรื่องราวได้อีกสักระยะใหญ่ๆ
เย่หยวนหยิบโอสถขึ้นมากลืนมันลงและนั่งพักฟื้นทันทีที่เทียนเหอจากไป
เวลานี้รอบๆ ตัวเขามันยังมียอดฝีมืออยู่อีกไม่น้อย เย่หยวนย่อมไม่กล้าที่จะประมาท
แต่ในเวลานั้นเองมันกลับมีสามเงาร่างพุ่งทะยานบินขึ้นไปหาธนูสาบานสังหารเทพ!
พวกเขาทั้งหลายนี้ต่างเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์สิ้น!
ที่แท้เวลาตอนนี้มันยังมีจักรพรรดิเทพสวรรค์ซ่อนตัวอยู่อีก!
ดูท่าแล้วคนทั้งหลายย่อมจะคิดไปหยิบเอาสิ่งที่คนทั้งหลายลืมสนใจไป
สามยอดจักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นต่อสู้กันอย่างดุดันบนท้องฟ้า ต่อสู้กันจนฟ้าดินแทบแตกแยกออกจากกันพลังปราณเทวะบินว่อนไปทุกทิศ
คนทั้งสามนี้ต่างต่อสู้กันอย่างสุดตัวไม่มีใครคิดยอมใคร
หากมีใครคนหนึ่งเข้าไปใกล้สมบัติ อีกสองคนก็จะหันมาร่วมมือกันทันที
สุดท้ายมันจึงกลายเป็นการต่อสู้ที่สุดแสนยุ่งเหยิง
ทุกผู้คนที่สัมผัสได้ถึงพลังนั้นต่างค่อยๆ ทิ้งระยะถอยตัวออกห่างมา
เวลานี้คนทั้งสามมีสภาพไม่ต่างจากสัตว์ร้ายที่คุ้มคลั่ง
เวลาเดียวกันทางเย่หยวนก็ใช้วรยุทธบ่มเพาะออกมาซึมซับพลังของโอสถเข้าไปฟื้นคืนพลังกายและปราณเทวะเรื่อยๆ
แต่เขากลับสัมผัสได้ว่ามีพลังรุนแรงจุดหนึ่งกำลังค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ตัวเขา
ไม่ไกลออกไปจักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางได้กล่าวทักขึ้น “เจ้าคนที่ไม่ประเมินตัวเองทั้งหลาย เครื่องรางเต๋านั้นมันเป็นสิ่งที่พวกเจ้าคิดอยากได้ก็ได้หรือ? สหายหนุ่มเย่ เครื่องรางเต๋านี้มันอยู่ในระยะที่เจ้าเอื้อมถึงแท้ๆ เหตุใดจึงไม่คิดหยิบฉวยมันมาเล่า?”
ในเวลานี้จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางที่ฟื้นฟูกำลังได้แล้วจึงได้ก้าวเดินเข้ามาหาเย่หยวน
เขานั้นเงยหน้าขึ้นมองดูธนูสาบานสังหารเทพบนท้องฟ้าด้วยสายตาแห่งความโลภและความเสียใจ
สมบัติล้ำค่าเช่นนี้มีหรือที่เขาจะไม่อยากได้มัน?
เพียงแค่ว่าสภาพของเขาในเวลานี้มันไม่มีทางจะหยิบฉวยมันมาได้แม้อยากได้มัน
แต่ก่อนหน้านี้เย่หยวนอยู่ใกล้เจ้าเครื่องรางเต๋านั้นกว่าเขามาก
ด้วยวิชาการเคลื่อนที่ของเย่หยวนการจะเข้าไปหยิบฉวยธนูสาบานสังหารเทพมามันก็คงมิใช่เรื่องที่เกินมือแต่เย่หยวนกลับไม่คิดแม้แต่จะหันไปมองที่มัน
เย่หยวนได้แต่ยิ้มตอบกลับมา “ธนูศักดิ์สิทธิ์ระดับนั้นปรากฏออกมามันย่อมจะทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต บางทีเหล่าบรรพกาลทั้งหลายอาจจะหันมาสนใจเสียด้วยซ้ำ ข้านั้นไม่อยากจะถูกคนทั้งโลกตามล่านักและยังมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าต้องทำอีกมาก”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางนั้นผงะไปไม่น้อย ได้ยินเช่นนี้เขาย่อมเข้าใจได้ทันทีว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้คิดสนใจเจ้าธนูสาบานสังหารเทพจริงๆ
นอกจากเจ้าเด็กคนนี้จะเก่งกาจเหนือฟ้า มีความสามารถในการเรียนรู้ที่เหนือคน เขาคนนี้ยังมีสติมากพอที่จะไปไหลตัวไปตามความโลภ
ต่อให้เป็นผีเฒ่าอย่างเขาก็ยังแทบไม่อาจควบคุมตัวเองไว้ได้ต่อหน้าสมบัติล้ำค่าอย่างธนูสาบานสังหารเทพทั้งอย่างนั้นเย่หยวนกลับสามารถตั้งสติได้อย่างหนักแน่น
หลังหยุดพูดไปพักหนึ่งเย่หยวนก็กล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “อ่า จริงด้วยผู้อาวุโสเหลียวชาง เย่ผู้นี้มีเรื่องอยากขอคำสั่งสอนจากท่านหน่อย”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เหลียวชางนั้นติดหนีบุญคุณที่เย่หยวนช่วยชีวิตไว้เขาจึงรีบตอบกลับมาทันที “ไม่กล้ากล่าวถึงการสั่งสอนใด แต่หากสหายหนุ่มเย่มีเรื่องอยากถามข้า ข้าก็พร้อมรับฟัง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...