เจียงเจ๋อนั้นหรี่ตาลงมองด้วยความหวาดกลัวทันที
เขานั้นไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนกลับจะมีแนวคิดแห่งห้วงมิติเหนือล้ำได้ขนาดนี้ ตามติดเขามาในห้วงมิติได้ในพริบตา
ฉัวะ!
ดาบพุ่งผ่านทำลายร่างของเจียงเจ๋อลงทันที
จากนั้นเย่หยวนก็ได้พุ่งตัวออกไปอีกครั้ง ตามติดจนถึงตัวของยอดฝีมือพลังต้นกำเนิดอีกผู้หนึ่ง
เมื่อคนทั้งหลายนั้นแยกจากกันไปเช่นนี้แล้วมีหรือที่จะยังต้านทานเย่หยวนได้?
เย่หยวนสังหารคนทั้งสี่ลงราวกับสับหั่นผัก
ส่วนอีกสามคนนั้นยังถูกเทียนหยวนตี้หยางรั้งไว้จนไม่อาจจะไปที่ไหนได้
เย่หยวนนั้นรีบมุ่งหน้ากลับมาหาคนทั้งหลายและฆ่าสังหารคนทั้งสามที่ปะทะกับเทียนหยวนตี้หยางอยู่
แปดยอดฝีมือพลังต้นกำเนิดนั้นกลับไม่มีใครหนีรอดกลับไปได้แม้สักคน
ในเมืองเมฆหนุนเวลานี้เจียงเจ๋อกำลังยืนนิ่งด้วยดวงใจที่หวาดกลัว สีหน้าของเขานั้นมันยังคงซีดเผือดแม้จะฟื้นคืนชีวิตกลับมาแล้ว
“ช่างอับโชคเสียจริง! กลับไปเจอเจ้าเด็กสัตว์ประหลาดเช่นนั้นได้!” เจียงเจ๋อบ่นออกมา
ยอดฝีมือพลังต้นกำเนิดอีกคนนั้นยิ้มตอบขึ้น “เจ้าเด็กคนนี้มันมาจากที่ใดกัน? มันจะเป็นสัตว์ประหลาดจนเกินไปแล้ว! คนอื่นเขาพยายามกันทั้งชีวิตแต่ยังบรรลุพลังต้นกำเนิดได้แค่อย่างเดียว แต่มันกลับมากพรสวรรค์นัก! คนผู้เดียวนี้กลับบรรลุพลังต้นกำเนิดขึ้นมาถึงสองอย่าง! และยังมิใช่แค่นั้น มันยังมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่สูงล้ำทั้งยังสามารถใช้คำบัญชาเต๋าสวรรค์!”
แค่ดูสีหน้านี้มันก็พอจะบอกได้แล้วว่าสภาพจิตใจของเขามันเป็นอย่างไร
เขานั้นรวบรวมยอดฝีมือพลังต้นกำเนิดถึงแปดคนมาได้ ยอดฝีมือพลังต้นกำเนิดที่นับได้ว่าเป็นสุดยอดของอัจฉริยะในหมู่เด็กชะตาไร้คาดเดาทั้งหลาย
จะเรียกว่าพวกเขาทั้งหลายนั้นเป็นอัจฉริยะของเหล่าอัจฉริยะก็คงไม่ผิดนัก เป็นสัตว์ประหลาดในกลุ่มสัตว์ประหลาด
แต่จะอย่างไรพวกเขาเหล่าอัจฉริยะของอัจฉริยะทั้งหลายนี้ก็ไม่อาจเทียบแสงของเย่หยวนได้
“ให้ตายสิ! สงสัยจะก้าวเท้าผิดตอนออกเมืองไป! เจ้าเด็กคนนี้มันมีฝีมือคงติดระดับสี่พันได้ง่ายๆ! ติดแค่ว่ามันมีพลังบ่มเพาะต่ำไปหน่อยไม่เช่นนั้นมันคงติดอับดับทองคำเทพสงครามได้อย่างไม่ยากเย็น!” หลินจ้านกล่าว
อับดับทองคำเทพสงครามนั้นมันคือสิ่งที่จะถูกจัดขึ้นทุกร้อยปี
มันเป็นการจัดลำดับของเหล่าเด็กชะตาไร้คาดเดาที่อยู่อันดับสามพันขึ้นไป
มีแต่เหล่าเด็กชะตาไร้คาดเดาที่อยู่อันดับสามพันขึ้นไปเท่านั้นที่จะติดอับดับทองคำเทพสงคราม
เด็กชะตาไร้คาดเดาที่ติดอับดับทองคำเทพสงครามได้นั้นล้วนแล้วแต่เป็นยอดอัจฉริยะในหมู่ยอดอัจฉริยะด้วยกัน
แต่จะอย่างไรอับดับทองคำเทพสงครามที่ว่านี้มันก็แค่อันดับรองของเมืองเมฆหนุนเท่านั้น
“ช่างเถอะๆ วันหน้าได้เจอมันที่ใดก็รีบหลบเลี่ยงทันที! เจอเทียนหยวนตี้หยางนั้นเองก็รีบหลบเลี่ยงเช่นกัน! สู้ไม่ได้ก็หลบหน้าได้!” เจียงเจ๋อกล่าวขึ้นมาอย่างยอมรับชะตา
…
สังหารเหล่ายอดฝีมือพลังต้นกำเนิดทั้งแปดลงนี้เย่หยวนก็ได้แต้มเทพสงครามมาอย่างบ้าคลั่งทะลุห้าพันแต้มไปในคราเดียว
เทียนหยวนตี้หยางนั้นเองก็ตื่นตะลึงไปไม่แพ้กัน
พวกเขาทั้งสองนั้นกล่าวบอกว่าจะปกป้องเย่หยวนในหุบเขาสุริยันจันทรานี้แต่สุดท้ายกลับเป็นฝ่ายเย่หยวนที่ช่วยเหลือ
ตอนที่เย่หยวนต่อสู้กับคนทั้งสองก่อนหน้านั้นเขาใช้พลังออกมาไม่ถึงครึ่งของที่มี
ไม่เช่นนั้นแล้วผลลัพธ์มันคงไม่จบที่เสมอ
“สหายหนุ่มเย่ มันเป็นเราสองผัวเมียที่ไม่รู้จักว่าอะไรดีงามต่ำสูง ครั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยเหลือ เราจะถือสหายหนุ่มเย่เป็นสหายจากวันนี้ไปแน่นอน! หลังจากกลับไปโลกภายนอกแล้วเจ้าต้องมาเที่ยวเล่นหาพวกเราบ้างนะ” เทียนหยวนกล่าว
คนทั้งสองนี้มีนิสัยแปลกประหลาดจนเกินไป ไม่อาจรู้ได้เลยว่าผู้คนอื่นๆ นั้นคิดอย่างไร
เย่หยวนนั้นดูอย่างไรก็ไม่อยากสุงสิงด้วยแต่คนทั้งสองนั้นกลับยังดื้อด้านไม่คิดหยุด
คนทั้งสองนี้คงลบหลู่ผู้คนมากมายแต่มันก็คงมีหลายคนที่ปล่อยเรื่องราวผ่านไปเช่นกัน ไม่เช่นนั้นแล้วคนทั้งสองคนไม่อาจอยู่รอดมาจนถึงวันนี้ได้
เย่หยวนยิ้มกล่าวขึ้นมา “แน่นอน! เย่ผู้นี้ขอตัวไปบ่มเพาะฝึกฝนต่อก่อนแล้ว ขอตัวลา”
เมื่อกล่าวลาจากคนทั้งสองไปเย่หยวนก็มุ่งหน้าลงลึกในหุบเขาสุริยันจันทรา
ในป่าลึกนั้นมันมีสัตว์ร้ายหัวคล้ายสิงโตร้องลั่นขึ้น
สัตว์ร้ายซวนสู้! เย่หยวนนั้นได้ยินเรื่องราวของสัตว์ร้ายชนิดนี้มาก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...