ในวินาทีต่อมาเย่หยวนก็หายเข้าไปในกลีบดอกไม้ห้าสีนั้น
พร้อมๆ กันนั้นค่ายกลดาบของเขาเองก็จมหายไปด้วย
ทุกผู้คนนั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
ทำเช่นนี้ก็ได้หรือ?
นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ เลยมิใช่หรือ?
กำเนิดหมื่นเต๋านั้นมันมีแต่ต้องทำลายลงด้วยกำลังเท่านั้น
หากวิชานี้ของว่านเจิ้นมีจุดอ่อน เย่หยวนก็ย่อมจะสามารถใช้มันทำลายวิชานี้ลงได้
แต่เพียงแค่ว่ากระบวนท่าวิชาที่ว่านเจิ้นใช้ออกมานี้มันสมบูรณ์แบบอย่างที่ไม่มีจุดอ่อนใดๆ ให้เปิดเผย!
เช่นนั้นแล้วคลื่นพลังจากภายในของกระบวนท่าวิชานี้มันจะรุนแรงปานใด?
แค่ลองคิดดูสักนิดมันก็น่าจะเข้าใจได้
ตู้ม!
ตู้ม!
ตู้ม!
ภายใต้ภาพกลีบดอกไม้ห้าสีปกคลุมโลกหล้านั้นมันกลับเกิดเสียงระเบิดขึ้นมา
คนทั้งหลายนั้นไม่อาจจะเห็นเงาร่างของเย่หยวนใดๆ ได้เลย เห็นเพียงแค่ดาบที่พุ่งผ่านและมุดกลับหายเข้าไปภายใน
แต่เมื่อผางเจิ้นเห็นภาพนี้ตัวเขานั้นกลับต้องเบิกตากว้าง!
“ช่างเป็นเด็กน้อยที่เก่งกาจนัก ถึงขั้นสามารถมองเห็นจุดอ่อนได้ในพริบตา! ว่านเจิ้นนั้นใช้พลังสร้างกำเนิดหมื่นเต๋า หากคิดอยากทำลายมันลงแล้วมันก็ต้องทำลายจากภายในเท่านั้น! แม้ว่าทำเช่นนั้นไปมันจะอันตรายอย่างมากก็ตาม แต่หากไม่ทำมันก็คงไม่มีทางชนะได้!” ผางเจิ้นร้องกล่าว
ห้าธาตุกำเนิดเต๋า มันจะทำการกำเนิดพลังขึ้นมาอย่างไร้สิ้นสุด!
นี่มันคือพลังของเต๋า มันคือพลังของเต๋าอย่างแท้จริงที่แม้จะมีขนาดน้อยกว่าเต๋าสวรรค์ไปมาก
ว่านเจิ้นนั้นไม่ได้เก่งกาจที่พลังการโจมตีเป็นทุนเดิม สิ่งที่เขาเหนือล้ำกว่าใครคิดเกราะที่ไร้จุดอ่อนของเขา
ไม่ว่าเจ้าจะเก่งกาจล้ำโจมตีรุนแรงปานใด มันก็ไม่มีทางจะทำลายเต๋าของเขาลงได้
ในหมู่เด็กชะตาไร้คาดเดาอันดับต้นๆ นั้นหากให้พูดว่าใครเก่งกาจเรื่องการโจมตีที่สุดมันก็คงเป็นผางเจิ้น
แต่หากจะถามว่าใครนั้นถึกทนจัดการลงยากที่สุด มันก็คงเป็นว่านเจิ้นแล้ว!
เพราะแม้แต่ตัวผางเจิ้นเองก็ยังไม่กล้าเข้าไปท้าทายว่านเจิ้นมั่วๆ
หากคิดอยากเอาชนะว่านเจิ้นลงนั้นมันมีแต่ต้องใช้พลังที่เหนือล้ำระดับของเจ้าฟ้าดินเท่านั้น ใช้พลังของอาณาจักรบ่มเพาะกดหัวเขาลง
ไม่เช่นนั้นแล้วคงต้องปะทะกับเขาจากภายใน!
ดูท่าแล้วเย่หยวนคงจะมองเห็นถึงจุดนั้นตั้งแต่วินาทีแรก
แต่เห็นถึงมันก็เรื่องหนึ่ง จะกล้าเข้าไปไหมนั้นมันคนละเรื่องกันสิ้นเชิง
เพราะแก่นของวิชานี้มันมิใช่แก้วที่เปราะบาง แตะเบาก็พังทลาย แต่มันเป็นแก่นพลังสุดแข็งแกร่งที่ทำให้ผู้คนต้องสิ้นหวัง!
เหล่าเด็กชะตาไร้คาดเดาที่เก่งกาจหลายต่อหลายคนนั้นต่างหันมาให้ความสนใจการต่อสู้นี้
เมื่อได้เห็นภาพตรงหน้านี้พวกเขาทั้งหลายต่างตื่นตะลึงไปสุดใจ
“เย่หยวนคงได้ตายแล้ว! พัฒนาเต๋ามากล้นเพื่อให้กำเนิดโลกของตนเอง การเข้าไปในโลกนั้นมันก็เหมือนการรนหาที่ตายมิใช่หรือ?”
“หึๆ ยังไงก็เป็นว่านเจิ้นที่เก่งกาจกว่าไปขั้นหนึ่ง! ดูท่าที่เขาล่าแต้มเทพสงครามมาได้มากมายมันก็คงเพราะความได้เปรียบเรื่องการล่าของค่ายกลดาบนั้นเท่านั้น”
“มันดูแปลกๆ นะ! ทำไมข้าถึงเห็นเหมือนสีหน้าของว่านเจิ้นมันดูไม่ค่อยดีเลยเล่า?”
…
เหล่าผู้คนทั้งหลายนั้นย่อมจะเป็นแค่คนนอกที่ไม่ได้เข้าใจเรื่องราวและคิดว่าการกระทำของเย่หยวนนี้มันโง่เง่าสิ้นดี
กำลังนั้นตัดสินทุกสิ่ง!
แม้ว่าพวกเขาทั้งหลายนั้นจะเป็นเด็กชะตาไร้คาดเดาเช่นกันแต่ช่องว่างของยอดฝีมือระดับสูงๆ ที่ได้เข้าไปในกรงมันก็แตกต่างจากคนที่อยู่เบื้องนอกมาก!
ตู้ม!
ตู้ม!
ตู้ม!
เสียงระเบิดนั้นยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและยิ่งรุนแรงขึ้นกว่าเก่าทุกครั้งไป
คลื่นเสียงสะท้านนี้มันเหมือนค้อนใหญ่ที่ตอกลงกลางใจของผู้คนอย่างไม่รู้ตัว
จากนั้นมันก็เกิดคลื่นพลังสั่นสะท้านแผ่นดินไหวขึ้น!
เวลานี้กลีบดอกห้าสีนับหมื่นนั้นมันแตกสลายลงไปพร้อมๆ กันในพริบตา
คลื่นพลังรุนแรงนั้นมันทะลุออกไปถึงด้านนอกกรงไปถึงด้านล่างพื้นดินของมิติสงครามดึกดำบรรพ์!
จากนั้นขุนเขาแผ่นดินมันก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ!
นี่มันคือพลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์ พลังที่ทำลายภูมิประเทศได้ง่ายๆ น่ากลัวจนเกินจินตนาการ
ว่านเจิ้นนั้นกระอักเลือดออกมาคำโตก่อนจะพุ่งลอยถอยหลังกลับไป
ส่วนอีกด้านนั้นมันก็ปรากฏให้เห็นถึงค่ายกลและดาบมากมายมหาศาลนั้นต่อหน้าผู้คนอีกครั้ง
นั่นมันคือค่ายกลดาบของเย่หยวน!
ทุกผู้คนนั้นต่างต้องอ้าปากค้างมองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...