จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้หันไปมองยังเต๋าบรรพกาลสายฟ้าแต่ก็ไม่ได้หยุดเขาใดๆ
เต๋าบรรพกาลนั้นคือตัวตนที่อยู่สูงล้ำโลกหล้าในมหาพิภพถงเทียนนี้ แม้แต่เหล่ายอดคนเผ่าเทวาทั้งหลายเองก็ยังไม่กล้าจะลงมือต่อหน้าพวกเขาง่ายๆ
เขานั้นมีสิทธิพอที่จะทำ
แม้ว่าการพูดขึ้นมาครั้งนี้ คำพูดของเขานั้นมันจะอึดอัดเต็มที
แต่ใครเล่าที่จะกล้าว่าเขา?
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นยังต้องไว้หน้าเขาบ้างตราบเท่าที่เขาไม่คิดยุ่งกับสมบัติสืบทอดเลิศล้ำ
แต่ในมิติสงครามดึกดำบรรพ์นั้นมันเกิดเสียงแห่งความตื่นตะลึงดังขึ้นทั่วทุกทิศ!
“เต๋าบรรพกาลสายฟ้า! มันเป็นเต๋าบรรพกาลสายฟ้าที่กล่าวพูดนี้!”
“ดูท่าแล้วเต๋าบรรพกาลสายฟ้าจะให้ค่าผางเจิ้นมากจริง!”
“เย่หยวนผู้นี้ก็เก่งกาจเสียจริงๆ ถึงกับทำให้ตัวเต๋าบรรพกาลสายฟ้าต้องออกมาพูดกล่าวเช่นนี้ได้! เขานั้นไม่ไว้หน้าจักรพรรดิเทพสวรรค์ว่านหลิงแต่ใบหน้าของเต๋าบรรพกาลนี้ เขาคงไม่มีทางเลือกใช่หรือไม่?”
…
การทำให้เต๋าบรรพกาลยื่นมือมายุ่งเรื่องราวของคนรุ่นหลังได้นั้นมันก็นับว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว
อย่างน้อยๆ ในหมู่เด็กชะตาไร้คาดเดาทั้งล้านคนนี้มันก็ไม่มีใครทำได้อย่างเย่หยวน
เพราะอย่างไรเสียผางเจิ้นนั้นก็เป็นยอดฝีมือที่มีสิทธิเป็นตัวเต็งจะได้รับสมบัติสืบทอดเลิศล้ำ
แต่เมื่อได้ยินเสียงนี้ตัวผางเจิ้นก็แทบต้องกระอักเลือดออกมา
น่าอับอาย!
‘ไม่นึกเลยว่าข้า ผางเจิ้นนี้จะต้องให้ท่านบรรพบุรุษสายฟ้ามาพูดช่วย!’ ผางเจิ้นนั้นได้แต่ร้องขึ้นมาในใจ
เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนี้เขาเองก็ผงะไปเช่นกัน
เพราะทีแรกเขายังสงสัยอยู่ว่าทำไมผางเจิ้นจึงได้มีแนวคิดสายฟ้าที่เหนือล้ำปานนี้ ไม่นึกไม่ฝันว่าแท้จริงแล้วเขาจะเป็นทายาทลูกหลานของเต๋าบรรพกาลสายฟ้า
เมื่อเต๋าบรรพกาลสายฟ้ากล่าวขึ้นมาเช่นนี้แล้วตัวเย่หยวนเองก็ได้แต่ต้องยืนเงียบ
ทุกผู้คนนั้นหันมองดูที่เขารอว่าเขาจะตอบกลับไปอย่างไร
หลังจากหยุดคิดไปนานสองนานในที่สุดเย่หยวนก็เปิดปากพูด “ให้เขาติดอันดับที่สิบเอ็ดนั้นย่อมได้ แต่ข้าต้องการให้ท่านเต๋าบรรพกาลสายฟ้าสัญญากับข้าเรื่องหนึ่ง!”
ทุกผู้คนที่ได้ยินต้องอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อหู
เจ้าหมอนี่มันกลับคิดเจรจาต่อรองกับเต๋าบรรพกาล?
มันจะกล้าจนเกินไปแล้ว!
ครั้งนี้มันเป็นฝ่ายเต๋าบรรพกาลสายฟ้าบ้างที่ต้องตอบ
“พูดมา! ตราบเท่าที่มันมิใช่เรื่องเกิดหัวบรรพกาลผู้นี้ย่อมจะช่วยได้!” เต๋าบรรพกาลสายฟ้ากล่าวออกมาหลังหยุดคิดไปพักหนึ่ง
เย่หยวนจึงกล่าวขึ้น “ข้าหวังแค่อยากให้ท่านเต๋าบรรพกาลสายฟ้าช่วยข้าเอาหยาดชีวามา!”
เมื่อเต๋าบรรพกาลสายฟ้าได้ยินเช่นนั้นเขาก็ร้องลั่นขึ้นมา “หยาดชีวา! เฮอะ เด็กน้อย เจ้าช่างกล้าพูดเสียจริงๆ! เจ้ารู้แน่หรือว่าหยาดชีวามันคืออะไร?”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ข้าย่อมทราบดี! เพราะฉะนั้นข้าจึงได้ขอให้ท่านเต๋าบรรพกาลสายฟ้าช่วยเหลือ!”
เขานั้นไม่ใช่คนโง่เง่าใดๆ ตัวเย่หยวนย่อมจะรู้ดีว่าหยาดชีวามันคือสิ่งใด
นี่มันคือวัตถุที่อยู่เหนือกฎ มันมีค่าจนไม่อาจเทียบเคียงสิ่งใด!
มันจะปรากฏขึ้นมาบนโลกนี้แค่ในทุกๆ ร้อยล้านปี
และสิ่งนี้มันไม่เคยจะออกไปถึงโลกเบื้องล่างเลย
ในโลกเบื้องล่างนั้นตัวตนของมันเป็นเพียงแค่ตำนาน
เพราะเหล่าเต๋าบรรพกาลไม่เคยจะปล่อยมันไป!
เต๋าบรรพกาลสายฟ้ากล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยือก “เรื่องนั้นไม่ได้ เปลี่ยนเรื่องอื่น!”
แต่เย่หยวนกลับส่ายหัวออกมา “ต้องขออภัย เย่ผู้นี้ต้องการแค่สิ่งเดียว ข้านั้นแค่อยากได้หยาดชีวาเท่านั้น หากท่านผู้อาวุโสไม่อาจช่วยเหลือแล้วเย่ผู้นี้ก็คงไม่อาจตอบรับคำของผู้อาวุโสได้เช่นกัน”
พูดไปเขาก็เคลื่อนค่ายกลดาบออกมาอีกครั้งเตรียมสังหารผางเจิ้น
ทุกผู้คนต่างได้แต่ยืนนิ่ง!
เจ้าหมอนี่มันช่างกล้า!
นี่มันคือเต๋าบรรพกาล! แต่เขากลับไม่คิดสนหน้าอีกฝ่ายแม้แต่น้อย!
“เด็กน้อย เจ้ากล้า!” เสียงนั้นดังลั่นฟ้าดินแสดงถึงความไม่พอใจของเต๋าบรรพกาลสายฟ้าได้ชัดเจน
เย่หยวนตอบกลับไป “คนทั้งสิบเจ็ดนี้คิดสังหารข้าก่อน ผางเจิ้นและยูถันจื่อเองก็เป็นหัวหอกของพวกมัน ในเมื่อเรื่องราวความแค้นถูกก่อขึ้นแล้วเหตุใดข้ายังต้องให้มันได้รับสมบัติสืบทอดใด? แม้ว่าผู้อาวุโสจะมีตำแหน่งเหนือล้ำฟ้าดินแต่ท่านกลับคิดจะบังคังเย่ผู้นี้อย่างไม่คิดตอบแทนใดๆ ต้องขออภัย เรื่องเช่นนั้นมันคงเป็นไปไม่ได้!”
พูดไปตัวเย่หยวนก็พุ่งดาบออกจากห้วงมิติเข้าหาผางเจิ้น
เหล่าเด็กชะตาไร้คาดเดานับล้านนั้นมองพูดภาพนี้ด้วยปากที่อ้าค้างอย่างไม่อยากเชื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...