จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2366

สรุปบท ตอนที่ 2366 สัญญาของเต๋าบรรพกาลสายฟ้า!: จอมเทพโอสถ

ตอน ตอนที่ 2366 สัญญาของเต๋าบรรพกาลสายฟ้า! จาก จอมเทพโอสถ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 2366 สัญญาของเต๋าบรรพกาลสายฟ้า! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้หันไปมองยังเต๋าบรรพกาลสายฟ้าแต่ก็ไม่ได้หยุดเขาใดๆ

เต๋าบรรพกาลนั้นคือตัวตนที่อยู่สูงล้ำโลกหล้าในมหาพิภพถงเทียนนี้ แม้แต่เหล่ายอดคนเผ่าเทวาทั้งหลายเองก็ยังไม่กล้าจะลงมือต่อหน้าพวกเขาง่ายๆ

เขานั้นมีสิทธิพอที่จะทำ

แม้ว่าการพูดขึ้นมาครั้งนี้ คำพูดของเขานั้นมันจะอึดอัดเต็มที

แต่ใครเล่าที่จะกล้าว่าเขา?

จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นยังต้องไว้หน้าเขาบ้างตราบเท่าที่เขาไม่คิดยุ่งกับสมบัติสืบทอดเลิศล้ำ

แต่ในมิติสงครามดึกดำบรรพ์นั้นมันเกิดเสียงแห่งความตื่นตะลึงดังขึ้นทั่วทุกทิศ!

“เต๋าบรรพกาลสายฟ้า! มันเป็นเต๋าบรรพกาลสายฟ้าที่กล่าวพูดนี้!”

“ดูท่าแล้วเต๋าบรรพกาลสายฟ้าจะให้ค่าผางเจิ้นมากจริง!”

“เย่หยวนผู้นี้ก็เก่งกาจเสียจริงๆ ถึงกับทำให้ตัวเต๋าบรรพกาลสายฟ้าต้องออกมาพูดกล่าวเช่นนี้ได้! เขานั้นไม่ไว้หน้าจักรพรรดิเทพสวรรค์ว่านหลิงแต่ใบหน้าของเต๋าบรรพกาลนี้ เขาคงไม่มีทางเลือกใช่หรือไม่?”

การทำให้เต๋าบรรพกาลยื่นมือมายุ่งเรื่องราวของคนรุ่นหลังได้นั้นมันก็นับว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว

อย่างน้อยๆ ในหมู่เด็กชะตาไร้คาดเดาทั้งล้านคนนี้มันก็ไม่มีใครทำได้อย่างเย่หยวน

เพราะอย่างไรเสียผางเจิ้นนั้นก็เป็นยอดฝีมือที่มีสิทธิเป็นตัวเต็งจะได้รับสมบัติสืบทอดเลิศล้ำ

แต่เมื่อได้ยินเสียงนี้ตัวผางเจิ้นก็แทบต้องกระอักเลือดออกมา

น่าอับอาย!

‘ไม่นึกเลยว่าข้า ผางเจิ้นนี้จะต้องให้ท่านบรรพบุรุษสายฟ้ามาพูดช่วย!’ ผางเจิ้นนั้นได้แต่ร้องขึ้นมาในใจ

เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนี้เขาเองก็ผงะไปเช่นกัน

เพราะทีแรกเขายังสงสัยอยู่ว่าทำไมผางเจิ้นจึงได้มีแนวคิดสายฟ้าที่เหนือล้ำปานนี้ ไม่นึกไม่ฝันว่าแท้จริงแล้วเขาจะเป็นทายาทลูกหลานของเต๋าบรรพกาลสายฟ้า

เมื่อเต๋าบรรพกาลสายฟ้ากล่าวขึ้นมาเช่นนี้แล้วตัวเย่หยวนเองก็ได้แต่ต้องยืนเงียบ

ทุกผู้คนนั้นหันมองดูที่เขารอว่าเขาจะตอบกลับไปอย่างไร

หลังจากหยุดคิดไปนานสองนานในที่สุดเย่หยวนก็เปิดปากพูด “ให้เขาติดอันดับที่สิบเอ็ดนั้นย่อมได้ แต่ข้าต้องการให้ท่านเต๋าบรรพกาลสายฟ้าสัญญากับข้าเรื่องหนึ่ง!”

ทุกผู้คนที่ได้ยินต้องอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อหู

เจ้าหมอนี่มันกลับคิดเจรจาต่อรองกับเต๋าบรรพกาล?

มันจะกล้าจนเกินไปแล้ว!

ครั้งนี้มันเป็นฝ่ายเต๋าบรรพกาลสายฟ้าบ้างที่ต้องตอบ

“พูดมา! ตราบเท่าที่มันมิใช่เรื่องเกิดหัวบรรพกาลผู้นี้ย่อมจะช่วยได้!” เต๋าบรรพกาลสายฟ้ากล่าวออกมาหลังหยุดคิดไปพักหนึ่ง

เย่หยวนจึงกล่าวขึ้น “ข้าหวังแค่อยากให้ท่านเต๋าบรรพกาลสายฟ้าช่วยข้าเอาหยาดชีวามา!”

เมื่อเต๋าบรรพกาลสายฟ้าได้ยินเช่นนั้นเขาก็ร้องลั่นขึ้นมา “หยาดชีวา! เฮอะ เด็กน้อย เจ้าช่างกล้าพูดเสียจริงๆ! เจ้ารู้แน่หรือว่าหยาดชีวามันคืออะไร?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ข้าย่อมทราบดี! เพราะฉะนั้นข้าจึงได้ขอให้ท่านเต๋าบรรพกาลสายฟ้าช่วยเหลือ!”

เขานั้นไม่ใช่คนโง่เง่าใดๆ ตัวเย่หยวนย่อมจะรู้ดีว่าหยาดชีวามันคือสิ่งใด

นี่มันคือวัตถุที่อยู่เหนือกฎ มันมีค่าจนไม่อาจเทียบเคียงสิ่งใด!

มันจะปรากฏขึ้นมาบนโลกนี้แค่ในทุกๆ ร้อยล้านปี

และสิ่งนี้มันไม่เคยจะออกไปถึงโลกเบื้องล่างเลย

ในโลกเบื้องล่างนั้นตัวตนของมันเป็นเพียงแค่ตำนาน

เพราะเหล่าเต๋าบรรพกาลไม่เคยจะปล่อยมันไป!

เต๋าบรรพกาลสายฟ้ากล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยือก “เรื่องนั้นไม่ได้ เปลี่ยนเรื่องอื่น!”

แต่เย่หยวนกลับส่ายหัวออกมา “ต้องขออภัย เย่ผู้นี้ต้องการแค่สิ่งเดียว ข้านั้นแค่อยากได้หยาดชีวาเท่านั้น หากท่านผู้อาวุโสไม่อาจช่วยเหลือแล้วเย่ผู้นี้ก็คงไม่อาจตอบรับคำของผู้อาวุโสได้เช่นกัน”

พูดไปเขาก็เคลื่อนค่ายกลดาบออกมาอีกครั้งเตรียมสังหารผางเจิ้น

ทุกผู้คนต่างได้แต่ยืนนิ่ง!

เจ้าหมอนี่มันช่างกล้า!

นี่มันคือเต๋าบรรพกาล! แต่เขากลับไม่คิดสนหน้าอีกฝ่ายแม้แต่น้อย!

“เด็กน้อย เจ้ากล้า!” เสียงนั้นดังลั่นฟ้าดินแสดงถึงความไม่พอใจของเต๋าบรรพกาลสายฟ้าได้ชัดเจน

เย่หยวนตอบกลับไป “คนทั้งสิบเจ็ดนี้คิดสังหารข้าก่อน ผางเจิ้นและยูถันจื่อเองก็เป็นหัวหอกของพวกมัน ในเมื่อเรื่องราวความแค้นถูกก่อขึ้นแล้วเหตุใดข้ายังต้องให้มันได้รับสมบัติสืบทอดใด? แม้ว่าผู้อาวุโสจะมีตำแหน่งเหนือล้ำฟ้าดินแต่ท่านกลับคิดจะบังคังเย่ผู้นี้อย่างไม่คิดตอบแทนใดๆ ต้องขออภัย เรื่องเช่นนั้นมันคงเป็นไปไม่ได้!”

พูดไปตัวเย่หยวนก็พุ่งดาบออกจากห้วงมิติเข้าหาผางเจิ้น

เหล่าเด็กชะตาไร้คาดเดานับล้านนั้นมองพูดภาพนี้ด้วยปากที่อ้าค้างอย่างไม่อยากเชื่อ

ได้ที่สองที่สามมันก็ยังพอได้!

แน่นอนว่าศึกหลังจากนั้นก็ย่อมจะไม่มีเรื่องราวใดๆ ให้น่าจดจำ เย่หยวนนั้นแค่ใช้ค่ายกลดาบไล่สังหารเด็กชะตาไร้คาดเดาที่เหลือจนสิ้น

ภายในกรงขังนั้นมันเหลือเพียงแค่ตัวเย่หยวนและว่านเจิ้น

“หึๆ ไม่นึกเลยว่าสุดท้ายแล้วมันก็จะเป็นศึกตัดสินของพี่ว่านกับข้าอีก!” เย่หยวนหัวเราะขึ้นมา

ว่านเจิ้นนั้นยิ้มรับออกมา “ข้าก็ไม่นึกเหมือนกันว่าเจ้าจะใช้วิธีการเช่นนี้จนมาตัดสินกับข้าจนได้ หลายวันมานี้ข้าคงถูกเจ้าทิ้งห่างลิบลับแล้ว!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ยังไม่ได้สู้จะรู้ได้อย่างไรกันเล่า? พี่ว่านนั้นเป็นยอดคนมากพรสวรรค์ที่สุดเท่าที่เย่ผู้นี้เคยได้พบเจอมา!”

ว่านเจิ้นที่ได้ยินก็รู้สึกซาบซึ้งขึ้นมา เย่หยวนนั้นไว้หน้าเขาอย่างมาก

เพราะถึงเวลานี้จะสู้หรือไม่มันก็ไม่มีค่าใดๆ แล้ว

ไม่มีใครคิดว่าตัวเขาจะเอาชนะเย่หยวนได้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่คิดเช่นนั้น

แต่เย่หยวนนั้นกลับไว้หน้าเขาอย่างมาก

เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจหน้าตาชื่อเสียงของเต๋าบรรพกาล แต่เย่หยวนกลับไว้หน้าให้เกียรติและชื่อเสียงเขามากมาย!

เขานั้นเริ่มได้เข้าใจถึงกฎการปฏิบัติตัวของเย่หยวนขึ้นมา

สิ่งใดที่เขาไม่ชอบนั้นต่อให้เอามีดมาจ่อคอเขาก็ไม่มีทางหวาดกลัว

สิ่งใดที่เขาชอบนั้นต่อให้ต้องสู้กับคนทั้งโลก เขาก็พร้อมจะสู้ไปด้วยกัน!

นี่มันคือสหายที่ควรค่าจะมีไว้!

จากนั้นเขาก็ต้องหัวเราะขึ้นมาอย่างสะใจดังลั่น “ได้ เช่นนั้นก็มาตัดสินกันเถอะ! ครั้งนี้ข้าคงไม่ออมมืออีกแล้ว!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ต้องเป็นเช่นนั้นแล้ว!”

คนทั้งสองนั้นต่อสู้กันไปอีกหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ!

เย่หยวนนั้นไม่ได้ออมมือใดๆ แต่จะอย่างไรว่านเจิ้นนั้นก็ได้รับฉายานามว่าเป็นเด็กชะตาไร้คาดเดาที่ถึกทนที่สุด

จนถึงสุดท้ายเมื่อว่านเจิ้นใช้ปราณเทวะออกมาจนหมดสิ้นแล้ว เย่หยวนจึงได้กลายเป็นฝ่ายชนะไป!

เมื่อจบศึกนี้ลงแล้วศึกของเหล่าเด็กชะตาไร้คาดเดามันก็ปิดม่านลงในที่สุด!

………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ