“ต้นกำเนิดเต๋าดาบ! ต้นกำเนิดเต๋าค่ายกล! ต้นกำเนิดห้วงมิติ! นี่มัน… เจ้าหมอนี่มันเป็นใครกันแน่?”
“ยอดอัจฉริยะเหนือสวรรค์เช่นนี้มันปรากฏขึ้นในเผ่ามนุษย์ตั้งแต่เมื่อใดกัน? ทำไมจึงไม่มีข่าวคราวของมันในเผ่าเทวาเลย?”
“น่ากลัวจนเกินไปแล้ว! หากอัจฉริยะเช่นนี้ได้มีเวลาเติบโตแล้วมันคงได้กลายเป็นภัยร่างของเผ่าเทวาเรา!”
…
ไม่ว่าจะเป็นเผ่าเทวาหรือเผ่ามนุษย์ทั้งหลายในที่นี้หลังจากได้เห็นพลังตรงหน้าพวกเขานั้นก็ต้องยืนนิ่งด้วยใบหน้าขาวซีด
จักรพรรดิเทพสวรรค์ห้าดาวคนหนึ่งกลับสามารถบ่มเพาะสามพลังต้นกำเนิดได้ ทั้งหนึ่งในนั้นยังเป็นถึงสุดยอดแนวคิด!
พรสวรรค์เช่นนี้มันน่ากลัวจนเกินไป
เจ้าวังสวรรค์เฝ้าหรี่ตาลงมองอย่างหนักใจ “ไม่มีทาง! ข้าไม่อาจปล่อยมันไว้ได้อีกต่อไปแล้ว! ไม่เช่นนั้นวันหน้ามันคงได้กลายเป็นหายนะของเผ่าเทวาเรา!”
“โจมตีเข้าเด็กคนนี้พร้อมกัน สังหารมันให้ได้!” เจ้าวังสวรรค์เฝ้าร้องสั่งอย่างไม่คิดลังเลใดๆ
แม้ว่าพลังที่เย่หยวนแสดงออกมานั้นมันจะดูน่าเกรงกลัวแต่มีหรือที่ตัวตนระดับเจ้าวังสวรรค์เฝ้านั้นจะหวาดกลัว?
ด้วยกำลังของเจ้าวังสวรรค์เฝ้านี้ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาวเองก็คงไม่มีปัญหาใด ไม่ต้องพูดถึงเย่หยวนที่เป็นแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์ห้าดาวเลย
ภายใต้คำสั่งนี้ยอดคนทั้งหลายก็ได้ต่างใช้วิชาฝีมือออกมาอย่างเต็มที่
แม้ว่าการโจมตีทั้งหลายนั้นมันจะไม่อาจพุ่งผ่านห้วงมิติมาได้แต่มันก็ยังคงรุนแรงไม่มีเปลี่ยน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าเต๋าสวรรค์แปดลายขั้นปลายทั้งหลายนั้นที่มีพลังเหนือล้ำกว่าคนอื่นๆ ไปหลายเท่าตัว
ฉินเชาที่ได้ยินอยู่ข้างกายเย่หยวนนั้นต้องยืนนิ่งด้วยใบหน้าขาวซีด
มีหรือที่คนอย่างเขาจะเคยเห็นการปะทะที่รุนแรงเช่นนี้มาก่อน?
“เจ้าอย่าได้ขัดขืน ปล่อยตัวไปตามการจัดวางของข้าไม่เช่นนั้นแล้วจะได้ตายเอา”
เสียงของเย่หยวนดังขึ้นอย่างเฉื่อยชาทำให้จิตใจของฉินเชาสงบลง
แม้จะเจอยอดฝีมือขนาดนี้พร้อมๆ กันแต่ตัวเขานั้นกลับยังคงสงบเยือกเย็นได้
ราวกับว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้าของเขานี้มันมิใช่เผ่าเทวาใด แต่เป็นเพียงแค่หมูหมากาไก่ไร้ฝีมือ!
“ค่ายกลดาบนิพพานแท้ ผงาด!”
เย่หยวนยกนิ้วขึ้นมาส่งคลื่นพลังของค่ายกลดาบหนักหน่วงเข้าปกคลุมพื้นที่
พริบตาเดียวนั้นพื้นที่กว้างใหญ่นี้มันก็ได้กลายเป็นสนามรบเลือด!
“อ่า!”
“อั่ก!”
“อ้าก!”
…
เสียงกรีดร้องนั้นยังคงดังต่อเนื่อง เหล่ายอดฝีมือชาวมนุษย์ทั้งหลายนั้นรวมไปถึงเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลายทั้งหลายต่างร่วงตายตกลงอย่างต่อเนื่องหายไปในเวลาแค่พริบตา
ไม่ว่าจะอย่างไรแม้แต่พวกผางเจิ้นทั้งหลายก็ยังไม่อาจจะรับมือค่ายกลดาบของเย่หยวนได้นานมากนัก มีหรือที่คนทั้งหลายจะทนทานได้?
พวกผางเจิ้นทั้งหลายนั้นคือเด็กชะตาไร้คาดเดา แต่ละคนนั้นเป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวแปดดาวกันสิ้น
เทียบกันแล้วเหล่ายอดฝีมือชาวมนุษย์ตรงหน้านี้มันช่างอ่อนแอแสนธรรมดา
เจ้าวังสวรรค์เฝ้าหรี่ตาลงมองภาพตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง
เขานั้นไม่เคยนึกฝันว่ามนุษย์จะกลับมีพลังต่อสู้ที่สูงล้นปานนี้ได้!
การต่อสู้ข้ามระดับเช่นนี้ทั้งยังฆ่าสังหารอีกฝังลงเป็นเบือ ต่อให้จะเป็นตัวเขาที่เป็นเผ่าเทวานั้นเองก็ยังไม่อาจจะทำได้!
เผ่าเทวานั้นเก่งกาจแต่มีหรือที่อัจฉริยะของเผ่าเทวาจะสามารถฆ่าสังหารจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นปลายได้นับสิบๆ ด้วยเพียงแค่ยกฝ่ามือเหมือนเย่หยวน?
ไม่มีทาง!
ยิ่งได้เห็นฝีมือนี้ของเย่หยวนไปมากเท่าใดตัวเขานั้นก็ยิ่งตกตะลึงไปมากเท่านั้น
หลังจากที่เหล่ามนุษย์ทั้งหลายตายลงมันก็เริ่มมาถึงตาของเผ่าเทวา
เผ่าเทวาทั้งหลายเองก็ไม่อาจจะยืดหยันอยู่ได้นานนักในค่ายกลดาบนี้
คลื่นพลังใดๆ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนท่าแบบไหนมันก็ไม่มีค่าใดในค่ายกลดาบนี้
ค่ายกลดาบนิพพานแท้ในเวลานี้มันได้ผสานไปด้วยต้นกำเนิดห้วงมิติที่เย่หยวนสร้างขึ้นมาใหม่ทำให้พลังของมันนั้นพัฒนาไปอีกหลายเท่าตัวนัก
สามพลังต้นกำเนิดผสานเป็นหนึ่ง นี่มันคือพลังที่มากล้นอย่างไม่อาจจินตนาการ
เวลานี้เมื่อค่ายกลดาบนิพพานแท้มันได้รับการพัฒนาขึ้นมามันย่อมจะเรียกได้ว่าไร้ช่องว่างใด!
ตอนนี้แม้แต่ตัวเจ้าวังสวรรค์เฝ้าเองก็ยังรู้สึกถึงภัยความตายใกล้เข้ามา
เขานั้นอยากจะหนีแต่เวลานี้มิติมันถูกปิดกั้นชะงักงันผสานกับพลังของค่ายกลดาบนี้ที่โจมตีอย่างไม่หยุดพักเขาจึงไม่อาจจะหนีไปที่ไหนได้เลย!
มิติชะงักมันเท่ากับว่าห้วงมิติในบริเวณนี้ได้ตกอยู่ในการควบคุมของเย่หยวนสิ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...