ตอนที่ 2380 เชิญเทพนั้นเชิญง่าย ไล่เทพนั้นไล่ยาก! – ตอนที่ต้องอ่านของ จอมเทพโอสถ
ตอนนี้ของ จอมเทพโอสถ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2380 เชิญเทพนั้นเชิญง่าย ไล่เทพนั้นไล่ยาก! จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
“ผู้อาวุโสท่านว่าจะจัดการเรื่องนี้เอง! แต่ทุกผู้คนจงอย่าได้ลืม เรานั้นคือคน มิใช่หมูหมา! การขัดขืนนั้นมันย่อมจะเกิดความสูญเสีย แต่หากไม่ขัดขืน… เราก็จะเป็นได้แค่หมูหมาตลอดกาล!”
แม้ต้องเผชิญหน้ากับเหล่าเจ้าสำนักนิกายทั้งหลาย ตัวฉินเชาก็ยังกล่าวคำของเย่หยวนออกมาอย่างเรียบเฉย
แต่คนทั้งหลายย่อมจะไม่รับฟัง
“หึ! เรื่องวันนี้มันเป็นเพราะมันมาแต่แรก มันก็ควรจะเป็นตัวมันนั้นที่รับผลกรรมไว้เอง!”
“การที่มันกล้าออกไปรับผิดชอบเรื่องราวเช่นนี้ ก็ยังถือว่าเป็นคนที่รู้ผิดชอบชั่วดีอยู่บ้าง”
“หากมิใช่เพราะมันแล้วมีหรือนิกายทั้งหลายนั้นจะถูกทำลาย?”
“แล้วก็เจ้าเด็กคนนี้ กล้าไปท้าทายเผ่าเทวาทำให้เราต้องฉิบหายไปด้วย! โมชิงซาน สังหารมันเสียเพื่อสังเวยแก่คนในนิกายที่ต้องตายไปมากมาย!”
…
มันมีเจ้านิกายหลายคนที่เงียบปากไม่กล่าวอะไร แต่คนส่วนใหญ่นั้นย่อมจะรู้สึกว่าเย่หยวนนั้นหาเรื่องให้หัวผู้คน ขุดหลุมให้พวกเขาตกตายตามไปด้วย
ทำให้เหล่าเจ้านิกายทั้งหลายนั้นต่างคิดอยากฆ่าสังหารฉินเชาเพื่อระบายแค้น
สำหรับมนุษย์ส่วนมากแล้ว พวกเขาทั้งหลายชินชากับเรื่องเช่นนี้ไปแล้ว
อยู่เป็นหมูยังดีกว่าเป็นเสือแล้วต้องตาย!
การไล่ล้างทำลายวังสวรรค์เฝ้าในครานี้มันย่อมจะทำให้พวกเขาทั้งหลายรู้สึกสะใจไม่น้อย แต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้พวกเขาตัดสินใจเสี่ยงชีวิต
สำหรับเผ่าต่างๆ ทั้งหลายแล้วที่ถูกเลี้ยงดูมาด้วยความหวาดกลัวนานหลายต่อหลายรุ่นมีหรือที่พวกเขาจะยังรู้สึกแปลกประหลาดกับการเป็นสัตว์เลี้ยงเช่นนี้อีก?
ตราบเท่าที่ไม่ไปยุ่งขวางทางเผ่าเทวาแล้ว เผ่าเทวานั้นกก็จะไม่ได้ฆ่าสังหารคนเล่นๆ เช่นกัน
หรือเปล่า?
แน่นอนว่าเมื่อมีคนแนะนำให้สังหารฉินเชาออกมา เหล่าเจ้านิกายทั้งหลายต่างเริ่มจะเห็นด้วยออกมา
แต่ฉินเชานั้นกลับไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อยตอบกลับไปด้วยเสียงเย้ย “หากเจ้ากล้าแตะต้องข้าแล้วผู้อาวุโสท่านจะต้องทำลายนิกายของพวกเจ้าลงสิ้นแน่! ผู้คนที่อยู่ในที่แห่งนี้และร่วมรู้เห็นก็อย่าหวังจะรอดไป!”
เจ้านิกายอีกคนจึงกล่าวขึ้นมา “เขานั้นไปถึงวังสวรรค์เฝ้าใต้แล้ว มีหรือที่ยังจะเอาเขามาใช้ข่มขู่ใดๆ พวกเราได้?”
ฉินเชาที่ได้ยินจึงตอบกลับไปด้วยใบหน้าเย้ยหยัน “ใครบอกว่าเขาไปรนหาที่ตาย? เขานั้นไปยังที่แห่งนั้นเพื่อเตือนเผ่าเทวา เพื่อหยุดไม่ให้พวกมันทำร้ายผู้คนไปมากกว่านี้!”
เจ้านิกายผู้นั้นจึงหัวเราะขึ้นมา “เจ้าล้อข้าเล่นแล้ว? วังสวรรค์เฝ้าใต้นั้นมันมีเจ้าวังเป็นถึงยอดฝีมือเต๋าสวรรค์เก้าลายขั้นกลาง ตัวตนที่แม้แต่เจ้าฟ้าดินสามทลายก็ยังไม่อาจต้านทาน เจ้าจะบอกว่าเขานั้นจะกลับมาได้หรือ?”
ฉินเชาที่ได้ยินก็ตอบกลับไป “ข้าฉินเชานี้เป็นแค่ตัวตนน้อยๆ หากเจ้านิกายอู๋คิดอยากใช้ชีวิตของตนพนันกับชีวิตของข้าก็เชิญสังหารข้าเถอะ!”
คำพูดของฉินเชานี้มันหนักแน่นอย่างมาก
มันมิใช่ว่าพวกเขาเชื่อว่าเย่หยวนจะกลับมาใดๆ แต่ชีวิตของพวกเขาทั้งหลายมันย่อมจะเหนือล้ำกว่าชีวิตน้อยๆ ของฉินเชานี้
หากเย่หยวนกลับมาได้จริงเล่า?
เจ้านิกายอู๋ได้แต่ตอบกลับมาด้วยใบหน้าเครียด “ไม่สังหารเจ้าแต่เราก็ยังจับเจ้าไว้ได้! รอข่าวว่าเจ้าเด็กคนนั้นตายแล้วเราค่อยมาลอกหนังเจ้าทิ้งก็ยังไม่สายใช่หรือไม่เล่า?”
โมชิงซานนั้นขมวดคิ้วแน่นก่อนจะตอบกลับไป “เจ้านิกายอู๋ ท่านพูดเช่นนี้จะไม่เห็นหน้าข้าเลย?”
เจ้านิกายอู๋นั้นจึงตอบกลับมาอย่างไม่พอใจ “เรื่องนี้เดิมทีมันก็มาจากนิกายม่วงน้อยเจ้ามิใช่แล้วหรือ? พวกเจ้านั้นเก็บงำเรื่องราวปล่อยให้คนทั้งแผ่นดินมึนงง คนมากมายต้องตายเพราะพวกเจ้า! เรื่องนี้เรายังไม่ได้ตัดสินบัญชีกันเลย!”
เจ้านิกายอู๋นั้นกล่าวออกมาจุดประเด็นให้เจ้านิกายอื่นๆ เห็นชอบตาม
จากนั้นคนทั้งหลายจึงได้ตัดสินใจจะจับสองอาจารย์และศิษย์นี้ไว้ก่อน
หลังจากข่าวการตายของเย่หยวนมาถึงแล้วพวกเขาจะได้ลงโทษคนทั้งสองอย่างสบายใจ จะได้เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูเสียด้วย!
ทางด้านฉินเชาที่ถูกจับนั้นกลับหันไปบอกโมชิงซานด้วยสีหน้าหนักแน่น “อาจารย์ท่านวางใจเถอะ! พวกมันจับเราไว้ตอนนี้เดี๋ยวพวกมันจะได้ปล่อยตัวเราพร้อมก้มหัวขอโทษ!”
โมชิงซานนั้นมองที่ศิษย์ด้วยสายตาสงสัย “คนผู้นั้นเก่งกาจจริง แต่ท่านหยวนฮุ่ยนั้นเองก็มิใช่แค่เจ้าวังสวรรค์เฝ้าทั่วๆ ไปเช่นกัน!”
…
ข่าวการตายของเย่หยวนนั้นไม่มา แต่มันกลับมีอีกข่าวที่น่ากลัวกว่าเกิดขึ้นแทน
คนร้ายที่ทำลายสิบแปดวังสวรรค์เฝ้าปรากฏตัวขึ้นมาและเขานั้นกลับเป็นแค่ชายหนุ่มจักรพรรดิเทพสวรรค์ห้าดาว!
เมื่อข่าวนี้แพร่มาจนถึงเขตฟ้าใต้ เหล่าเจ้านิกายทั้งหลายนั้นต่างได้แต่ผงะแทบล้มลง
พวกเขานั้นรีบเรียกกันประชุมในคืนนั้นคิดว่าจะจัดการกู้สถานการณ์อย่างไร
อู๋เทียนเฉียวย่อมจะเป็นคนแรกที่ถูกโยนความผิดให้!
เจ้านิกายคนหนึ่งร้องกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงประชด “เจ้านิกายอู๋ เจ้าเก่งจริงๆ! ความคิดที่เจ้าคิดขึ้นมานี้ได้พาเราฉิบหายกันถ้วนหน้าแล้ว!”
เจ้านิกายอีกคนกล่าวขึ้นตาม “ท่านผู้นั้นย่อมจะกำลังเดินทางกลับมาแล้ว! เจ้านิกายอู๋ ท่านลองบอกมาหน่อยสิว่าเราจะอธิบายกับท่านผู้นั้นว่าอย่างไร?”
เจ้านิกายอีกคนกล่าวขึ้น “โชคดีที่เราไม่ด่วนสังหารฉินเชาไป ไม่เช่นนั้นแล้วเราคงไม่อาจหนีพ้นจากความหายนะได้!”
เวลานี้อู๋เทียนเฉียวย่อมจะกลายเป็นเป้าหมายที่ทุกคนกล่าวโทษ
อู๋เทียนเฉียวตอบกลับไปด้วยใบหน้าดำมืด “เวลากลับมาโทษข้าคนเดียวแล้ว? ตอนที่ข้าบอกให้จับตอนนั้นพวกเจ้าทุกคนเองก็เห็นดีเห็นงามด้วยมิใช่หรืออย่างไร? เวลานี้มาพูดจาเช่นนี้จะได้ประโยชน์ใด? แทนที่จะเสียน้ำลายโทษข้า มาช่วยกันคิดหาทางออกไม่ดีกว่าหรือ?”
เจ้านิกายอีกคนตอบ “ยังจะมีทางออกใด? รีบๆ ไปปล่อยตัวทั้งสองออกมาได้แล้ว! ดูท่าแล้วการที่ฉินเชามันส่งข้อความแทนท่านผู้นั้นย่อมจะหมายความว่ามันนั้นกลายเป็นคนรับใช้ของท่านผู้นั้นไปแล้ว! ตราบเท่าที่เราสามารถขอคำยกโทษจากมันได้ ท่านผู้นั้นเองก็คงไม่ถือสามากมาย!”
เวลานี้มันไม่มีทางออกอื่นที่ดีกว่านี้แล้ว
เพราะฉะนั้นเหล่าเจ้านิกายทั้งหลายจึงได้พร้อมหน้าเดินมายังคุกเพื่อพาตัวพวกฉินเชาและโมชิงซานออกจากคุก
เมื่อโมชิงซานได้เห็นสีหน้าของคนทั้งหลายนั้นมีหรือที่เขาจะยังไม่เข้าใจเรื่องราว?
เวลานี้หัวใจของเขานั้นแทบจะหยุดเต้นลงด้วยความตกตะลึง
เจ้าหนุ่มคนนั้นทำได้จริง?
ฉินเชานั้นยิ้มตอบกลับไป “ข้าบอกว่าอย่างไรเล่าท่านอาจารย์? นายท่านนั้นคงสร้างเรื่องยิ่งใหญ่ในแดนใต้อีกครั้งเป็นแน่แล้ว!”
อู๋เทียนเฉียวยิ้มรับ “ใช่แล้ว! ท่านผู้นั้นมีพรสวรรค์ที่จะปกครองโลกหล้าได้ แม้แต่เผ่าเทวาเองก็ยังต้องก้มหัวให้! พวกท่านทั้งสอง ครั้งนี้มันเป็นความผิดของเราเอง พวกท่านทั้งสองช่วยออกไปนั่งคุยกันด้านนอกกับพวกเราจะได้หรือไม่?”
ฉินเชาที่ได้ยินก็ต้องตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม “เจ้านิกายอู๋ ท่านเคยได้ยินคำว่า ‘เชิญเทพนั้นเชิญง่าย ไล่เทพนั้นไล่ยาก’ หรือไม่?”
……………….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
2970 อิหลินเสวียอิห่าราก ฟื้นขึ้นมาก็ทิ้งกันเลย😂...
พวกเมีย เพื่อนฝูง น้องๆ แม่งเป็นได้แต่ตัวถ่วง ตัวภาระ😂...
ตอนแรกๆอ่านยังไง...
DDD...