“เราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น เราจะรอผู้อาวุโสท่านอยู่ตรงนี้” ฉินเชากล่าวประกาศ
คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของเหล่าเจ้านิกายทั้งหลายต้องแดงขึ้นมาอย่างอับอาย
หากผู้อาวุโสนั้นมาถึงแล้วการสังหารพวกเขาทั้งหลายมันคงมิใช่เรื่องยากเย็นแม้แต่น้อย!
เพราะแม้แต่ยอดคนอย่างหยวนฮุ่ยก็ยังไม่อาจจะจับตัวเย่หยวนคนนั้นไว้ได้
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือหากมองดูที่ความบ้าบิ่นที่เย่หยวนแสดงออกมานั้น เขาคงไม่คิดใดมากหากต้องจัดการสังหารพวกเขาทั้งหลาย
เจ้านิกายร่างผอมอีกคนหนึ่งกล่าวออกมาด้วยสีหน้าสุดแสนน่าสงสาร “มีเมตตาด้วยเถอะบรรพกาลตัวน้อย อย่าได้โกรธเคืองพวกเราอีกเลย! เฒ่าผู้นี้รู้ดีว่าวันนี้พวกเราคงได้ลบหลู่พวกท่านไปมากมายแล้ว โปรดสงสารเราคนเฒ่าๆ ทั้งหลายด้วย!”
โมชิงซานได้แต่ต้องเบิกตามองดูหน้าเหล่าเจ้านิกายทั้งหลายอย่างตกตะลึงราวกับว่าเขาเพิ่งได้รู้จักคนหมู่นี้เป็นครั้งแรก
ปกติเวลาคนทั้งหลายนี้วางหัวเหนือสูงฟ้า นอกจากเผ่าเทวาแล้วพวกเขาทั้งหลายย่อมไม่คิดเห็นหัวใคร
แต่วันนี้พวกเขากลับมาบีบน้ำตาทำหน้าน่าสงสาร
ฉินเชานั้นถอนหายใจยาวออกมา “ผู้อาวุโสท่านกล่าวไว้ว่าคนที่น่าสงสารนั้นย่อมจะมีบางอย่างที่ทำให้คนเกลียด! หากคนเราสามารถรวมกันเป็นหนึ่งได้มีหรือที่จะยังถูกเผ่าเทวากดหัวไว้เช่นนี้? หลากเผ่าพันธุ์นั้นมีประชากรรวมกันมากกว่าเผ่าเทวานับแสนๆ เท่า! หากเราใช้จำนวนเข้าสู้ เราก็คงถล่มพวกมันได้เช่นกัน!”
เมื่อเจ้านิกายทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ต้องหันมามองหน้ากันไม่ได้นัดหมาย
แม้ว่าคำพูดนี้มันจะจริง แต่อย่างที่ว่าว่าประชากรของหลากเผ่าพันธุ์นั้นมันมีนับล้านๆ มีหรือที่จะมารวมหัวกันเป็นหนึ่งได้ง่ายๆ?
“ไม่มีสิ่งใดในโลกหล้ามันยากเกินกว่าที่คนตั้งใจจะทำ! ข้าไม่ได้สั่งให้พวกเจ้าทั้งหลายไปรนหาที่ตาย ข้าแค่บอกว่าการเป็นคนนั้นมันเป็นอย่างไร… มันน่าสนใจกว่าการเป็นหมูหมาแค่ไหน!”
วินาทีนั้นมันเกิดเสียงหนึ่งดังขึ้นมากลางวงสนทนา ชายหนุ่มในชุดขาวผู้นั้นเดินก้าวออกมาจากห้วงมิติ
นั่นทำให้สีหน้าของเหล่าเจ้านิกายทั้งหลายต้องถอดสี เข้าใจได้ทันทีว่าผู้มาถึงนี้เป็นใคร
เวลานี้มันย่อมจะมีค่ายกลมากมายปิดกั้นคุกนี้ไว้จากโลกภายนอก แต่พวกมันกลับไร้ค่าใดเมื่ออยู่ต่อหน้าชายหนุ่มผู้เพิ่งมาถึงนี้!
ความตกตะลึงในจิตใจของผู้คนทั้งหลายนี้มันมากเกินบรรยาย!
เดิมทีนั้นพวกเขายังสงสัยว่าพลังฝีมือของเย่หยวนมันจะมากแค่ไหน
แต่เมื่อได้เห็นกับตาตนเองเช่นนี้แล้วพวกเขาก็แทบลืมหายใจ
เพราะแค่เรื่องที่เขาทำในตอนนี้ มันก็มากพอที่จะสังหารเหล่าเจ้านิกายทั้งหลายลง!
เมื่อฉินเชาเห็นหน้าเย่หยวนเขาก็ยิ้มกว้างขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น “ผู้อาวุโส! ท่านบุกเข้าไปในวังสวรรค์เฝ้าใต้แสดงความตื่นตะลึงให้คนทั้งแดนใต้นี้ แสดงให้เห็นถึงศักดิ์ศรีของเผ่ามนุษย์ ช่างน่ายินดีเสียจริง!”
แม้ว่าเขานั้นจะมั่นใจในตัวเย่หยวนสักเท่าใดแต่เมื่อได้ยินถึงเรื่องที่เย่หยวนทำนั้นเขาก็ยังต้องอ้าปากค้าง
ภาพอันน่าตกตะลึงนั้น หากเขาได้เห็นมันกับตาแล้วจะดีสักแค่ไหน!
เย่หยวนยิ้มรับ “เรื่องนั้นมันแค่ข้าไปอย่างรวดเร็วไม่ทันให้อีกฝ่ายตั้งตัว มันจึงได้ผลเช่นนี้ออกมา หากพวกมันได้เตรียมตัวตั้งรับแล้ว ข้าเองก็คงไม่อาจจะกลับออกมาได้เช่นกัน พลังของเต๋าสวรรค์เก้าลายมันแข็งแกร่งจริงๆ!”
ไม่ว่าเย่หยวนจะได้มาอย่างกับพายุสักแค่ไหนแต่พลังของหยวนฮุ่ยก็ยังทำให้ตัวเย่หยวนตื่นตะลึงไม่หาย
ตอนก่อนนั้นเขาเกือบจะถูกหยวนเจี่ยวฆ่าสังหาร เวลานั้นเขาไม่อาจจะต่อกรรับมือใดๆ ในโลกภายนอกจึงไม่อาจจะสัมผัสได้ถึงพลังที่แท้ของเต๋าสวรรค์เก้าลาย
เวลานี้เมื่อเขาบรรลุสามพลังจนถึงระดับต้นกำเนิด กำลังของเขานั้นมันคงเรียกได้ว่าไร้เทียมทานในหมู่จักรพรรดิเทพสวรรค์
มันเป็นเวลานี้ที่เขาสามารถจะเข้าใจถึงพลังที่แท้ของเต๋าสวรรค์เก้าลายได้
หากมันเป็นสถานการณ์ที่อีกฝ่ายพร้อมตั้งรับไว้แล้ว ต่อให้เขาจะใช้พลังต้นกำเนิดใดๆ ออกมามันก็คงยากที่จะหนีรอดได้
แต่ทว่าเย่หยวนกล่าวมันออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยจึงทำให้คนทั้งหลายไม่เชื่อว่าเรื่องราวมันจะยากเย็นไปกว่าเก่า
พลังของเต๋าสวรรค์เก้าลายนั้นมันไม่ต้องให้เย่หยวนมาบอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...