การรอนั้นมันกินเวลาไปถึงพันปี!
ภายในห้วงมิติลับนั้นเย่หยวนกำลังบ่มเพาะอยู่กับฉินเชา
“ผู้อาวุโส ท่านนั้นจะเก่งกาจเกินไปแล้ว! ข้าไม่นึกเลยว่าวันหนึ่งจะได้เห็นคนบ่มเพาะสี่แนวคิดสุดยอดจนมาถึงระดับนี้ได้! แต่ทำไมก่อนๆ มานั้นข้ากลับไม่เคยได้ยินนามของท่านเลยเล่า?”
ยิ่งเขาได้ใช้เวลากับเย่หยวนมากเข้า ความตื่นตะลึงของเขามันก็เพิ่มมากตาม
คนเราทำอย่างไรจึงจะเก่งกาจได้ขนาดนี้?
ระหว่างเวลาพันปีมานี้สองสุดยอดแนวคิดของเย่หยวนอย่างแนวคิดแห่งมิติเวลามันได้พัฒนาขึ้นแทบจะในทุกๆ วัน
เวลานี้แนวคิดแห่งห้วงมิติของเขามันก้าวขึ้นถึงต้นกำเนิดระดับสอง!
ส่วนด้านแนวคิดแห่งกาลเวลานั้นมันพัฒนาไปอยู่ที่อัตราหนึ่งต่อสามร้อย!
ไม่ว่าจะอย่างไรเสียนี่ก็เป็นสองสุดยอดแนวคิดที่แค่พัฒนาไปได้แม้เศษเสี้ยวในเวลานับหมื่นๆ ปีมันก็นับได้ว่าโชคดีแล้ว
แต่เย่หยวนกลับบ่มเพาะรวดเร็วจนจินตนาการของฉินเชาไม่อาจตามทัน
เย่หยวนหันไปมองฉินเชาด้วยรอยยิ้ม “เรื่องราวนี้ข้าเองก็ตกตะลึงเหมือนกัน ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการสอนดาบให้เจ้ามันผิดหรือถูก แต่ในเมื่อข้ามาแล้ว ข้าก็ต้องทำอะไรสักอย่าง”
ฉินเชาผงะหลังไปนิดหน่อย “สอนดาบข้านี้มันจะผิดพลาดใดได้?”
เย่หยวนส่ายหัวออกมา “เรื่องพวกนี้ เจ้าไม่เข้าใจหรอก อ่า… แม้แต่ข้าเองก็ยังไม่เข้าใจมัน”
ในโลกใบนี้เย่หยวนได้รับรู้ว่าความเร็วในการบ่มเพาะมิติเวลาของเขามันกลับพัฒนาขึ้นไปอย่างน่ากลัว มากล้ำกว่าตอนอยู่ในมิติสงครามดึกดำบรรพ์อย่างไม่อาจเทียบ
เขานั้นคิดว่านี่อาจจะเป็นเพราะเขาได้เดินทางผ่านกระแสมิติเวลามา
เพียงแค่ว่าการปรากฏตัวของเขานี้มันได้ทำให้สมดุลของโลกใบนี้พังทลายลง
เช่นนั้นแล้วการที่เขาบ่มเพาะไปมันจะยังมีประโยชน์ใด?
สอนหรือไม่สอนฉินเชานี้ เขาก็เคยลังเลอย่างมาก
สังหารหรือไม่สังหารเผ่าเทวานั้น เขาเองก็ลังเลไม่น้อย
แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็ได้เข้าใจ
ในเมื่อมาแล้ว ต่อให้เขาจะไม่ทำอะไร มันก็คงเปลี่ยนโลกไปอยู่ดี
เช่นนั้นแล้วจะลงมือทำหรือไม่มันจะต่างกันอย่างไร?
เวลานี้ภายใต้มิติเวลานี้ เผ่ามนุษย์ยังไม่อาจจะโงหัวขึ้นได้
เย่หยวนนั้นไม่รู้ว่าเวลาตอนนี้มันคือ ณ จุดไหนของยุคก่อน แต่ในเมื่อเขามาถึงแล้ว การจะสั่งสอนเต๋าทิ้งพลังไว้ให้เผ่ามนุษย์มันก็คงมิใช่เรื่องแย่
การเห็นเผ่ามนุษย์ถูกกดขี่ต่อหน้าเช่นนี้ หากเขาไม่ทำอะไร เขาก็คงมิใช่เย่หยวนอีกแล้ว
เพราะฉะนั้นเขาจึงตัดสินใจหนักแน่นลงไป
เขานั้นชื่นชมตัวฉินเชามาก เพราะฉะนั้นเขาจึงยอมเสียเวลาพันปีไปกับการสอนดาบให้ฉินเชา
ในเวลาพันปีนี้ ฉินเชาได้บรรลุจากเทพสวรรค์ขึ้นมาเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์!
“เจ้าคิดถึงบ้านหรือ? หรือว่าคิดถึงใคร?” เย่หยวนหันไปถามตัวฉินเชาด้วยรอยยิ้มมีนัย
ฉินเชาหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีที่ได้ยินแต่ก็พยักหน้ารับในที่สุด
หลายวันมานี้ฉินเชาดูไม่ค่อยมีสมาธิกับมาฝึกดาบ มีหรือที่เย่หยวนจะไม่เข้าใจ?
เด็กคนนี้กำลังคิดถึงโมเสียวเฉา
“เอาล่ะ ไม่ได้ออกไปเสียนาน เราออกไปดูเรื่องราวของโลกภายนอกบ้างเถอะ” เย่หยวนลุกขึ้นกล่าว
ฉินเชานั้นหน้าซีดขาวลงก่อนจะร้อง “ผู้อาวุโส ไม่ได้นะ! เวลานี้ท่านได้กลายเป็นศัตรูของเผ่าเทวาไปแล้ว! ท่านจะออกไปเสี่ยงชีวิตได้อย่างไร?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “พวกมันยังไม่มีปัญญาพอจะจับข้าได้หรอก! ไปเถอะ!”
เพราะแม้ว่าเขาน้อยแห่งถงเทียนนั้นมันจะอยู่กับร่างหลักของเย่หยวน แต่เย่หยวนกลับสามารถดึงพลังของเขาน้อยแห่งถงเทียนผ่านมิติเวลามาใช้งานได้!
การใช้พลังของเขาน้อยแห่งถงเทียนปกปิดความลับสวรรค์รอบตัวเขาไว้นี้จึงทำให้ไม่มีใครจะสามารถรู้ถึงตัวตนของเขาได้!
…
ที่นิกายม่วงน้อยนั้น เต๋าสวรรค์เก้าลายที่ถูกทิ้งไว้ให้เฝ้าดูยังไม่ไปไหน
แม้ว่าพวกเขาทั้งหลายจะรู้ดีว่าโอกาสที่เย่หยวนจะกลับมานั้นมันมีน้อยนิด แต่ตัวหมี่ลั่วก็ไม่คิดประมาท
แต่เย่หยวนนั้นกลับเข้าไปในนิกายม่วงน้อยได้ง่ายๆ มีหรือที่เต๋าสวรรค์เก้าลายขั้นต้นคนหนึ่งจะรับรู้ถึงตัวเขาได้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...