จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2384

“ตัวตนพิเศษที่น่าหวาดกลัว! ไม่ว่าจักรพรรดิผู้นี้จะคิดคำนวณอย่างไรข้าก็ไม่อาจจะคำนวณคิดถึงตัวตนเจ้าได้! บางทีเจ้านั้นอาจจะเป็นคนที่สวรรค์ส่งลงมาช่วยปลดปล่อยมนุษย์เราจากการกดขี่อันทรมานยาวนานนี้!” จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้กล่าวขึ้น

แต่เย่หยวนนั้นกลับส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “คนที่จะช่วยมนุษย์นั้นมันมิใช่ข้า แต่เป็นท่านผู้อาวุโส!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นหรี่ตาลงมองก่อนจะถาม “เจ้ารู้อะไรหรือ?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ข้านั้นพอจะรู้บ้าง ดูท่าผู้อาวุโสท่านจะลงมือแล้วจึงได้มาหาข้าครั้งนี้ ท่านคงคิดดึงตัวข้าไปรวมฝึกด้วย?”

“เจ้ารู้ได้อย่างไร?”

ความตื่นตะลึงในจิตใจของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นมันมากมายเกินกว่าจะบรรยายเป็นคำพูด

เพราะว่าเรื่องของสังหารเทพนั้นมันเป็นความลับล้ำ แม้แต่ในหมู่มนุษย์เองก็ยังมีคนรู้ถึงมันแค่ไม่กี่คนเท่านั้น

ก่อนจะมาเขานั้นได้ยืนยันแล้วว่าตัวเย่หยวนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับสังหารเทพมาก่อน เช่นนั้นแล้วเจ้าหนุ่มคนนี้รู้ได้อย่างไร?

เย่หยวนยิ้มตอบ “ผู้อาวุโสถือเสียว่าข้าเดาเถอะ”

เรื่องราวการเดินทางผ่านมิติเวลานั้นมันเหลือเกินกว่าจะบรรยายให้คนเชื่อได้

เพราะแม้แต่มหาบรรพกาลซ่างเหิงเองก็ยังไม่อาจจะเดินทางข้ามมิติเวลาได้

เพราะฉะนั้นการที่เขาถูกพัดกลับมานี้มันคงเป็นแค่ความบังเอิญแล้ว

ดูท่าแม้แต่ตัวซ่างเหิงเองก็คงไม่นึกฝันเช่นกัน

แต่คำพูดเหล่านี้มันยิ่งเหนือล้ำเกินจินตนาการเมื่อเข้ามาถึงหูของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้

เขานั้นหรี่ตาลงอย่างหนักหน่วง “เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าไม่คิดบอก ข้าผู้นี้ก็จะไม่ถาม แต่เป้าหมายของเรานั้นมันน่าจะเหมือนกันใช่หรือไม่?”

การกระทำของเย่หยวนนี้ เขานั้นตรวจสอบมันมาอย่างดี

มันอาจจะดูเหมือนบ้าบิ่นมากกว่าฉลาด แต่แท้จริงแล้วมันกลับสร้างผลลัพธ์น่าเหลือเชื่อ

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเรื่องราวการต่อสู้ของเย่หยวนมันแพร่กระจายไปอย่างกว้างไกล!

เรื่องใดที่สังหารเทพทำไม่ได้ง่ายๆ ตัวเย่หยวนกลับทำมันแทน!

ก่อนหน้านี้เรื่องราวต่างๆ ในสังหารเทพมันจึงพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว

ในเวลาพันปีมานี้แม้ว่าตัวเจียนหรูเฟิงจะไม่ได้มีบทบาทในสังหารเทพแต่เขาก็ยังได้รับข่าวมาเป็นระยะๆ

สิ่งที่การต่อสู้ของเย่หยวนมอบให้ผู้คนมันมากล้นเกินจินตนาการ

ในความเข้าใจก่อนหน้านี้ของทุกๆ เผ่าพันธุ์ พวกเขาเข้าใจว่าเผ่าเทวานั้นไร้เทียมทาน

แต่การปรากฏตัวของเย่หยวนนี้มันกลับทำลายคำสาปนั้นทิ้งลง

เขานั้นได้บอกคนทั้งโลกหล้าว่าหากเจ้ามีแนวคิดสูงล้ำพอแล้วเจ้าก็สามารถเอาชนะหรือแม้แต่สังหารเผ่าเทวาลงได้สิ้น!

และมันก็เป็นเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจของเย่หยวนด้วย

เผ่ามนุษย์นั้นถูกกดขี่ล้างสมองมานานว่าเผ่าเทวานั้นเหนือล้ำไม่อาจแตะต้อง มันจึงต้องมีใครสักคนลุกขึ้นมาบดขยี้มนต์สะกดนี้ออกจากจิตใจของผู้คน

แต่เมื่อใครไม่มีใครคิดทำ เย่หยวนก็จึงเลือกที่จะทำ

เย่หยวนพยักหน้า “สิ่งที่ผู้อาวุโสคิดทำนั้น ผู้น้อยเคารพนับถืออย่างมาก”

เจียนหรูเฟิงที่ได้ยินก็ตอบกลับมา “สิ่งที่เจ้าเดามานั้นมันก็ถูกเกือบทั้งหมด แต่มันก็ยังมีสิ่งที่เจ้าคิดผิดไปหน่อย เพราะบรรพกาลผู้นี้ไม่ได้มาเพื่อชวนเจ้าเข้าร่วมฝึก แต่เพื่อชวนให้เจ้าไปเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของสังหารเทพ!”

ครั้งนี้เป็นฝ่ายตัวเย่หยวนก็อ้าปากค้างขึ้นมา เขานั้นคิดว่าเจียนหรูเฟิงนั้นจะมาเพื่อคิดสั่งสอนชุบเลี้ยงเขาไปเป็นยอดคนวันหน้า

แต่ทว่าตัวเจียนหรูเฟิงนั้นกลับมาชวนให้เขาเข้าไปเป็นผู้สั่งสอนชุบเลี้ยงคนอื่นแทน!

นี่มันคือผลลัพธ์ที่เขาไม่เคยคิดฝันถึง

“ผู้อาวุโสท่านมองอะไรผิดหรือไม่? ท่านดูข้าสิ ข้าเป็นแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวเท่านั้น!” เย่หยวนตอบกลับไปด้วยสีหน้าสงสัย

แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนับพันปีแต่เย่หยวนกลับแค่บ่มเพาะขึ้นมาถึงอาณาจักรมหาพิภพขั้นปลายเท่านั้น มันเทียบเคียงได้กับจักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาว

การบ่มเพาะระดับนี้มันไม่ได้มีคุณค่าใดในสังหารเทพ

การให้เขาไปสอนผู้คนนั้น มีหรือที่เหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลายจะยอมรับได้?

แต่เจียนหรูเฟิงนั้นกลับตอบมาอย่างหนักแน่น “เจ้าไม่ต้องสงสัยใดๆ หรอก บรรพกาลผู้นี้ไม่ได้แก่จนเลอะเลือนขนาดนั้น แม้ว่ามันจะมียอดคนมากมายในสังหารเทพแต่หากวัดกันแค่ที่ความเข้าใจแนวคิดแล้ว มันย่อมจะต่ำตมกว่าเจ้าไปมากนัก! สิ่งเดียวที่เจ้าต่ำกว่าพวกเขาก็คือพลังบ่มเพาะ ซึ่งมันสามารถทนแทนกันได้ไม่ยาก”

ในสายตาของเหล่าอัจฉริยะนั้นพลังบ่มเพาะมันย่อมจะมิใช่เรื่องใหญ่มากมาย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ