จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2384

สรุปบท ตอนที่ 2384 การคาดเดาที่น่ากลัว!: จอมเทพโอสถ

อ่านสรุป ตอนที่ 2384 การคาดเดาที่น่ากลัว! จาก จอมเทพโอสถ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2384 การคาดเดาที่น่ากลัว! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

“ตัวตนพิเศษที่น่าหวาดกลัว! ไม่ว่าจักรพรรดิผู้นี้จะคิดคำนวณอย่างไรข้าก็ไม่อาจจะคำนวณคิดถึงตัวตนเจ้าได้! บางทีเจ้านั้นอาจจะเป็นคนที่สวรรค์ส่งลงมาช่วยปลดปล่อยมนุษย์เราจากการกดขี่อันทรมานยาวนานนี้!” จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้กล่าวขึ้น

แต่เย่หยวนนั้นกลับส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “คนที่จะช่วยมนุษย์นั้นมันมิใช่ข้า แต่เป็นท่านผู้อาวุโส!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นหรี่ตาลงมองก่อนจะถาม “เจ้ารู้อะไรหรือ?”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ข้านั้นพอจะรู้บ้าง ดูท่าผู้อาวุโสท่านจะลงมือแล้วจึงได้มาหาข้าครั้งนี้ ท่านคงคิดดึงตัวข้าไปรวมฝึกด้วย?”

“เจ้ารู้ได้อย่างไร?”

ความตื่นตะลึงในจิตใจของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นมันมากมายเกินกว่าจะบรรยายเป็นคำพูด

เพราะว่าเรื่องของสังหารเทพนั้นมันเป็นความลับล้ำ แม้แต่ในหมู่มนุษย์เองก็ยังมีคนรู้ถึงมันแค่ไม่กี่คนเท่านั้น

ก่อนจะมาเขานั้นได้ยืนยันแล้วว่าตัวเย่หยวนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับสังหารเทพมาก่อน เช่นนั้นแล้วเจ้าหนุ่มคนนี้รู้ได้อย่างไร?

เย่หยวนยิ้มตอบ “ผู้อาวุโสถือเสียว่าข้าเดาเถอะ”

เรื่องราวการเดินทางผ่านมิติเวลานั้นมันเหลือเกินกว่าจะบรรยายให้คนเชื่อได้

เพราะแม้แต่มหาบรรพกาลซ่างเหิงเองก็ยังไม่อาจจะเดินทางข้ามมิติเวลาได้

เพราะฉะนั้นการที่เขาถูกพัดกลับมานี้มันคงเป็นแค่ความบังเอิญแล้ว

ดูท่าแม้แต่ตัวซ่างเหิงเองก็คงไม่นึกฝันเช่นกัน

แต่คำพูดเหล่านี้มันยิ่งเหนือล้ำเกินจินตนาการเมื่อเข้ามาถึงหูของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้

เขานั้นหรี่ตาลงอย่างหนักหน่วง “เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าไม่คิดบอก ข้าผู้นี้ก็จะไม่ถาม แต่เป้าหมายของเรานั้นมันน่าจะเหมือนกันใช่หรือไม่?”

การกระทำของเย่หยวนนี้ เขานั้นตรวจสอบมันมาอย่างดี

มันอาจจะดูเหมือนบ้าบิ่นมากกว่าฉลาด แต่แท้จริงแล้วมันกลับสร้างผลลัพธ์น่าเหลือเชื่อ

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเรื่องราวการต่อสู้ของเย่หยวนมันแพร่กระจายไปอย่างกว้างไกล!

เรื่องใดที่สังหารเทพทำไม่ได้ง่ายๆ ตัวเย่หยวนกลับทำมันแทน!

ก่อนหน้านี้เรื่องราวต่างๆ ในสังหารเทพมันจึงพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว

ในเวลาพันปีมานี้แม้ว่าตัวเจียนหรูเฟิงจะไม่ได้มีบทบาทในสังหารเทพแต่เขาก็ยังได้รับข่าวมาเป็นระยะๆ

สิ่งที่การต่อสู้ของเย่หยวนมอบให้ผู้คนมันมากล้นเกินจินตนาการ

ในความเข้าใจก่อนหน้านี้ของทุกๆ เผ่าพันธุ์ พวกเขาเข้าใจว่าเผ่าเทวานั้นไร้เทียมทาน

แต่การปรากฏตัวของเย่หยวนนี้มันกลับทำลายคำสาปนั้นทิ้งลง

เขานั้นได้บอกคนทั้งโลกหล้าว่าหากเจ้ามีแนวคิดสูงล้ำพอแล้วเจ้าก็สามารถเอาชนะหรือแม้แต่สังหารเผ่าเทวาลงได้สิ้น!

และมันก็เป็นเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจของเย่หยวนด้วย

เผ่ามนุษย์นั้นถูกกดขี่ล้างสมองมานานว่าเผ่าเทวานั้นเหนือล้ำไม่อาจแตะต้อง มันจึงต้องมีใครสักคนลุกขึ้นมาบดขยี้มนต์สะกดนี้ออกจากจิตใจของผู้คน

แต่เมื่อใครไม่มีใครคิดทำ เย่หยวนก็จึงเลือกที่จะทำ

เย่หยวนพยักหน้า “สิ่งที่ผู้อาวุโสคิดทำนั้น ผู้น้อยเคารพนับถืออย่างมาก”

เจียนหรูเฟิงที่ได้ยินก็ตอบกลับมา “สิ่งที่เจ้าเดามานั้นมันก็ถูกเกือบทั้งหมด แต่มันก็ยังมีสิ่งที่เจ้าคิดผิดไปหน่อย เพราะบรรพกาลผู้นี้ไม่ได้มาเพื่อชวนเจ้าเข้าร่วมฝึก แต่เพื่อชวนให้เจ้าไปเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของสังหารเทพ!”

ครั้งนี้เป็นฝ่ายตัวเย่หยวนก็อ้าปากค้างขึ้นมา เขานั้นคิดว่าเจียนหรูเฟิงนั้นจะมาเพื่อคิดสั่งสอนชุบเลี้ยงเขาไปเป็นยอดคนวันหน้า

แต่ทว่าตัวเจียนหรูเฟิงนั้นกลับมาชวนให้เขาเข้าไปเป็นผู้สั่งสอนชุบเลี้ยงคนอื่นแทน!

นี่มันคือผลลัพธ์ที่เขาไม่เคยคิดฝันถึง

“ผู้อาวุโสท่านมองอะไรผิดหรือไม่? ท่านดูข้าสิ ข้าเป็นแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวเท่านั้น!” เย่หยวนตอบกลับไปด้วยสีหน้าสงสัย

แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนับพันปีแต่เย่หยวนกลับแค่บ่มเพาะขึ้นมาถึงอาณาจักรมหาพิภพขั้นปลายเท่านั้น มันเทียบเคียงได้กับจักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาว

การบ่มเพาะระดับนี้มันไม่ได้มีคุณค่าใดในสังหารเทพ

การให้เขาไปสอนผู้คนนั้น มีหรือที่เหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลายจะยอมรับได้?

แต่เจียนหรูเฟิงนั้นกลับตอบมาอย่างหนักแน่น “เจ้าไม่ต้องสงสัยใดๆ หรอก บรรพกาลผู้นี้ไม่ได้แก่จนเลอะเลือนขนาดนั้น แม้ว่ามันจะมียอดคนมากมายในสังหารเทพแต่หากวัดกันแค่ที่ความเข้าใจแนวคิดแล้ว มันย่อมจะต่ำตมกว่าเจ้าไปมากนัก! สิ่งเดียวที่เจ้าต่ำกว่าพวกเขาก็คือพลังบ่มเพาะ ซึ่งมันสามารถทนแทนกันได้ไม่ยาก”

ในสายตาของเหล่าอัจฉริยะนั้นพลังบ่มเพาะมันย่อมจะมิใช่เรื่องใหญ่มากมาย

“นี่มัน… จะเป็นเรื่องที่บ้าบอเกินไปหรือไม่?”

เย่หยวนนั้นคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆ อย่างไม่มีหยุดพร้อมด้วยความคิดที่แสนน่าหวาดกลัวในหัว

แม้ว่าความคิดนี้มันจะดูบ้าบอสักเท่าใด แต่ยิ่งเขาลองคิดไปมันก็ยิ่งดูมีความเป็นไปได้มากขึ้นเท่านั้น!

เพราะว่าหากพูดกันถึงเรื่องเวลา จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ในยุคนี้น่าจะต้องสละชีวิตตัวเองในอีกไม่นานนี้

หากมิใช่เพราะเขาแล้ว มันจะยังมีใครก้าวมานำเผ่ามนุษย์ได้อีก ยังจะมีใครมาสั่งสอนวิชายอดเต๋าที่เหนือล้ำ?

เจียนหรูเฟิงนั้นกล่าวบอกว่าเหล่ายอดคนทั้งหลายในตอนนี้มันไม่มีใครมีแนวคิดที่เหนือล้ำเลย!

แม้ว่าแนวคิดต่างๆ ของเย่หยวนมันจะยังไม่ก้าวขึ้นมาจนถึงระดับสมบูรณ์แบบ แต่การบ่มเพาะแนวคิดนั้นมันแตกต่างกันไปในแต่ละผู้คนตั้งแต่แรก

สิ่งที่เขาต้องสั่งสอนผู้คนนั้นมันมิใช่สอนการเดินบนเต๋า แต่เป็นการสอนวิธีที่จะเข้าสู่เต๋า

ตราบเท่าที่เขาเริ่มให้คนทั้งหลายเดินได้เองแล้ว พวกเขาทั้งหลายนั้นก็ย่อมจะสามารถสร้างพัฒนาวิชายุทธวรยุทธบ่มเพาะต่างๆ มากมายก้าวขึ้นถึงจุดสูงสุดได้!

เหมือนอย่างพลิกมิติเวลาโกลาหลนั้นเองมันก็เป็นวิชาจากพลังแนวคิดแห่งมิติเวลาที่หากเย่หยวนได้เป็นคนพัฒนา มันก็คงไม่มีรูปร่างและพลังเช่นนี้

คิดมาถึงตรงนี้เย่หยวนก็เกิดกลัวขึ้นมา

มันน่ากลัวจนเกินไป!

เช่นนั้นแล้วตัวเขานี้คืออะไร?

เขาเป็นคนของยุคสมัยไหนกันแน่?

ร่างของเย่หยวนแข็งค้างไปตรงนั้น

“มิติเวลา! มิติเวลา! เจ้าคืออะไรกันแน่? ข้าคืออะไรกันแน่? ข้านั้นอยู่ที่ใดกันแน่? ข้ามันเป็นใครกันแน่?”

เย่หยวนร้องลั่นขึ้นในใจอย่างสุดความคิด

แต่แน่นอนว่ามันย่อมจะไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับมา

…………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ