“ตัวตนพิเศษที่น่าหวาดกลัว! ไม่ว่าจักรพรรดิผู้นี้จะคิดคำนวณอย่างไรข้าก็ไม่อาจจะคำนวณคิดถึงตัวตนเจ้าได้! บางทีเจ้านั้นอาจจะเป็นคนที่สวรรค์ส่งลงมาช่วยปลดปล่อยมนุษย์เราจากการกดขี่อันทรมานยาวนานนี้!” จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้กล่าวขึ้น
แต่เย่หยวนนั้นกลับส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “คนที่จะช่วยมนุษย์นั้นมันมิใช่ข้า แต่เป็นท่านผู้อาวุโส!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นหรี่ตาลงมองก่อนจะถาม “เจ้ารู้อะไรหรือ?”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ข้านั้นพอจะรู้บ้าง ดูท่าผู้อาวุโสท่านจะลงมือแล้วจึงได้มาหาข้าครั้งนี้ ท่านคงคิดดึงตัวข้าไปรวมฝึกด้วย?”
“เจ้ารู้ได้อย่างไร?”
ความตื่นตะลึงในจิตใจของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นมันมากมายเกินกว่าจะบรรยายเป็นคำพูด
เพราะว่าเรื่องของสังหารเทพนั้นมันเป็นความลับล้ำ แม้แต่ในหมู่มนุษย์เองก็ยังมีคนรู้ถึงมันแค่ไม่กี่คนเท่านั้น
ก่อนจะมาเขานั้นได้ยืนยันแล้วว่าตัวเย่หยวนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับสังหารเทพมาก่อน เช่นนั้นแล้วเจ้าหนุ่มคนนี้รู้ได้อย่างไร?
เย่หยวนยิ้มตอบ “ผู้อาวุโสถือเสียว่าข้าเดาเถอะ”
เรื่องราวการเดินทางผ่านมิติเวลานั้นมันเหลือเกินกว่าจะบรรยายให้คนเชื่อได้
เพราะแม้แต่มหาบรรพกาลซ่างเหิงเองก็ยังไม่อาจจะเดินทางข้ามมิติเวลาได้
เพราะฉะนั้นการที่เขาถูกพัดกลับมานี้มันคงเป็นแค่ความบังเอิญแล้ว
ดูท่าแม้แต่ตัวซ่างเหิงเองก็คงไม่นึกฝันเช่นกัน
แต่คำพูดเหล่านี้มันยิ่งเหนือล้ำเกินจินตนาการเมื่อเข้ามาถึงหูของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้
เขานั้นหรี่ตาลงอย่างหนักหน่วง “เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าไม่คิดบอก ข้าผู้นี้ก็จะไม่ถาม แต่เป้าหมายของเรานั้นมันน่าจะเหมือนกันใช่หรือไม่?”
การกระทำของเย่หยวนนี้ เขานั้นตรวจสอบมันมาอย่างดี
มันอาจจะดูเหมือนบ้าบิ่นมากกว่าฉลาด แต่แท้จริงแล้วมันกลับสร้างผลลัพธ์น่าเหลือเชื่อ
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเรื่องราวการต่อสู้ของเย่หยวนมันแพร่กระจายไปอย่างกว้างไกล!
เรื่องใดที่สังหารเทพทำไม่ได้ง่ายๆ ตัวเย่หยวนกลับทำมันแทน!
ก่อนหน้านี้เรื่องราวต่างๆ ในสังหารเทพมันจึงพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว
ในเวลาพันปีมานี้แม้ว่าตัวเจียนหรูเฟิงจะไม่ได้มีบทบาทในสังหารเทพแต่เขาก็ยังได้รับข่าวมาเป็นระยะๆ
สิ่งที่การต่อสู้ของเย่หยวนมอบให้ผู้คนมันมากล้นเกินจินตนาการ
ในความเข้าใจก่อนหน้านี้ของทุกๆ เผ่าพันธุ์ พวกเขาเข้าใจว่าเผ่าเทวานั้นไร้เทียมทาน
แต่การปรากฏตัวของเย่หยวนนี้มันกลับทำลายคำสาปนั้นทิ้งลง
เขานั้นได้บอกคนทั้งโลกหล้าว่าหากเจ้ามีแนวคิดสูงล้ำพอแล้วเจ้าก็สามารถเอาชนะหรือแม้แต่สังหารเผ่าเทวาลงได้สิ้น!
และมันก็เป็นเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจของเย่หยวนด้วย
เผ่ามนุษย์นั้นถูกกดขี่ล้างสมองมานานว่าเผ่าเทวานั้นเหนือล้ำไม่อาจแตะต้อง มันจึงต้องมีใครสักคนลุกขึ้นมาบดขยี้มนต์สะกดนี้ออกจากจิตใจของผู้คน
แต่เมื่อใครไม่มีใครคิดทำ เย่หยวนก็จึงเลือกที่จะทำ
เย่หยวนพยักหน้า “สิ่งที่ผู้อาวุโสคิดทำนั้น ผู้น้อยเคารพนับถืออย่างมาก”
เจียนหรูเฟิงที่ได้ยินก็ตอบกลับมา “สิ่งที่เจ้าเดามานั้นมันก็ถูกเกือบทั้งหมด แต่มันก็ยังมีสิ่งที่เจ้าคิดผิดไปหน่อย เพราะบรรพกาลผู้นี้ไม่ได้มาเพื่อชวนเจ้าเข้าร่วมฝึก แต่เพื่อชวนให้เจ้าไปเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของสังหารเทพ!”
ครั้งนี้เป็นฝ่ายตัวเย่หยวนก็อ้าปากค้างขึ้นมา เขานั้นคิดว่าเจียนหรูเฟิงนั้นจะมาเพื่อคิดสั่งสอนชุบเลี้ยงเขาไปเป็นยอดคนวันหน้า
แต่ทว่าตัวเจียนหรูเฟิงนั้นกลับมาชวนให้เขาเข้าไปเป็นผู้สั่งสอนชุบเลี้ยงคนอื่นแทน!
นี่มันคือผลลัพธ์ที่เขาไม่เคยคิดฝันถึง
“ผู้อาวุโสท่านมองอะไรผิดหรือไม่? ท่านดูข้าสิ ข้าเป็นแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวเท่านั้น!” เย่หยวนตอบกลับไปด้วยสีหน้าสงสัย
แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนับพันปีแต่เย่หยวนกลับแค่บ่มเพาะขึ้นมาถึงอาณาจักรมหาพิภพขั้นปลายเท่านั้น มันเทียบเคียงได้กับจักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาว
การบ่มเพาะระดับนี้มันไม่ได้มีคุณค่าใดในสังหารเทพ
การให้เขาไปสอนผู้คนนั้น มีหรือที่เหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลายจะยอมรับได้?
แต่เจียนหรูเฟิงนั้นกลับตอบมาอย่างหนักแน่น “เจ้าไม่ต้องสงสัยใดๆ หรอก บรรพกาลผู้นี้ไม่ได้แก่จนเลอะเลือนขนาดนั้น แม้ว่ามันจะมียอดคนมากมายในสังหารเทพแต่หากวัดกันแค่ที่ความเข้าใจแนวคิดแล้ว มันย่อมจะต่ำตมกว่าเจ้าไปมากนัก! สิ่งเดียวที่เจ้าต่ำกว่าพวกเขาก็คือพลังบ่มเพาะ ซึ่งมันสามารถทนแทนกันได้ไม่ยาก”
ในสายตาของเหล่าอัจฉริยะนั้นพลังบ่มเพาะมันย่อมจะมิใช่เรื่องใหญ่มากมาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...