จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2415

สรุปบท ตอนที่ 2415 ต้องขออภัย: จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2415 ต้องขออภัย – ตอนที่ต้องอ่านของ จอมเทพโอสถ

ตอนนี้ของ จอมเทพโอสถ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2415 ต้องขออภัย จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“แต่นายท่าน เจ้าเด็กคนนี้มันมีแนวคิดแห่งมิติเวลาที่เหนือล้ำ การจะจับตัวมันให้ได้นั้นคงเป็นเรื่องยากเย็น! และข้าว่ามันก็คงไม่โง่พอจะบุกเข้าค่ายเรามาอีกครั้งแน่” ยู่ฉินร้องกล่าวด้วยใบหน้าเหยเก

เพราะต่อหน้าเย่หยวนนั้นต่อให้จะเป็นเต๋าสวรรค์เก้าลายขั้นกลางอย่างเขาก็ยังไร้ประโยชน์ใด

เว้นเสียแต่ว่าท่านเทียนเหอนั้นจะลงมาประจำการเองแล้ว มันก็คงไม่มีโอกาสใดจะจับตัวอีกฝ่ายไว้

ที่สำคัญนั่นมันก็แค่มีโอกาสเท่านั้น ไม่ได้แน่นอน!

เทียนเหอหันกลับมามองพร้อมหัวเราะ “หากมันไม่ออกมาเราก็ต้องไล่มันมา!”

ยู่ฉินเบิกตากว้างถามขึ้น “นายท่านหมายถึง…”

เทียนเหอตอบกลับมา “ส่งคำสั่งไป ให้ทุกทัพเคลื่อนพลไปรวมตัวกันที่สันลวดเหล็กพร้อมเคลื่อนบุกแดนกลาง!”

คนทั้งหลายต่างสั่นสะท้านเมื่อได้ยินคำสั่งนั้น มันกำลังจะเกิดสงครามเต็มรูปแบบขึ้นมาแล้ว!

ส่วนอีกด้านหนึ่งข่าวเรื่องชัยชนะต่อทัพบุตรเทวะมันก็ถูกส่งกลับมาทำให้ทั้งค่ายตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่

เพราะก่อนจะออกไปนั้นมันย่อมจะไม่มีใครเชื่อเหล่านายน้อยทั้งหลายนั้น

แน่นอนว่ากำลังของแต่ละผู้คนในทัพเย่หยวนมันแข็งแกร่งกว่าใครๆ

แต่พวกเขาทั้งหลายนี้เป็นแค่นายน้อยผู้ดื้อรั้นไม่เคยพบเจอกับสงครามมาก่อน

กองทัพที่มีแต่ทหารมือใหม่เช่นนี้มันย่อมจะทำอะไรไม่ได้มากมาย

ไม่มีใครคิดฝันว่ากองทัพนายน้อยทั้งหลายนี้กลับเอาชนะทัพบุตรเทวะที่ยังไม่เคยพ่ายแพ้มีพลังต่อสู้สูงล้ำนั้นได้อย่างราบคาบ!

ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ตัวหนี่ซวนมีแต่เรื่องให้ปวดหัวกับทัพบุตรเทวะนี้

กองทัพที่ไปไหนมาไหนไร้ร่องรอยให้ตามติด ที่สำคัญไปกว่านั้นยังมีพลังต่อสู้ที่เหนือล้ำจนเขาจนปัญญา

ใครจะไปคิดว่าวินาทีที่เย่หยวนมานั้นปัญหาที่คาใจของเขาจะถูกแก้ลงทันที!

ก่อนหน้านี้เขาก็ยังไม่ได้นับถือตัวเย่หยวนมากมาย แต่ตอนนี้เขายอมรับเย่หยวนสุดใจ

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือมันยังมีข่าวว่าเย่หยวนนั้นผสานมิติ เวลาและดาบสามยอดแนวคิดเข้าด้วยกันได้จนสังหารเต๋าสวรรค์เก้าลายลงด้วยตัวคนเดียว

พรสวรรค์เช่นนี้มันเกินกว่าคำว่าล้ำฟ้า!

แม้ว่าเขานั้นจะไม่ได้รู้จักที่มาของนักบุญฟ้าครามใดๆ แต่พรสวรรค์ของเย่หยวนนี้มันก็ทำให้เกิดความหวังขึ้นมาในใจหลากเผ่าพันธุ์!

เรื่องนี้ตัวเขาย่อมจะเข้าใจมันอย่างดี!

“ฮ่าๆๆ… เป็นเด็กที่เก่งกาจจริง! ดูท่าทางเหมือนเหล่าบรรพกาลเข้าไปทุกที!”

หนี่ซวนนั้นเดินทางออกมากว่าสามสิบกิโลเมตรเพื่อรับหน้าพวกผางเจิ้นก่อนใครเพื่อน

เมื่อพวกเขาได้เจอหน้ากันอีกครั้งหนี่ซวนก็ยกมือขึ้นมากำหมัดยันอกผางเจิ้นพร้อมหัวเราะลั่น

การที่แม่ทัพใหญ่ออกมารับด้วยตัวเองเช่นนี้แล้วมันย่อมจะหมายถึงการให้เกียรติอย่างมาก

ผางเจิ้นนั้นปกติจะเป็นคนพูดจาวางท่าจริงจังเสมอแต่ในเวลานี้เขานั้นกลับได้แต่ยิ้มอายๆ ออกมา

“มันเป็นเพราะท่านนักบุญฟ้าครามสิ้น! เขานั้นบุกเข้ากลางทัพบุตรเทวะด้วยตัวคนเดียว เราแทบจะกลายเป็นตัวถ่วงของท่านด้วยซ้ำ” ผางเจิ้นบอกด้วยความอับอาย

“ฮ่าๆๆ เจ้าหนุ่ม เจ้าพัฒนามากแล้ว! ไม่อวดอ้างเมื่อสำเร็จ ไม่ถดถอยเมื่อล้มเหลว นี่สิคือนิสัยของแม่ทัพอย่างแท้จริง!” หนี่ซวนหัวเราะขึ้นอีกครั้ง

แต่ว่าในจิตใจของหนี่ซวนเองก็ตื่นตะลึงไม่น้อย

ศึกเดียวนี้มันกลับสามารถเปลี่ยนพวกเขาทั้งหลายไปได้ขนาดนี้

แม้ว่าจำนวนทหารในทัพมันจะลดลงไปไม่น้อยแต่สภาพจิตใจของคนทั้งหลายก็ได้เปลี่ยนแปลงจนไม่อาจเทียบเคียงก่อนหน้าได้

แค่มองทีเดียวนี้ก็รู้ได้ทันทีว่าหากทัพนี้ออกรบอีกครั้ง กำลังของพวกเขามันคงพุ่งทะยานอย่างไร้ต้าน!

“ท่านนักบุญฟ้าครามนี่เป็นใครมาจากไหนกันแน่?” หนี่ซวนได้แต่คิดอยู่ในใจ

ในเหล่าเด็กชะตาไร้คาดเดาทั้งหลายนั้นมันมีคนที่ได้รับประโยชน์มหาศาลจากศึกนี้ไม่น้อย

หลังจากกลับมาถึงแล้วกำลังของพวกเขาทั้งหลายมันย่อมจะพัฒนาไปอย่างก้าวล้ำแน่นอน

แต่ไม่นานกลับเกิดข่าวการเคลื่อนไหวจากทัพเผ่าเทวาขึ้นมา

หนี่ซวนนั้นได้รับรายงานว่าทัพเผ่าเทวาทั้งหลายนั้นได้ไปรวมพลที่สันลวดเหล็กพร้อมบุกเข้าแดนกลาง

ผู้นำของหลากเผ่าพันธุ์นั้นต่างแสดงสีหน้าดูถูก พวกเขาย่อมจะไม่ได้เคารพเด็กหนุ่มคนหนึ่งมากมายนัก

ต่อให้จะเป็นเพราะเห็นแก่หน้าของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้แต่พวกเขาก็ยังคงดูถูกเย่หยวนอยู่ในใจ

หนี่ซวนเองก็ได้แต่หัวเราะเยาะท่าทางของคนทั้งหลายในใจ

เวลานี้มันตอนไหนแล้วยังจะมีหน้ามาคิดเรื่องการปกป้องผลประโยชน์ตัวเองไม่คิดเข้าร่วมแก้ปัญหาอีก!

“ต้องขอโทษด้วยแต่หากข้าเดาไม่ผิด เผ่าเทวามันคงเริ่มสงครามนี้เพราะข้าจริงๆ” เวลาเดียวกันนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากภายนอก

ขากนั้นมันก็ปรากฏร่างของเด็กหนุ่มชุดขาวผู้หนึ่งก้าวเข้ามาภายในกระโจม

แล้วมันจะเป็นใครได้นอกจากเย่หยวน?

ผู้นำเผ่าศิลานั้นเป็นคนที่ดูถูกไว้มากที่สุดเมื่อเขาได้เห็นเย่หยวนเขาจึงกล่าวขึ้น “ช่างเป็นเด็กที่อวดอ้างไม่ดูตัว! เจ้าคิดว่าแค่เพราะตัวเองเป็นนักบุญฟ้าครามนั้นข้าจะยกย่องตัวเองเป็นคนสำคัญได้หรือ! สุดท้ายศึกนี้มันก็ยังต้องพึ่งพลังของเหล่าเจ้าฟ้าดินสี่และห้าทลายทั้งหลาย!”

เมื่อไป่เซินและพวกได้เห็นเย่หยวนนั้นพวกเขาก็ได้แต่ต้องถอนหายใจยาว

เด็กน้อยในวันนั้นกลับกลายมาเป็นยอดคนผู้ปกครองดินแดนไปเสียแล้ว!

ที่ด้านข้างนั้นผู้นำเผ่ามังกรหลงยี่ก็รีบคุกเข่าลงต่อหน้าเย่หยวนทันที

“หลงยี่ขอคารวะท่านบรรพบุรุษ!”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ลุกเถอะ ข้าพาพวกเสี่ยวฉุนไปพักหมดแล้ว”

หลงยี่รีบกล่าวขึ้น “มันเป็นหลงยี่เองที่ไร้ความสามารถทำให้เสี่ยวฉุนต้องตกสู่ห้วงอันตราย! หลงยี่สมควรตาย!”

เย่หยวนนั้นเป็นตัวเลือกตำแหน่งมังกรบรรพกาล ต่อให้จะเป็นยอดคนระดับหลงยี่นี้เองก็ยังต้องก้มหัวแก่เย่หยวน

เขานั้นรู้ดีว่าหลงเสี่ยวฉุนและเย่หยวนนั้นสนิทสนมกันจึงได้กล่าวเช่นนี้ออกมา

เย่หยวนยกมือขึ้นมาโบกปัดก่อนจะตอบกลับไป “ไม่ต้องหรอก สงครามสิ้นโลกนี้มันจะมีใครที่ไม่ประสบภัยได้? เรื่องนี้มิใช่ความผิดเจ้าหรอก!”

……………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ