“กล่าวเหลวไหล! เต๋าบรรพกาลเรานั้นแข็งแกร่งที่สุดในมหาพิภพถงเทียนนี้ เรื่องนี้ไม่ว่าจะใครก็ต่างรู้ ท่านนั้นกลับคิดใช้คำพูดนี้เบี่ยงเบนความผิดของตนมันช่างน่าขันนัก!” หลินเฉาเถียนกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน
แต่เย่หยวนเองก็ตอบกลับไปด้วยท่าทางไม่แยแสเช่นกัน “เจ้าส่งหลินหลางและหลินฮวนออกมาหาเรื่องข้าที่ปากทางเข้าเทือกเขานั้นมันก็เพื่อจะทดสอบพลังฝีมือของข้ามิใช่หรืออย่างไร? เป็นอย่างไร? พอใจเจ้าหรือไม่เล่า?”
แท้จริงแล้วระหว่างทางมานั้นเย่หยวนได้คิดถึงหลายต่อหลายความเป็นไปได้
แต่เขานั้นไม่ได้เข้าใจตัวหลินเฉาเถียนและไม่ได้รู้จักถึงนิสัยใจคอใดๆ ของอีกฝ่าย
ลี่เอ๋อมาช่วยเทียนเหอไปนั้นมันย่อมจะเป็นประเด็นให้ถูกผู้คนกล่าวถามได้ง่ายๆ การที่เต๋าบรรพกาลจะคิดใช้มันเป็นเครื่องมือโจมตีนั้นก็มิใช่เรื่องแปลก
แต่เมื่อได้มาเจอหลินหลางและหลินฮวนที่ปากทางเข้าเขานั้น มันกลับทำให้เกิดความสงสัยขึ้นมาในใจของเย่หยวน
เขารู้ว่านี่มันคือการลองเชิง แต่เพื่ออะไร?
ในเมื่ออยากเห็นนัก เย่หยวนก็ไม่คิดออมมือแสดงออกอย่างเต็มที่!
เขานั้นรู้ว่าวรยุทธการบ่มเพาะของเขานั้นมันคงทำให้หลายคนตาลุกวาว
เรื่องนี้ตัวเย่หยวนได้เตรียมใจมาแสนเนิ่นนาน
เพราะระหว่างทางกว่าจะมาถึงเวลานี้ได้การพัฒนาของเขามันก็เหนือล้ำสามัญสำนึกจนเกินไป หากมีคนคิดสนใจอยากรู้เรื่องราวของเขานั้นมันย่อมจะสืบหาเรื่องราวได้ไม่ยาก
ไม่ต้องพูดถึงด้วยซ้ำว่าหลินเฉาเถียนนั้นเป็นยอดคนตัวตนสูงส่งอำนาจมากล้ำ การจะสืบเรื่องของเย่หยวนนั้นมันแสนง่ายดาย
หากเขาคิดสืบหาแล้วมันก็ย่อมจะเข้าใจเย่หยวนได้ไม่ยาก
เวลานี้หลินเฉาเถียนมาแสดงท่าทางชั่วร้ายคิดป้ายสีมันยิ่งชัดเจนแก่สายตาเย่หยวน
การที่หลินเฉาเถียนจะอยากได้วรยุทธบ่มเพาะมันมิใช่เรื่องเกินคาดของเย่หยวนใดๆ
เพียงแค่ว่าวิธีการมันชั่วร้ายเกินรับได้
หลินเฉาเทียนยิ้มตอบขึ้น “ดูท่านักบุญฟ้าครามคงมีชะตาต้องทรยศเผ่าพันธุ์แล้ว! ในเมื่อเป็นเช่นนั้นบรรพกาลผู้นี้ก็จะขอทำหน้าที่แทนเต๋าสวรรค์จัดการท่านลงเสีย!”
พูดไปตัวหลินเฉาเถียนก็ปล่อยคลื่นพลังออกมาปกคลุมทั้งเทือกเขากำเนิดตรัสรู้
เมื่อเต๋าบรรพกาลคิดลงมือแล้วมันย่อมจะเกิดความตายขึ้นอย่างไม่อาจเลี่ยง!
พลังของพวกเขานั้นมันอยู่เหนือสิ่งใด
เมื่อยอดฝีมือระดับนี้คิดโจมตีออกมาฟ้าดินมันย่อมจะเปลี่ยนสีแตกแยก ทำให้ทั้งโลกหล้าแทบตกลงสู่ห้วงความหายนะ
ไม่เช่นนั้นแล้วในสงครามครั้งก่อนมันก็คงไม่ถูกเรียกว่าสงครามสิ้นโลก
เวลานี้ยอดฝีมือระดับนั้นกลับคิดอยากจะจัดการกับนักยุทธผู้หนึ่งที่เพิ่งบรรลุขึ้นอาณาจักรเจ้าฟ้าดิน มีหรือที่คนทั้งหลายจะยังรักษาใบหน้าเรียบเฉยไว้ได้?
แม้จะเป็นพวกผางเจิ้นที่นอกปากทางเข้าเทือกเขาเองก็ยังรู้สึกราวกับว่าวันสิ้นโลกมันมาอยู่ตรงหน้าแล้ว
พลังระดับนี้มันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยจะได้พบเจอมาก่อน
เต๋าบรรพกาลนั้นไม่ได้แสดงพลังออกมาต่อหน้าผู้คนอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตกาลมา
แต่วันนี้หลินเฉาเถียนกลับคิดลงมือต่อเย่หยวน!
ว่านเจิ้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเก “ไม่ดีแล้ว! นี่… นี่หรือคือพลังแห่งกฎ? มันน่ากลัวจนเกินไปจริงๆ! เต๋าบรรพกาลชีวิตนั้นกลับคิดเสี่ยงที่จะถูกกล่าวครหาจากทั่วแผ่นดินลงมือต่อท่านนักบุญฟ้าครามจริง!”
ผางเจิ้นนั้นกัดฟันแน่น “มันเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?! ด้วยนิสัยของนายท่านนั้นมีหรือที่จะไปทรยศเผ่าพันธุ์ใดๆ? หรือว่าเต๋าบรรพกาลทั้งหลายนั้นไม่อาจจะแยกผิดชอบชั่วดีได้อีกแล้ว?”
นักรบทั้งหลายในทัพไร้คาดเดานั้นต่างเปี่ยมล้นไปด้วยความถูกต้องในจิตใจ
ในดวงใจของพวกเขานั้นเย่หยวนเป็นดั่งเทพ!
ศึกที่เขาแปดโมฆะนั้นมันได้เปลี่ยนแปลงจิตใจของคนทั้งหลายสิ้นเชิง
ท่าทางอันสูงส่งนั้น ความสามารถในการวางแผนการต่างๆ ทั้งการยอมเสี่ยงชีวิตเป็นตายไปกับทหารมันย่อมจะฝังรากลึกลงในจิตใจของผู้คนอย่างไม่อาจถอนขึ้น
แต่เวลานี้เหล่าเต๋าบรรพกาลนั้นกลับคิดจะลงมือจัดการผู้นำของพวกเขาไป แน่นอนว่าพวกเขาย่อมจะไม่อาจยอมรับมันได้
เพียงแค่ว่าคนทั้งหลายนั้นก็รู้ดีว่าเรื่องตรงหน้ามันมิใช่สิ่งที่พวกเขาจะยุ่งเกี่ยวได้ พวกเขานั้นจึงได้แต่ต้องรอไปอย่างกังวล
เวลานี้คลื่นพลังกฎของธาตุไม้มันปกคลุมทั้งโถงเอาไว้มิดชิด
มิติในที่แห่งนี้มันถูกพลังแห่งกฎปิดกั้นไว้สิ้น!
เมื่อก้าวขึ้นมาถึงระดับของกฎแล้วคนผู้นั้นย่อมจะมีพลังถึงฐานของเต๋าสวรรค์ มาจนถึงสุดทางท้ายด้วยทางเดินที่แตกต่าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...