ท่ามกลางขุนเขาอุดมสมบูรณ์มันมีศาลาตั้งอยู่พร้อมด้วยระเบียงรับแดดพร้อมคลื่นพลังงานวิญญาณที่หนาแน่น
เย่หยวนนั้นมาตามที่หยวนเซี่ยวชี้ทางและมาถึงอย่างตกตะลึง
เพราะที่แห่งนี้มันกลับมีพลังงานวิญญาณ!
และหยวนเซี่ยวนั้นเหมือนจะเห็นได้ถึงความตื่นตะลึงของเย่หยวนจึงยิ้มกล่าวขึ้น “พลังงานชั่วร้ายและพลังงานวิญญาณนั้นแท้จริงมันก็แค่รูปแบบหนึ่งของพลังงานฟ้าดินเท่านั้น พวกมันย่อมจะสามารถถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นอีกแบบได้ไม่ยาก เรื่องราวเช่นนี้มันมิได้มีแค่เจ้าหรอกที่ทำได้”
เย่หยวนพยักหน้ารับด้วยความเข้าใจ
แต่เย่หยวนจะรู้ได้หรือไม่ว่าในจิตใจของหยวนเซี่ยวนั้นมันตกตะลึงแค่ใด?
เพราะมันอาจจะฟังดูง่ายดายแต่นอกจากเหล่าบรรพบุรุษทั้งหลายอย่างพวกเขาแล้ว มันไม่มีใครในเผ่าเทวาที่ทำได้อีก
แต่เขานั้นกลับเห็นชัดเจนว่าเย่หยวนนั้นดูดซับพลังงานชั่วร้ายไปเป็นพลังงานในการบ่มเพาะ!
หรือก็คือความเข้าใจของเย่หยวนต่อพลังงานฟ้าดินนั้นมันเทียบเคียงได้กับเหล่าบรรพบุรุษต้นตระกูลทั้งหลายอย่างพวกเขานี้!
นี่มันจะน่ากลัวจนเกินไปแล้ว!
นักบุญฟ้าครามผู้นี้มีแต่ความแปลกประหลาดเต็มร่างกายอย่างที่แม้แต่ตัวเขาก็ไม่อาจจะมองออก!
คนทั้งสองนั้นค่อยๆ นั่งลงประจำที่ระหว่างขุนเขาและสายน้ำ เย่หยวนนั้นเดินมานั่งลงตรงข้ามหยวนเซี่ยวอย่างไม่เกรงกลัวใดๆ
หากคนอื่นๆ มาเห็นแล้วการไปนั่งในระยะนั้นกับบรรพบุรุษคงเป็นการรนหาที่ตาย
แต่สำหรับเขาแล้วหยวนเซี่ยวไม่ได้แตกต่างจากคนทั่วไปใดๆ
หากหยวนเซี่ยวคิดลงมือใดๆ ตัวเย่หยวนก็หลบเลี่ยงได้อยากไม่ยากเย็น
ภายในระยะของพิภพโกลาหลนั้น เขาคือเจ้าผู้ปกครอง!
“แล้วลี่เอ๋อต่างจากคนทั้งหลายอย่างไรเล่า?” เย่หยวนถามขึ้น
หยวนเซี่ยวไม่ตอบกลับมาทันทีแต่ยิ้มและเสนออีกเรื่องขึ้นมาแทน “นักบุญฟ้าครามและลี่เอ๋อนั้นเป็นคู่มังกรและหงส์ในหมู่คน เหมาะสมกับดั่งสวรรค์สร้างให้คู่กัน ตราบเท่าที่เจ้าร่วมมือกับเผ่าเทวาเราพวกเจ้าทั้งสองย่อมจะครองคู่กันได้อย่างแต่ก่อน ทำไมต้องไปเสียเวลาเสียกำลังช่วยเหลือพวกวายร้ายทั้งหลายนั้นมันด้วย?”
วายร้ายทั้งหลายที่หยวนเซี่ยวว่าถึงนั้นมันย่อมจะกล่าวถึงเก้าเต๋าบรรพกาล
เย่หยวนนั้นรู้ดีว่าเรื่องใหญ่เช่นนั้นมันคงไปถึงหูของเบื้องบนเผ่าเทวาได้ไม่ยาก
เย่หยวนนั้นทำงานเสียสละตนเองอย่างหนักหน่วงมีคุณงามเหนือล้ำทั้งอดีตและปัจจุบันแต่กลับถูกเต๋าบรรพกาลทั้งหลายนั้นกล่าวหาว่าร้ายกลายเป็นคนทรยศเผ่าพันธุ์
แล้วใครกันเล่าที่จะทดแทนเรื่องราวเช่นนี้ได้?
หากเป็นคนอื่นๆ เผ่าเทวาก็คงไม่คิดสนใจชักชวนให้ย้ายฝัง
แต่เย่หยวนนั้นมิใช่ เขานั้นคือนักบุญฟ้าคราม!
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือหากอยากลากเย่หยวนมาเข้าฝั่งตน มันคงไม่มีเวลาไหนเหมาะไปกว่านี้!
ตราบเท่าที่เย่หยวนย้ายมาฝั่งเผ่าเทวา ชะตาของหลากเผ่าพันธุ์ก็คงจบสิ้นลงอย่างแน่นอน!
เย่หยวนหันกลับมาตอบ “เลิกวางแผนชั่วร้ายของเจ้าเถอะ! ข้า เย่หยวนนั้นไม่คิดทำงานให้ใครทั้งสิ้น! ข้าแค่ทำตามแค่ที่ตัวเองตัดสินใจเท่านั้น! พวกมันทั้งหลายนั้นยังไม่มีค่าพอจะทำให้ข้าต้องขายชีวิตตนเองหรอก!”
หยวนเซี่ยวนั้นยิ้มตอบกลับมาอย่างไม่คิดใส่ใจ “แต่จะอย่างไรโลกหล้ามันก็กว้างใหญ่ แต่เจ้านั้นไม่มีที่จะอยู่อีกแล้ว! ความฉิบหายของเผ่ามนุษย์มันก็คงมาถึงในเร็ววัน!”
เย่หยวนจึงตอบกลับไป “ต่อให้เผ่ามนุษย์จะพ่ายแพ้แต่ข้าก็จะกลับมาส่งพวกเจ้าลงนรกด้วยตัวเอง!”
รอยยิ้มของหยวนเซี่ยวแข็งค้างไปทันทีอย่างไม่อาจจะหาเรื่องมาชักชวนได้อีก
เจ้าหมอนี่มันไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ อย่างแท้จริง!
เขานั้นไม่อาจจะเข้าใจได้เลยว่าทำไมชายที่ถูกเผ่าพันธุ์ตัวเองหักหลังเช่นนี้ยังจะดื้อด้านปกป้องพวกมันอีก?
“เจ้ามั่นใจมากสิ? เพียงแค่ว่า… เจ้าคงไม่ได้รู้ว่าเทียนชิงนั้นเก่งกาจปานใด! ที่สำคัญไปกว่านั้นคือในวันหน้าอีกไม่นานจากนี้เราอาจจะได้มียอดฝีมือระดับเทียนชิงขึ้นมาอีกคน!” หยวนเซี่ยวกล่าว
เย่หยวนหรี่ตาลงด้วยใบหน้าดำมืด “เจ้าพูดถึง… ลี่เอ๋อ?”
หยวนเซี่ยวพยักหน้ารับทันที “ใช่แล้ว! เจ้าถามมิใช่หรือว่านางนั้นแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร? เพราะว่านางนั้นเหมือนเทียนชิง นางมีกายเต๋าแต่กำเนิด! หึๆ พวกเต๋าบรรพกาลทั้งหลายของเผ่าเจ้ามันคิดว่าเรานั้นกำลังรอให้พลังกฎของพวกมันถูกดึงกลับ แต่มิใช่เลย! เราแค่กำลังรอให้ลี่เอ๋อเติบโตขึ้นเท่านั้น! ถึงเวลานั้นแล้วเราก็จะมีสองเทียนชิง เป็นเช่นนั้นแล้วเผ่ามนุษย์จะยังเอาอะไรมาสู้?”
ต่อให้จะเป็นตัวเย่หยวนเขาก็อดไม่ได้ที่จะต้องสูดหายใจเข้าลึก
เพราะเขานั้นก็ไม่ได้คิดฝันว่าพรสวรรค์ของลี่เอ๋อจะกลับเปล่งประกายได้ขนาดนี้ในเผ่าเทวา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...