“สายเต๋ายี่ เวลานี้ตัวเจ้าเองก็เป็นคนรุ่นเดียวกับเราแล้ว สายตาของเจ้ามันน่าจะกว้างไกลกว่านี้ เจ้านั้นหลอมโอสถให้แก่พวกเราทั้งหลายมันก็เพื่อช่วยเหลือเผ่าพันธุ์ การที่เรามาจัดการทำลายเหล่าคนทรยศลงนี้มันก็เพื่อเผ่าพันธุ์เท่านั้น ข้ารู้ว่าเจ้านั้นสนิทสนมกับเย่หยวนแค่ไหนแต่พรสวรรค์ของมันเป็นอย่างไรเจ้าคงไม่ต้องให้ข้ามาบอกเล่า มันนั้นเป็นภัยร้ายแรง เพราะฉะนั้นเราจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำเช่นนี้!”
เต๋าบรรพกาลไฟเวิงเซียนนั้นวางสีหน้าท่าทางหนักแน่นกล่าวคำพูดเพื่อหว่านล้อมมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล
สีหน้าท่าทางของเขานี้มันเหมือนคนที่กำลังทำเรื่องเพื่อคนส่วนรวมอยู่จริงๆ
“กว้างไกลกับพ่อเจ้าเถอะ พ่อเจ้านี้จะไม่ฟังคำพูดปากเหม็นๆ ของพวกเจ้าอีกต่อไปแล้ว! เย่หยวนนั้นจะทรยศเผ่าพันธุ์? เหอะๆ ต่อให้หมาเฒ่าทั้งหลายอย่างพวกเจ้ามันจะตายตกลงไปสิ้นและเหลือเพียงแค่ตัวเขาคอยปกป้องมหาพิภพถงเทียนนี้ตัวเย่หยวนก็จะไม่มีทางทรยศเผ่าพันธุ์ใดๆ! ก็ดี! ตั้งแต่บรรพกาลผู้นี้บรรลุเต๋าขึ้นมาข้ายังไม่เคยได้ประมือกับคนรุ่นเดียวกันมาก่อน วันนี้ข้าจะขอดูหน่อยว่าเต๋าบรรพกาลมันเก่งกาจสักเพียงใด!”
ยี่หัวเราะลั่นก่อนจะปล่อยคลื่นพลังหนักหน่วงฟ้าดินออกมาพุ่งทะยาน
ตูม!
หมัดเดียวของเขานั้นมันทำให้ฟ้าดินต้องสั่นสะเทือน
ยอดฝีมือพลังกฎสองคนจึงได้เริ่มปะทะกันขึ้น!
มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นโจมตีด้วยอารมณ์สุดแสนคับแค้นใจจึงมีพลังหนักหน่วงอย่างไร้เทียบ
เส้นเสียแต่ว่าพื้นฐานวิชาการต่อสู้ของเขามันย่อมจะไม่อาจเทียบเคียงกับเต๋าบรรพกาลไฟได้
รอบๆ กายเต๋าบรรพกาลไฟนั้นมันเกิดกงล้อไฟขนาดใหญ่ที่เผาไหม้ได้แม้แต่ห้วงมิติ
แต่ละกระบวนท่านั้นมันแฝงมาด้วยคลื่นพลังที่ไม่อาจอธิบายบรรยายได้
พริบตาเดียวนั้นเขาก็สามารถกกดดันมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลได้ทุกด้าน
เมื่อได้เห็นเช่นนั้นมุมปากของหลินฮวนก็เผยอยิ้มขึ้นก่อนจะหันไปบอกว่านเจิ้น “เจ้าคิดว่าตัวเองจะรอดไปได้? เปล่าประโยชน์! ไม่มีใครในโลกหล้านี้ที่จะช่วยเจ้าไปจากเทือกเขากำเนิดตรัสรู้!”
หลังจากที่พูดจบเขาก็ยกมีดหายนะเลาะกระดูกออกมาแทงลงร่างของว่านเจิ้นไปอีกครั้ง
แต่ในเวลานั้นเองที่มันกลับเกิดความแปลกประหลาดขึ้น!
เพราะวินาทีเดียวกันนั้นมันกลับมีดาบแสงพุ่งออกมาจากช่องว่างห้วงมิติ
มันเป็นดาบที่รวดเร็วและแสนเฉียบคมโดยมีเป้าหมายตรงมายังตัวหลินฮวน
ฟุบ!
หลินฮวนนั้นไม่ทันจะได้ตั้งรับใดๆ ถูกดาบแสงนั้นแทงทะลุตัวไปอย่างรวดเร็ว
พร้อมๆ กันนั้นคลื่นพลังจากดาบมันก็ส่งร่างของหลินฮวนเข้าไปตรึงอยู่บนหินไม่ไกลจากจุดที่เขายืน
หลินฮวนต้องเบิกตากว้างมองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ
เลือดนั้นไหลลงจากปากพร้อมร่างที่ที่พยายามดิ้นหลบหนีจากการตรึง
คนทั้งหลายได้แต่ต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นถึงดาบแสงนี้
มันรวดเร็วจนเกินไป!
เร็วจนไม่มีใครทำอะไรได้ทัน!
แม้แต่ตัวหลินฮวน เจ้าฟ้าดินห้าทลายคนนี้เองก็ยังไม่อาจจะตั้งรับใดๆ ได้ทัน
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือดาบนี้มันพุ่งผ่านห้วงมิติเข้ามาด้วยความเร็วที่เกินกว่าจะเชื่อได้
ก่อนที่หลินฮวนจะทันรู้ตัวดาบนั้นมันก็ปักลงบนร่างของตนเองเสียแล้ว
ถึงเวลานั้นไม่ว่าตัวเขาจะรวดเร็วปานใดมันก็ไม่อาจจะหลบรอดจากดาบนี้ได้อีกต่อไป
คนที่ตาดีหน่อยย่อมจะเข้าใจได้ทันทีว่าดาบนี้มันคือวิชาใด “ด-ดาบแห่งมิติเวลา! นี่มันคือดาบแห่งมิติเวลาของเย่หยวน! นักบุญฟ้าครามมาแล้ว!”
และเสียงของคนผู้นั้นยังกล่าวไม่ทันจบมันก็ปรากฏเงาร่างหนึ่งขึ้นมาหยุดลงด้านหน้าว่านเจิ้น
จะเป็นใครไปได้นอกจากเย่หยวน?
เมื่อเย่หยวนปรากฏตัวขึ้นมาคนทั้งหลายต่างก็ต้องโห่ร้องขึ้นตามๆ กัน
“เขา… เขามาจริง!”
“เขานั้นกลับยังกล้าจะมา!”
“เดี๋ยวนะ! ทำไมเขาจึงแข็งแกร่งได้ปานนี้?”
“ใช่แล้ว! ก่อนนั้นพลังของเขามันแค่พอจะทำร้ายหลินฮวนได้บ้าง แต่เวลานี้มันกลับจัดการหลินฮวนลงด้วยดาบเดียว!”
…
ยอดฝีมือมากมายที่มาดูเรื่องราวต่างต้องอ้าปากค้างขึ้นตามๆ กัน
วินาทีแรกพวกเขานั้นตื่นตะลึงในความกล้าหาญของเย่หยวนแต่ไม่นานพวกเขาก็ได้พบว่ามันมีอะไรผิดปกติ
เพราะเย่หยวนนั้นเคยได้ใช้กระบวนท่าวิชาเดียวกันนี้ออกมาใส่หลินฮวน
แต่ในเวลานั้นมันแค่พอทำให้หลินฮวนบาดเจ็บได้
แต่เวลานี้มันผ่านไปแค่กี่ปี? เย่หยวนนั้นกลับตอกตรึงเจ้าฟ้าดินห้าทลายอย่างหลินฮวนไว้กับหินด้วยดาบเดียว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...