ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!
ยอดฝีมือหลายคนรุมล้อมชายหนุ่มร่างกายสีเทาไว้ตรงกลางปิดทางหนีของเขาสิ้น
ไล่ติดตามมานานถึงครึ่งวันสุดท้ายเต๋าบรรพกาลทั้งหกก็ไล่ตามวิญญาณโกลาหลดั่งเดิมของเย่หยวนได้ทัน
หลินเฉาเถียนนั้นแต่ได้ทำหน้าเหยเกไม่นึกฝันว่าจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนนั้นกลับจะรวดเร็วปานนี้
เวลาครึ่งวันที่ผ่านมานี้เรื่องราวของอีกฝั่งนั้นไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้างแล้ว
“หึ! ก็ลองดูสิว่าจะหนีไปได้ถึงไหน!” หลินเฉาเถียนกล่าวออกไป
เย่หยวนยักไหล่ตอบกลับไปด้วยท่าทางสบายๆ “หลินเฉาเถียน เจ้าทุ่มเทวางแผนเป็นปีๆ แต่คงไม่นึกฝันว่าหมูสมบัตินั้นจะเป็นยอดฝีมือพลังกฎใช่หรือไม่? หึๆ เวลานี้เจ้าก็ยังสังหารข้าไม่ได้อีก เกรงว่าวันหน้าพวกเจ้าคงหลับกันได้ไม่เต็มตาแล้ว”
เต๋าบรรพกาลทั้งหกนั้นต่างทำหน้าตามึนงงขึ้นมาเมื่อได้ยิน เจ้าหมอนี่มันไม่รู้ชะตากรรมของตนเองหรือ?
จิตศักดิ์สิทธิ์ของเจ้านั้นอยู่ที่ปลายมือคนแล้วยังจะมีหน้ามาบอกว่าตัวเองไม่ตาย?
“ฮ่าๆๆ เย่หยวน เจ้าไม่มีที่ให้หนีได้แล้ว คนใกล้ตายอย่างเจ้านี้จะเอาอะไรมาแก้แค้นพวกข้า? คิดให้ร่างกายมันลุกขึ้นมาแก้แค้นเองหรือ? เจ้าโง่ เจ้าคิดจะให้พวกเราไล่ตามเจ้าหมูนั่นไปแล้วเอาตัวเองหนีรอด? ขอโทษที ในสายตาของข้านั้นเจ้ามันอันตรายกว่าที่จะทิ้งไปไล่ล่าโอสถเต๋าใด!” หลินเฉาเถียนกล่าวขึ้นด้วยเสียงหัวเราะลั่น
“เจ้าโง่ เจ้ายังไม่เข้าใจสถานการณ์อีกหรือ? จิตศักดิ์สิทธิ์ของเจ้ามันจะถูกทำลายลงแล้ว ทั้งอย่างนั้นเจ้ากลับยังคิดจะมาข่มขู่พวกเรา?” เต๋าบรรพกาลลมกล่าวขึ้น
แต่แม้ต้องเจอเต๋าบรรพกาลถึงหกคนแต่เย่หยวนก็ยังยิ้มตอบกลับไป “เขาน้อยแห่งถงเทียนนั้นข้าจะขอฝากไว้กับพวกเจ้าก่อน ถึงเวลาแล้วข้าจะกลับไปเอา อ่า… ช่วงที่ข้ายังฝากไว้นี้พวกเจ้าต้องพยายามกันให้หนักอย่าให้ข้าต้องผิดหวังเล่า”
หลินเฉาเถียนขมวดคิ้วแน่นเพราะรู้สึกถึงลางสังหรณ์
เขานั้นศึกษาเย่หยวนมาอย่างดี คำพูดของเย่หยวนนั้นมันอาจจะฟังดูเหมือนการโอ้อวดแต่เย่หยวนนั้นมิใช่คนที่จะโอ้อวดอย่างไร้อะไรหนุนหลัง
หรือว่าเจ้าหมอนี่มันจะยังมีไม้ตายใดๆ อีก?
เย่หยวนหัวเราะขึ้นมาพร้อมเมินเหล่าเต๋าบรรพกาลทั้งหลายก่อนจะค่อยๆ เดินผ่านพวกเขาไป
เต๋าบรรพกาลทั้งหกนั้นหันมามองหน้ากัน หรือว่าเจ้าหมอนี่มันจะเป็นคนโง่จริงๆ?
หลินเฉาเถียนนั้นขมวดคิ้วแน่นก่อนจะทุบฝ่ามือออกไป
ตูม!
คลื่นพลังรุนแรงบดขยี้จิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนลงเป็นชิ้นๆ
หลินเฉาเถียนนั้นยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก “บรรพกาลผู้นี้ก็กังวลอยู่ว่าเจ้าจะมีไม้ตายใดหลบซ่อน เสียเวลาตั้งนานสุดท้ายก็แค่คำโม้ไร้สาระ!”
เต๋าบรรพกาลลมกล่าวขึ้นเสริม “ฮ่าๆๆ จริงๆ เลย เล่นเสียเหมือนเชียว บรรพกาลผู้นี้เกือบหลงเชื่อแล้ว!”
เต๋าบรรพกาลมืดยิ้มขึ้นมา “เจ้าหมอนี่มันประหลาดจนเกินไป ทำเอาข้ากังวลไม่น้อย แต่ครั้งนี้มันคงได้ต-ตา…”
วินาทีต่อมาคำพูดของเต๋าบรรพกาลมืดก็ติดขัดเบิกตากว้างมองออกไปอย่างไม่คิดอยากเชื่อ
คำว่า ตาย นั้นยังกล่าวไม่จบเสียด้วยซ้ำ
“หึๆ มืด เจ้าดีใจจนเสียสติไปแล้วหรือ?” เต๋าบรรพกาลลมกล่าวขึ้นมาพร้อมหัวเราะเยาะ
“มิใช่มันหรอกที่เสียสติ เจ้าต่างหากที่เป็นคนเสียสติ!” เวลาเดียวกันนั้นมันก็เกิดเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
เต๋าบรรพกาลลมนั้นเบิกตากว้างหันไปมองต้นเสียงด้วยตาถลน
เย่หยวนนั้นกลับยืนอยู่ตรงนั้นอย่างราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลินเฉาเถียนนั้นหันมามองเย่หยวนด้วยขนที่ลุกชัน
ทำไมเจ้าหมอนี่มันถึงยังอยู่สบายไร้ร่องรอยบาดเจ็บเช่นนี้?
“พวกเจ้าดูตกใจกันมากนะ? หลินเฉาเถียน เจ้าอวดอ้างว่ารู้จักศึกษาตัวข้ามาดี? ครั้งนี้ดูท่าเจ้าจะตกตะลึงไม่น้อยทีเดียว! หากข้าไม่มีไม้ตายแล้วมีหรือที่ข้าจะมายืนรับหน้าพวกเจ้าทั้งหกด้วยแค่ร่างวิญญาณเช่นนี้?” เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
หลินเฉาเถียนนั้นกล่าวออกมาด้วยสีหน้าตื่นตะลึงไม่อยากเชื่อสายตา “เจ้า… ทำไมเจ้ายังอยู่ได้? มันแปลก… จิตศักดิ์สิทธิ์ของเจ้ามันแปลก!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ใช่แล้ว ข้าเองก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก แต่จิตศักดิ์สิทธิ์ของข้านั้นมันผ่านการเปลี่ยนแปลงบางอย่างมา ข้าลืมบอกไป แม้แต่เทียนชิงมันนั้นก็ยังไม่อาจจะสังหารข้าลงได้เช่นกัน”
หลินเฉาเถียนเบิกตากว้างขึ้นอย่างตกตะลึง
จิตศักดิ์สิทธิ์ที่แม้แต่เทียนชิงเองก็ไร้ปัญญาทำลาย?
เขานั้นเป็นคนที่รอดจากสงครามสิ้นโลกครั้งก่อนหลินเฉาเถียนย่อมจะเข้าใจได้พลังอำนาจของเทียนชิงอย่างถ่องแท้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...