“ชิๆ ช่างเป็นจิตศักดิ์สิทธิ์ที่เอร็ดอร่อยนัก! สมบูรณ์แบบเสียจริง! หากกินเจ้าหมดแล้วข้าคงพัฒนาไปล้ำกว่าเต๋าบรรพกาลเสียอีก! ฮ่าๆๆ… น่ายินดีเสียจริง!”
ฉางเล่อนั้นปล่อยให้จิตศักดิ์สิทธิ์ของเขาเติบโตไปอย่างไม่มีหยุด
ความเร็วในการเติบโตนี้มันทำให้แม้แต่ตัวเขาก็ยังเกรงๆ!
คลื่นพลังจิตที่หนักแน่นแข็งแกร่งนี้มันเริ่มทำให้เขามึนหัวหน่อยๆ
เขานั้นดูดกลืนยอดเต๋าและจิตศักดิ์สิทธิ์ผู้คนมามากมายแต่ยังไม่เคยจะพบเจออะไรเช่นนี้มาก่อน
เย่หยวนนั้นเหมือนถูกมือนั้นควบคุมไว้สิ้นอย่างไม่อาจขยับได้แม้แต่ปลายนิ้ว
ฉางเล่อนั้นมียอดเต๋าที่ประหลาดเกินไป!
เย่หยวนนั้นหยุดอยู่ตรงนั้นด้วยความกังวลในจิตใจ
ต่อให้จะเป็นตอนที่เผชิญหน้ากับรูปปั้นเทพนั้นเขาก็ยังไม่ได้รู้สึกไร้เรี่ยวแรงขัดขืนเช่นนี้
เวลานี้วิญญาณโกลาหลดั่งเดิมของเขานั้นมันค่อยๆ จางลงเรื่อยอย่างไม่อาจห้าม
พร้อมๆ กันนั้นฝั่งกงล้อสีดำมันก็ดูดกลืนพลังจิตวิญญาณของเขาไปอย่างบ้าคลั่ง
“หึ พวกเจ้าคงไม่นึกฝันว่าสุดท้ายมันจะเป็นข้าที่หัวเราะทีหลังดังที่สุดใช่ไหม?”
“หลังข้ากลืนจิตศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าไปและผสานมันเข้ากับยอดเต๋าของข้าแล้ว ทุกสิ่งอย่างจะต้องสยบอยู่ใต้เท้าข้า!”
“ฮ่าๆๆ… เต๋าบรรพกาลแล้วทำไมเล่า? เทียนชิงอะไรไร้สาระ? ข้านั้นจะจับมันมาเป็นหมารับใช้ให้หมด!”
“หลังจากรอคอยมานานนับล้านปีในที่สุดข้าก็จะได้เดินบนโลกหล้าอย่างสง่าไร้ผู้ใดขัดเสียที!”
…
ฉางเล่อนั้นเริ่มพูดเพ้อขึ้นมาเมื่อได้จินตนาการถึงอนาคตที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า
หลายหมื่นแสนปีมานี้สิ่งที่หนักใจที่สุดของฉางเล่อก็คือการต้องกดหัวตัวเองไม่ได้เผยธาตุแท้ออกมา
เวลานี้เมื่อเขาบรรลุเต๋าได้แล้ว ความต้องการจะเป็นใหญ่ของเขานั้นมันจึงปะทุขึ้น
ในอาณาจักรหทัยเมฆานั้นมันมีคนมากมายที่ทำเหมือนเขาเป็นแค่อากาศ
คนมากมายนั้นคิดว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูนั้นคือทายาทที่จะสืบทอดตำแหน่งต่อจากโอสถบรรพกาล
มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่รู้ว่าจะไม่มีใครก้าวข้ามโอสถบรรพกาลไปได้!
เพราะว่าโอสถบรรพกาลจะไม่ยอมให้ใครมาก้าวข้ามหัวตนเอง
หลายหมื่นปีก่อนนั้นตอนที่เขาเริ่มรับใช้โอสถบรรพกาลเขาก็ได้เห็นถึงจุดนี้อย่างชัดเจนแล้ว
ฉางเล่อนั้นเป็นคนฉลาดมาก เพียงแค่ว่าเพื่อที่จะปิดซ่อนมันจากสายตาของโอสถบรรพกาลเขาจึงไม่ได้แสดงฝีมือออกมามากมาย
โอสถบรรพกาลนั้นถูกเขาหลอกลวงมาตลอดหลายหมื่นปีจนสุดท้ายก็ถูกเขากลืนกิน
ตอนที่ตายลงนั้นตัวโอสถบรรพกาลเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าศิษย์ที่ซื่อสัตย์ของเขานั้นกลับเป็นคนที่สังหารตัวเขาลง
เมื่อได้รับเต๋าและจิตศักดิ์สิทธิ์ของโอสถบรรพกาลมาตัวฉางเล่อก็พัฒนาฝีมือไปอย่างมากล้น
และเพราะเหตุนี้เองเขาถึงได้กล้าจะมาท้าทายเย่หยวนที่ตอนนี้ยืนอยู่ระดับเดียวกับเต๋าบรรพกาล
แต่จิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนนั้นกลับอร่อยดีกว่าที่เขาคิดคาดไปมากมาย
ฉางเล่อนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมาแต่จู่ๆ ใบหน้าของเขาก็ต้องเปลี่ยนสี
ครืน…
กงล้อสีดำนั้นมันเกิดสั่นไหวขึ้น
ทีแรกมันยังเป็นแค่อาการสั่นเบาๆ
แต่ไม่นานมันกลับเริ่มสะเทือนรุนแรงจนแทบหลุดปลิวไป
สีหน้าของฉางเล่อนั้นซีดขาวลงทันทีที่ได้เห็น “นี่มัน… เกิดอะไรขึ้นกัน?”
แกรก… แกรก แกรก…
และเหมือนเจ้ากงล้อสีดำนั้นมันจะได้ยินและตอบกลับมาด้วยรอยร้าว
ดวงตาของเย่หยวนเองก็ค่อยเบิกกว้างขึ้นเมื่อได้เห็น
“หึๆ จิตศักดิ์สิทธิ์ของข้านั้นมันเรียกว่าวิญญาณโกลาหลดั่งเดิม! แม้แต่ตัวเทียนชิงนั้นก็ยังไม่รู้จักมันข้าจึงมั่นใจว่าวิญญาณโกลาหลดั่งเดิมนี้มิใช่ของบนโลกนี้แน่นอน! เจ้าคิดใช้ยอดเต๋าของโลกนี้มาดูกลืนวิญญาณโกลาหลดั่งเดิมที่มิใช่ของบนโลก หากมันทนได้สิจะแปลก!” เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม
เขานั้นได้เข้าใจทันทีว่าปัญหามันเกิดขึ้นเพราะอะไร
เพราะพลังของวิญญาณโกลาหลดั่งเดิมนั้นมันมิใช่สิ่งที่ฉางเล่อจะทนรับและเข้าใจได้เลย
เต๋าแห่งการกลืนกินของเขานั้นมันแข็งแกร่งจริง หากเทียบแล้วมันไม่ได้ด้อยกว่าวิญญาณโกลาหลดั่งเดิมไปมากมาย
แต่นั่นแค่พูดถึงเรื่องปริมาณ
เพราะหากวัดกันที่คุณภาพแล้วเต๋าแห่งการกลืนกินของฉางเล่อนั้นมันไม่อาจจะเทียบได้แม้แต่เศษเสี้ยวของวิญญาณโกลาหลดั่งเดิม
หากให้พูดง่ายๆ แล้วมันเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นก็เพราะว่าเจ้ากงล้อนั้นมันกลืนพลังงานเข้าไปมากกว่าที่มันจะรับไหว
หรือก็คือเจ้ากงล้อดำนั้นมันกำลังท้องแตกตาย!
ยอดเต๋านี้กำลังจะแตกสลายลง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...