จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2472

เย่หยวนที่ยืนอยู่ไม่ไกลเองก็ยังต้องเบิกตากว้างขึ้นมาด้วยความตกตะลึง

คนทั้งสองนี้แท้จริงกลับเป็นพ่อลูกกัน!

“หุบปาก! ข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก! ข้าไม่มีทางเชื่อคำพูดใดๆ ของเจ้า!” ฉางเล่อนั้นร้องลั่นพยายามขัดคำของโอสถบรรพกาล

เพียงแค่ว่าดูจากท่าทางนั้นแล้ว ตัวเขาคงเชื่อไปสุดใจเป็นที่เรียบร้อย

โอสถบรรพกาลนั้นไม่คิดหยุดลงและกล่าวขึ้นต่อ “พรสวรรค์ของเจ้านั้นมันสูงล้ำแต่ความทะเยอทะยานของเจ้านั้นมันก็เช่นกัน! ในตอนแรกที่เฒ่าผู้นี้รับเข้ามาในฐานะคนรับใช้นั้นก็เพราะอยากจะสั่งสอนดัดนิสัยของเจ้าเสียก่อน เพียงแค่ว่าข้าก็ไม่นึกวันว่าเจ้านั้นจะบิดเบี้ยวได้มากมายจนเริ่มเดินเข้าสู่เต๋าแห่งการกลืนกิน เจ้านั้นเดินทางไปหาหวังปานที่เมืองสันติมั่นจนสุดท้ายก็ปลุกเต๋าแห่งการกลืนกินให้ตื่นขึ้นมาได้ ตั้งแต่นั้นมาเจ้าก็เริ่มได้เดินทางบนเต๋านั้น…”

“เฒ่าผู้นี้เดิมทีคิดอยากจะเปิดเผยความจริงต่อเจ้านั้นแต่ด้วยการที่เจ้ากลืนกินเต๋าของคนอื่นไปเช่นนั้นมันทำให้จิตใจของเจ้าเริ่มจะไม่มั่นคง หากข้าคืนความเป็นพ่อลูกต่อเจ้าไปมันอาจจะยิ่งทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นมา เฒ่าผู้นี้ทิ้งเจ้าแม่ลูกไปเพื่อจะแสวงยอดเต๋า สิ่งที่เฒ่าผู้นี้ติดค้างเจ้าไว้นั้นข้าจึงคิดจะช่วยให้เจ้าได้บรรลุระดับโอสถเต๋าขึ้นบ้างหลังจากที่ข้าทำการเปิดทางได้แล้ว น่าเสียดายที่มันยังขาดไปอีกแค่ก้าวเดียว!”

“วินาทีที่เจ้าลงมือต่อเฒ่าผู้นี้มันทำให้ตัวเฒ่าผู้นี้ลังเลไม่น้อย แต่สุดท้ายก็ยังยอมให้เจ้าไป ด้วยพรสวรรค์ของเจ้านั้นหลังจากกลืนเต๋าของเฒ่าผู้นี้ไปมันก็คงส่งเจ้าขึ้นไปเกือบถึงระดับโอสถเต๋าแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่นึกว่าเจ้าจะมาพลาดตกม้าตายลงเช่นนี้”

พูดมาถึงตรงนี้ตัวโอสถบรรพกาลก็หันมามองหน้าเย่หยวน

น่าเสียดายที่ฉางเล่อนั้นเลือกจะกินเย่หยวนเป็นคนสุดท้าย

นักบุญฟ้าครามผู้เป็นนิรันดร์!

แม้ต้องเผชิญความเย้ายั่วของยอดเต๋ามากมายนี้เย่หยวนก็ยังเลือกที่จะปลดปล่อยพวกเขาไป

จิตใจเช่นนี้มันคงหาไม่ได้อีกแล้วในโลกหล้าแห่งนักยุทธนี้!

ฉางเล่อเลือกเป้าหมายผิดไปมหัน!

ตัวฉางเล่อเองก็ได้แต่นั่งนิ่งรับฟังความจริงอย่างไม่อาจเถียงใดๆ อีก

เพราะเวลานี้ต่อให้จะดื้อด้านแค่ไหนเขาก็รู้ได้ว่าโอสถบรรพกาลคงไม่ได้หลอกลวงเขาแล้ว

แต่ว่าความจริงนี้มันกลับทำลายชีวิตทั้งหมดของเขาลงไปสิ้น

คนที่เขาแค้นมานานปี คนที่เขาฆ่าสังหารลงด้วยมือนี้มันกลับกลายเป็นคนที่รักเขาอย่างมากล้ำที่สุด

และเขานั้นกลับสังหารคนที่รักตนเองมากที่สุดลง!

มันช่างเป็นความจริงที่โหดร้าย

ในเวลานี้ร่างวิญญาณของโอสถบรรพกาลนั้นมันค่อยๆ จางหายลงไปจนแทบจะกลืนไปกับอากาศรอบข้าง

ด้วยการปลดปล่อยของเย่หยวนนั้นจิตวิญญาณของเขามันจึงถูกล้างและได้กลับคืนสู่วัฏสงสาร

เวลานั้นไม่เคยคอยท่าใคร ต่อให้เขาอยากจะคืนดีกับจักรพรรดิเทพสวรรค์ฉางเล่อสักแค่ไหนมันก็ไม่มีเวลาให้พูดคุยกันมากมายนัก

เขามองดูที่ตัวฉางเล่อก่อนจะกล่าวขึ้นอีกครั้ง “เจ้าเด็กโง่ หากชาติหน้ามีจริงแล้วข้าก็หวังว่าเราจะได้พบเจอกันอีกครา!”

วิญญาณสุดท้ายของโอสถบรรพกาลจางหายไป ยอดเต๋าพังทลายจบใกล้จบสิ้นชีวิตนี้ลงเต็มที

พูดจบวิญญาณของโอสถบรรพกาลก็ค่อยๆ จางหายไปกลับคืนสู่ห้วงการเวียนว่ายตายเกิด

ภาพตรงหน้านี้มันทำให้เย่หยวนเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา

เพราะด้วยจิตศักดิ์สิทธิ์ที่ขึ้นมาถึงระดับวิญญาณโกลาหลดั่งเดิมเย่หยวนย่อมจะสัมผัสได้ว่าการหายไปนี้มันไม่ได้หายไปอย่างแท้จริง แต่มันเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพจากวิญญาณกลายเป็นพลังงานรูปแบบหนึ่งก่อนจะคืนกลับสู่โลก

นี่มันเป็นความรู้สึกที่คล้ายกับเรื่องที่เกิดขึ้นหน้าหลุมศพพ่อของเขาอย่างมาก

เพียงแค่ว่าครั้งนี้ตัวเย่หยวนสัมผัสถึงมันได้ชัดเจนกว่า

ที่สำคัญไปกว่านั้นเย่หยวนยังรู้สึกได้ว่ามิใช่ทุกคนที่จะกลับคืนสู่ฟ้าดินได้

มันต้องเป็นคนที่จัดการเรื่องราวคาใจละทิ้งห่วงใดๆ บนโลกหล้าแล้วเท่านั้นที่วิญญาณของคนผู้นั้นจะแปลงสภาพคืนสู่ฟ้าดิน

เหมือนตอนของจี้เฉินหยังเองนั้นเขาก็กลับสู่ฟ้าดินหลังจากที่เย่หยวนจัดการจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางลง

คิดมาถึงตรงนี้ดวงตาของเย่หยวนก็เปล่งประกายออกมา

“ท่านพ่อ หากโลกนี้มันมีการเวียนว่ายตายเกิดจริงแล้วต่อให้ลูกต้องทำทุกวิถีทางลูกก็จะพาท่านกลับมาให้ได้! ท่านและท่านแม่นั้นต้องพบเจอความยากลำบากถึงตายเพราะตัวข้า ข้าต้องนำพาท่านกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขให้ได้!” เย่หยวนกล่าว

ตุบ!

“พ่อ!” ฉางเล่อไม่อาจอดทนรับไหวต้องคุกเข่าลงก่อนจะร้องร่ำด้วยความเจ็บปวดหัวใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ