เย่หยวนที่ยืนอยู่ไม่ไกลเองก็ยังต้องเบิกตากว้างขึ้นมาด้วยความตกตะลึง
คนทั้งสองนี้แท้จริงกลับเป็นพ่อลูกกัน!
“หุบปาก! ข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก! ข้าไม่มีทางเชื่อคำพูดใดๆ ของเจ้า!” ฉางเล่อนั้นร้องลั่นพยายามขัดคำของโอสถบรรพกาล
เพียงแค่ว่าดูจากท่าทางนั้นแล้ว ตัวเขาคงเชื่อไปสุดใจเป็นที่เรียบร้อย
โอสถบรรพกาลนั้นไม่คิดหยุดลงและกล่าวขึ้นต่อ “พรสวรรค์ของเจ้านั้นมันสูงล้ำแต่ความทะเยอทะยานของเจ้านั้นมันก็เช่นกัน! ในตอนแรกที่เฒ่าผู้นี้รับเข้ามาในฐานะคนรับใช้นั้นก็เพราะอยากจะสั่งสอนดัดนิสัยของเจ้าเสียก่อน เพียงแค่ว่าข้าก็ไม่นึกวันว่าเจ้านั้นจะบิดเบี้ยวได้มากมายจนเริ่มเดินเข้าสู่เต๋าแห่งการกลืนกิน เจ้านั้นเดินทางไปหาหวังปานที่เมืองสันติมั่นจนสุดท้ายก็ปลุกเต๋าแห่งการกลืนกินให้ตื่นขึ้นมาได้ ตั้งแต่นั้นมาเจ้าก็เริ่มได้เดินทางบนเต๋านั้น…”
“เฒ่าผู้นี้เดิมทีคิดอยากจะเปิดเผยความจริงต่อเจ้านั้นแต่ด้วยการที่เจ้ากลืนกินเต๋าของคนอื่นไปเช่นนั้นมันทำให้จิตใจของเจ้าเริ่มจะไม่มั่นคง หากข้าคืนความเป็นพ่อลูกต่อเจ้าไปมันอาจจะยิ่งทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นมา เฒ่าผู้นี้ทิ้งเจ้าแม่ลูกไปเพื่อจะแสวงยอดเต๋า สิ่งที่เฒ่าผู้นี้ติดค้างเจ้าไว้นั้นข้าจึงคิดจะช่วยให้เจ้าได้บรรลุระดับโอสถเต๋าขึ้นบ้างหลังจากที่ข้าทำการเปิดทางได้แล้ว น่าเสียดายที่มันยังขาดไปอีกแค่ก้าวเดียว!”
“วินาทีที่เจ้าลงมือต่อเฒ่าผู้นี้มันทำให้ตัวเฒ่าผู้นี้ลังเลไม่น้อย แต่สุดท้ายก็ยังยอมให้เจ้าไป ด้วยพรสวรรค์ของเจ้านั้นหลังจากกลืนเต๋าของเฒ่าผู้นี้ไปมันก็คงส่งเจ้าขึ้นไปเกือบถึงระดับโอสถเต๋าแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่นึกว่าเจ้าจะมาพลาดตกม้าตายลงเช่นนี้”
พูดมาถึงตรงนี้ตัวโอสถบรรพกาลก็หันมามองหน้าเย่หยวน
น่าเสียดายที่ฉางเล่อนั้นเลือกจะกินเย่หยวนเป็นคนสุดท้าย
นักบุญฟ้าครามผู้เป็นนิรันดร์!
แม้ต้องเผชิญความเย้ายั่วของยอดเต๋ามากมายนี้เย่หยวนก็ยังเลือกที่จะปลดปล่อยพวกเขาไป
จิตใจเช่นนี้มันคงหาไม่ได้อีกแล้วในโลกหล้าแห่งนักยุทธนี้!
ฉางเล่อเลือกเป้าหมายผิดไปมหัน!
ตัวฉางเล่อเองก็ได้แต่นั่งนิ่งรับฟังความจริงอย่างไม่อาจเถียงใดๆ อีก
เพราะเวลานี้ต่อให้จะดื้อด้านแค่ไหนเขาก็รู้ได้ว่าโอสถบรรพกาลคงไม่ได้หลอกลวงเขาแล้ว
แต่ว่าความจริงนี้มันกลับทำลายชีวิตทั้งหมดของเขาลงไปสิ้น
คนที่เขาแค้นมานานปี คนที่เขาฆ่าสังหารลงด้วยมือนี้มันกลับกลายเป็นคนที่รักเขาอย่างมากล้ำที่สุด
และเขานั้นกลับสังหารคนที่รักตนเองมากที่สุดลง!
มันช่างเป็นความจริงที่โหดร้าย
ในเวลานี้ร่างวิญญาณของโอสถบรรพกาลนั้นมันค่อยๆ จางหายลงไปจนแทบจะกลืนไปกับอากาศรอบข้าง
ด้วยการปลดปล่อยของเย่หยวนนั้นจิตวิญญาณของเขามันจึงถูกล้างและได้กลับคืนสู่วัฏสงสาร
เวลานั้นไม่เคยคอยท่าใคร ต่อให้เขาอยากจะคืนดีกับจักรพรรดิเทพสวรรค์ฉางเล่อสักแค่ไหนมันก็ไม่มีเวลาให้พูดคุยกันมากมายนัก
เขามองดูที่ตัวฉางเล่อก่อนจะกล่าวขึ้นอีกครั้ง “เจ้าเด็กโง่ หากชาติหน้ามีจริงแล้วข้าก็หวังว่าเราจะได้พบเจอกันอีกครา!”
วิญญาณสุดท้ายของโอสถบรรพกาลจางหายไป ยอดเต๋าพังทลายจบใกล้จบสิ้นชีวิตนี้ลงเต็มที
พูดจบวิญญาณของโอสถบรรพกาลก็ค่อยๆ จางหายไปกลับคืนสู่ห้วงการเวียนว่ายตายเกิด
ภาพตรงหน้านี้มันทำให้เย่หยวนเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา
เพราะด้วยจิตศักดิ์สิทธิ์ที่ขึ้นมาถึงระดับวิญญาณโกลาหลดั่งเดิมเย่หยวนย่อมจะสัมผัสได้ว่าการหายไปนี้มันไม่ได้หายไปอย่างแท้จริง แต่มันเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพจากวิญญาณกลายเป็นพลังงานรูปแบบหนึ่งก่อนจะคืนกลับสู่โลก
นี่มันเป็นความรู้สึกที่คล้ายกับเรื่องที่เกิดขึ้นหน้าหลุมศพพ่อของเขาอย่างมาก
เพียงแค่ว่าครั้งนี้ตัวเย่หยวนสัมผัสถึงมันได้ชัดเจนกว่า
ที่สำคัญไปกว่านั้นเย่หยวนยังรู้สึกได้ว่ามิใช่ทุกคนที่จะกลับคืนสู่ฟ้าดินได้
มันต้องเป็นคนที่จัดการเรื่องราวคาใจละทิ้งห่วงใดๆ บนโลกหล้าแล้วเท่านั้นที่วิญญาณของคนผู้นั้นจะแปลงสภาพคืนสู่ฟ้าดิน
เหมือนตอนของจี้เฉินหยังเองนั้นเขาก็กลับสู่ฟ้าดินหลังจากที่เย่หยวนจัดการจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางลง
คิดมาถึงตรงนี้ดวงตาของเย่หยวนก็เปล่งประกายออกมา
“ท่านพ่อ หากโลกนี้มันมีการเวียนว่ายตายเกิดจริงแล้วต่อให้ลูกต้องทำทุกวิถีทางลูกก็จะพาท่านกลับมาให้ได้! ท่านและท่านแม่นั้นต้องพบเจอความยากลำบากถึงตายเพราะตัวข้า ข้าต้องนำพาท่านกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขให้ได้!” เย่หยวนกล่าว
ตุบ!
“พ่อ!” ฉางเล่อไม่อาจอดทนรับไหวต้องคุกเข่าลงก่อนจะร้องร่ำด้วยความเจ็บปวดหัวใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...