“ไม่! มันยังไม่ใช่! หรือว่าวิธีที่เราศึกษามันนี้จะผิดพลาด?” เต๋าบรรพกาลไฟกล่าวขึ้นมาด้วยความกังวล
เต๋าบรรพกาลทำลายล้างขมวดคิ้วกล่าวเสริม “เป็นไปไม่ได้! หากวัดกันที่ความเข้าใจต่อยอดเต๋าแล้วบนโลกนี้มันจะยังมีใครเหนือกว่าเราไปได้?”
เต๋าบรรพกาลสายฟ้ากล่าวขึ้นตาม “มันแปลกจริง! เย่หยวนนั้นใช้วิธีการใดกันแน่ในการศึกษาเขาน้อยแห่งถงเทียน? หรือว่าวิธีการเข้าหาของเขานั้นมันจะแตกต่างจากพวกเราไป?”
เต๋าบรรพกาลทั้งหลายนั้นต่างกล่าวพูดถึงความแปลกประหลาดและเจ็บใจ
พวกเขานั้นศึกษาเขาน้อยแห่งถงเทียนมายาวนานเกือบสามปีแล้ว
แน่นอนว่าพลังฝีมือของพวกเขามันย่อมจะพัฒนาไปอย่างมากล้ำ
เพียงแค่ว่ามันยังไม่ถึงระดับที่พวกเขาหวัง
การศึกษาไปตามแบบนี้มันย่อมจะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งและทำให้วรยุทธบ่มเพาะสมบูรณ์ขึ้นได้
แต่ว่ามันกลับไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของสิ่งที่จะทำไปสู่การหลุดพ้น!
หลายปีมานี้พวกเขาทั้งหลายต่างแลกเปลี่ยนสิ่งที่ได้เรียนรู้และเข้าใจกันอย่างไม่มีหยุดพัก
แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันกลับไม่เป็นไปดั่งหวัง
เป้าหมายของพวกเขานั้นมันคือการหลุดพ้นจากโซ่ตรวนของเต๋าบรรพกาล
เพียงแค่ว่าไม่ว่าจะศึกษาและบ่มเพาะอย่างไรมันก็ยังคงปิดกั้นพวกเขาไว้ไม่เปิดช่องว่างให้ได้ผ่านไป
ความรู้สึกนี้มันคือสิ่งที่เรียกว่าความสิ้นหวัง
พวกเขานั้นพยายามเอาวรยุทธบ่มเพาะของตัวเองยกขึ้นมาเทียบกับวรยุทธบ่มเพาะและวิชายุทธของเย่หยวน
แต่ยิ่งเทียบกันไปเท่าใดพวกเขาก็ยิ่งผิดหวังมากขึ้นเท่านั้น
กำลังของพวกเขานั้นมันไม่อาจจะเอาไปเทียบเคียงกับพลังของเย่หยวนได้แม้แต่น้อย!
จนสุดท้ายพวกเขาก็มาถึงจุดที่ยอมรับว่า… เย่หยวนนั้นแตกต่างไปจากพวกตน!
แต่ไม่ว่าจะพยายามคิดเท่าไหร่พวกเขานั้นก็ไม่อาจจะเข้าใจได้ว่ามันต่างอย่างไรและต่างที่ตรงไหน
หลินเฉาเถียนนั้นเงียบมาตลอดอย่างไม่เปิดเผยความคิดตนออกมา
พวกเขาทั้งเก้านั้นคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดของมหาพิภพถงเทียนและก็เป็นเก้าคนที่เข้าใจเต๋าสวรรค์ได้มากที่สุด
หากให้พูดตามสามัญสำนึกแล้วพวกเขาที่ได้สมบัติล้ำค่านี้มามันย่อมจะเข้าใจและพัฒนาได้อย่างที่คนอื่นๆ ไม่อาจเห็นฝุ่น
แต่น่าเสียดายที่พวกเขาก็ยังไม่อาจจะเทียบเคียงเย่หยวนได้
ไม่ว่าจะศึกษาวิเคราะห์กันไปสักเท่าใด มันก็ไม่อาจจะเทียบเคียง!
เต๋าบรรพกาลไฟนั้นเห็นว่าหลินเฉาเถียนเงียบปากมาตลอดจึงอดถามขึ้นไม่ได้ “พี่เฉาเถียน ท่านลองพูดอะไรมาหน่อยสิ!”
เป็นเวลานั้นเองที่หลินเฉาเถียนได้แสดงความเห็นออกมา “ข้าว่าวิธีการศึกษาของเรานั้นมันผิด!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวคนทั้งหลายก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น
“อ่า? เช่นนั้นแล้วจะศึกษามันอย่างไรเล่า?” เต๋าบรรพกาลไฟถามขึ้นมาด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“ไปที่เขาแห่งถงเทียนกัน!” หลินเฉาเถียนบอก
…
พริบตาเดียวมันก็ผ่านไปอีกสามปี เวลานี้ ณ ความสูงกว่าล้านกิโลเมตรบนเขาแห่งถงเทียนเหล่าเต๋าบรรพกาลทั้งเก้าต่างต้องนั่งลงกุมขมับ
พวกเขาทั้งหลายนั้นรู้สึกได้ถึงความพ่ายแพ้อย่างไม่อาจห้าม
“ให้ตาย! ปัญหามันอยู่ที่ใดกันแน่?”
“เขาน้อยแห่งถงเทียนและเขาแห่งถงเทียนนั้นก็ยังคงส่งคลื่นพลังงานติดต่อกันตลอดแต่ทำไมเราถึงยังไม่อาจจะหาทางบรรลุหลุดพ้นขึ้นไปได้กัน?”
“ให้ตายสิ! บรรพกาลผู้นี้ได้ยินเสียงหัวเราะของเย่หยวนมันลอยมาตามลมแล้ว!”
…
สีหน้าของเต๋าบรรพกาลทั้งหลายนั้นมันดูไม่ได้อย่างยิ่ง
รอยยิ้มเย้ยหยันของเย่หยวนในครั้งก่อนมันได้กลับมาตามหลอกหลอนพวกเขาทั้งหลาย
เย่หยวนนั้นเคยบอกมาก่อนแล้วว่าต่อให้จะเอาสมบัติไปมันก็คงไร้ค่าใด!
พวกเขาทั้งหลายจะไม่อาจทำความเข้าใจมันได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...