เมื่อสามบรรพบุรุษลงมือพร้อมๆ กันนั้นพลังที่แสดงออกมามันย่อมจะแทบฉีกกระชากฟ้าดิน
ภาพของสงครามสิ้นโลกในครั้งก่อนนั้นมันได้ปรากฏให้คนทั้งหลายเห็นชัดเจนแก่สายตา
ที่สำคัญไปกว่านั้นฝีมือของปั่วยี่นั้นยังแข็งแกร่งจนเรียกได้ว่าเป็นรองแค่เทียนชิงเท่านั้น!
การที่เขาเข้าร่วมศึกมันย่อมจะเปลี่ยนกระแสการต่อสู้ไปทันที
ต่อให้จะมีวิญญาณมังกรฟ้าอยู่ถึงแปดตนแล้วในตอนนี้แต่มันก็ยังถูกสามบรรพบุรุษนี้รับไว้ได้สิ้น
เมื่อพวกเขาทั้งสามใช้วรยุทธแท้เต๋าสวรรค์ออกมาพร้อมๆ กันนั้นมันย่อมจะผลักดันทำให้วิญญาณมังกรฟ้าทั้งหลายไม่อาจเข้าใกล้ได้
ในเวลานี้กำลังฝีมือของบรรพบุรุษต้นตระกูลเผ่าเทวามันได้แสดงออกมาอย่างเด่นชัด
แต่ว่าฝั่งที่น่าตกตะลึงกว่านั้นมันคือเย่หยวน!
เต๋าบรรพกาลไฟนั้นเปิดปากอ้าค้างออกมา “นี่มัน… จะไม่บ้าเกินไปหรือ? เขานั้นกลับปะทะกับสามบรรพบุรุษได้ด้วยตัวคนเดียว? ทั้งนี่เขายังไม่ทันขึ้นถึงระดับของกฎด้วยซ้ำ หากวันหน้าเขาผสานกฎอันเหนือล้ำกอปรกับพลังกายที่มหาศาลนี้ จะยังมีใครหยุดยั้งไว้ได้อีกกัน?”
หลินเฉาเถียนนั้นขมวดคิ้วแน่น “สำหรับพวกเราแล้วมันเป็นหายนะ! มิใช่เรื่องน่ายินดีเลย!”
หลินเฉาเถียนนั้นหรี่ตาลงด้วยความรู้สึกสับสนไม่รู้ต้องตื่นเต้นดีใจหรือกังวลหนักดี
เพราะการที่เย่หยวนเป็นภัยต่อเผ่าเทวาได้เช่นนี้มันย่อมเป็นเรื่องดีแก่ทุกผู้คน
แต่ตัวเขาเองก็รู้ว่าความแค้นที่พวกเขามีต่อเย่หยวนมันลึกล้ำปานใด!
ยิ่งเย่หยวนแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าใด มันก็ยิ่งทำให้พวกเขาหลับได้ไม่เต็มตาเท่านั้น
แต่ชาวมนุษย์คนอื่นๆ ย่อมไม่ต้องกังวลเรื่องนี้
พวกเขานั้นแทบจะลุกขึ้นมาเต้นรำด้วยความยินดี ได้เห็นความหวังใหม่ในชีวิตอีกครั้ง!
เย่หยวนนั้นดึงพวกเขากลับขึ้นมาจากความสิ้นหวัง
“ท่านนักบุญฟ้าครามจงเจริญ!”
“ท่านนักบุญฟ้าครามเก่งกาจล้ำ ต้านทานเผ่าเทวาด้วยตัวคนเดียว!”
“ฮ่าๆๆ… ท่านนักบุญฟ้าครามนั้นทำเอาข้ากังวลเสียเปล่า! ด้วยกำลังของท่านนี้เผ่าพันธุ์ของเราจะยังพ่ายแพ้เผ่าเทวาใดๆ อีก?”
…
ชื่อเสียงของเย่หยวนนั้นมันสูงล้ำฟ้ามาเป็นทุนเดิม
เวลานี้เมื่อได้แสดงฝีมือเหนือล้ำออกมาต่อสู้สามบรรพบุรุษด้วยตัวคนเดียวนั้น มันย่อมทำให้ความชื่นชมของคนทั้งหลายพุ่งทะยานล้ำไปกว่าเก่าก่อน
เหล่ายอดฝีมือชาวมนุษย์ทั้งหลายนั้นไม่ว่าจะเป็นชายหญิงแก่หนุ่มใดๆ ต่างมองดูเย่หยวนราวกับเขาเป็นพระผู้เป็นเจ้าผู้ลงมาโปรด!
เวลานี้เย่หยวนนั้นมิใช่แค่คนที่พวกเขานับถือ แต่กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความน่านับถือไป!
พวกเขานั้นเชื่อมั่นสุดใจว่าเย่หยวนจะพาพวกเขาทั้งหลายสู่ชัยชนะ!
แต่ในเวลานั้นเองตัวเย่หยวนก็มีเหงื่อไหลลงมาเต็มหน้า
การเชิญวิญญาณมังกรฟ้าทั้งแปดออกมานี้มันมิใช่เรื่องง่ายๆ!
แต่มือของเขานั้นก็ยังไม่หยุดลง!
ได้เห็นเช่นนั้นเทียนชิงก็ต้องเบิกตากว้างร้องลั่นขึ้นมา “ให้ตายสิ เจ้าเด็กคนนี้มันคงไม่คิดจะเรียกเก้ามังกรจุติโลกออกมาจนครบใช่ไหม?”
เสียงของเขายังไม่ทันจางหายมิติมันก็เกิดการสั่นไหวขึ้น
หัวของมังกรทองตัวหนึ่งค่อยๆ โผล่ออกมา
และราวกับว่ามันสัมผัสได้ถึงการปรากฏตัวนี้วิญญาณมังกรฟ้าที่เหลือทั้งแปดนั้นมันกลับมีพลังต่อสู้เพิ่มพูนขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
หลงยี่นั้นในฐานะผู้นำเผ่ามังกรต้องลุกขึ้นกระโดดอย่างตกตะลึง
“วิญญาณมังกรที่เก้า! นี่มันเป็นภาพที่ไม่อาจเอาอะไรมาเทียบเคียงได้ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน! มังกรทั้งเก้าปรากฏขึ้นมาพร้อมๆ กันนั้นมันไร้เทียมทานในฟ้าดิน! หากวิญญาณมังกรที่เก้ามาถึงจริงๆ แล้วเทียนชิงนั้นมันจะยังมีค่าใด? เผ่ามังกรของข้านี้จะเป็นผู้กำราบเผ่าเทวาเอง!” หลงยี่ร้องลั่นขึ้นด้วยร่างกายที่สั่นเทา
เพราะภาพนี้มันเป็นอะไรที่กระตุ้นลึกลงไปถึงจิตวิญญาณ
แต่ในเวลานั้นเองสีหน้าของเย่หยวนมันก็ซีดขาวลงเรื่อยๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อน
วิญญาณมังกรที่เก้านี้มันไม่เหมือนตนก่อนๆ เพราะมันค่อยๆ โผล่ออกมาจากห้วงมิติแค่ทีละน้อย
แต่การค่อยๆ โผล่ออกมาทีละน้อยนั้นมันกลับค่อยๆ เพิ่มพลังให้แก่วิญญาณมังกรฟ้าทั้งแปดไปอย่างมากมายมหาศาล!
กำลังของพวกมันนั้นพุ่งทะยานล้ำ!
เดิมทีบรรพบุรุษทั้งสามนั้นร่วมมือกันกดดันวิญญาณมังกรฟ้าทั้งแปดไว้ได้
แต่เวลานี้ทั้งสองฝ่ายกลับเริ่มมาเสมอกันแล้ว!
เทียนชิงนั้นหรี่ตาลงมองด้วยความสั่นสะท้านสุดใจ
มองดูเช่นนี้แล้วหากวิญญาณมังกรฟ้าตนที่เก้าหลุดออกมาจนหมดนั้นมันคงเอาชนะได้แม้แต่ตัวเขา
เขานั้นสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าวออกมาด้วยใบหน้าเหยเห “เจ้าเด็กคนนี้มันไม่รู้จักคำว่าหยุดจริงๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...