“ตาย! ตาย! ตายด้วยมือของบรรพกาลผู้นี้ไป! เจ้ามารร้าย เจ้ากลับกล้ามาหลอกลวงบรรพกาลผู้นี้! บรรพกาลผู้นี้อยากจะเห็นว่าเจ้าจะตายอย่างไร!”
หลินเฉาเถียนนั้นมีสภาพราวคนบ้าคลั่ง ฝ่ามือที่กระแทกลงใส่ร่างของเย่หยวนนั้นมันต่อเนื่องจนแทบมองตามไม่ทัน
แต่ละฝ่ามือนั้นมันล้วนหนักหน่วงกว่าฝ่ามือก่อนหน้าไปมาก ต่อเนื่องอย่างไม่มีหยุดยั้ง
พลังกฎธาตุไม้นั้นมันเป็นพลังที่เปี่ยมล้นไปด้วยชีวิตเป็นทุนเดิม สามารถยืดยาวทอดกว้างไกล
พลังฝ่ามือของเขานี้มันจึงเหมือนเป็นท่อนไม้ใหญ่ที่กระแทกลงบนร่างของเย่หยวนซ้ำๆ
แต่เย่หยวนนั้นก็ยังไม่ได้ตอบโต้ใดๆ กลับไป กัดฟันสู้อย่างอดทน
เวลานี้อวัยวะภายในของเขานั้นมันแทบเรียกได้ว่าแตกสลายลงสิ้น
ร่างกายของเขาที่แข็งแกร่งดุจเหล็กกล้านั้นมันก็เริ่มแตกสลายลงเรื่อยๆ
แต่เขานั้นก็ยังไม่คิดตอบโต้!
พวกผางเจิ้นทั้งสามนั้นต่างมีน้ำตาไหลนองหน้าไม่กล้าแม้แต่จะมองดู
“ให้ตาย! ให้ตาย! ให้ตาย! นายท่าน… สู้มันเถอะ! ข้าขอร้องล่ะ สู้มันเสียเถอะ!”
ที่ด้านข้างนั้นจางเจิ้นเองก็ได้แต่ยืนหน้านิ่ง
เพราะเวลานี้แม้จะเป็นเขาเองก็ยังอดอิจฉาพวกผางเจิ้นทั้งสามไม่ได้
มีพี่น้องสหายเช่นนี้ มันยังจะต้องการสิ่งใดอีก?
น่าเสียดายที่ตัวเขานั้นย่อมจะไม่มีทางไปเป็นพี่น้องสหายกับเย่หยวนได้!
“คุกเข่าลง!”
วินาทีนั้นหลินเฉาเถียนได้ยกเท้าขึ้นเตะขาของเย่หยวน
เสียงแกรกดังขึ้นมาแสดงชัดเจนว่ากระดูกหน้าแข้งของเย่หยวนมันได้หักลงแล้ว
แต่ว่าเขานั้นกลับไม่คุกเข่าลง!
สีหน้าของเย่หยวนมันขาวซีดไร้สีเลือดใดเพราะความเจ็บปวดแต่เขากลับไม่ยอมคุกเข่าลง!
“ถุย!”
เย่หยวนถ่มเลือดออกมาด้วยพลังของเต๋าดาบจนพุ่งไปติดหน้าหลินเฉาเถียนอย่างไม่อาจหลบเลี่ยง
“หลินเฉาเถียน เจ้าได้ระบายออกมาแล้ว! แต่อย่าได้คิดจะทำอะไรล้ำเส้น! คิดให้เย่ผู้นี้คุกเข่าลงนั้น เจ้ามันยังไม่มีค่าพอ!” คำพูดของเย่หยวนนั้นกลับแสนเย็นเยือก
หลินเฉาเถียนนั้นรีบเช็ดหน้าก่อนจะตะโกนลั่นกลับไป “หากบรรพกาลผู้นี้คิดจะให้เจ้าคุกเข่าเล่า?”
“เช่นนั้น… ข้าก็จะขอเสี่ยงชีวิตพวกเขาทั้งสามตัดหัวเจ้าลงเสียตรงนี้!” คำพูดของเย่หยวนนั้นมันเย็นเยือกจนเสียดกระดูก
หลินเฉาเถียนผงะหลังกลับไป จิตใจของเขาสุดแสนรุ่มร้อนแต่กลับไม่พูดกล่าวออกมา
เขานั้นเข้าใจเย่หยวนดีว่าเย่หยวนหยิ่งยโสแค่ไหน!
ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์เช่นใดมันก็ไม่มีทางที่เขาคนนี้จะก้มหัวให้ศัตรู!
คิดให้เย่หยวนคุกเข่าลงนั้นมันเป็นเรื่องที่จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้
เขานั้นไม่สงสัยในคำพูดของเย่หยวนแม้แต่น้อย
เพราะว่าเย่หยวนจะทำจริง!
คำพูดเมื่อครู่เขานั้นแค่กล่าวออกมาด้วยอารมณ์โกรธแค้นจากความอับอาย
เวลานี้เมื่อใจเย็นลงแล้วเขาก็ได้พบว่าเรื่องราวในตอนนี้มันกลับกลายเป็นเย่หยวนที่คุมเกมไว้
การขู่เมื่อสักครู่มันทำให้ตัวหลินเฉาเถียนเดือดดาลด้วยความคับแค้น
แต่เวลานี้เขาเริ่มที่จะสงบลงบ้างแล้ว!
เย่หยวนนั้นเป็นคนที่ฆ่าได้หยามไม่ได้!
“หึ! แล้วเจ้าคิดหรือยังว่าจะเลือกใคร?” หลินเฉาเถียนถามขึ้นมา
นี่มันเท่ากับว่าเขานั้นยอมสงบศึกลง!
จางเจิ้นได้แต่มองดูเรื่องราวด้วยปากอ้าค้าง เย่หยวนนั้นกำลังจะตายลงแล้วแท้ๆ แต่หลินเฉาเถียนนั้นกลับหยุดมือ?
แค่คำขู่นั้นมันก็มากพอที่จะหยุดมือแล้ว?
มีหรือที่เขาจะเข้าใจว่าเย่หยวนนั้นเป็นอมตะ!
ต่อให้ร่างกายจะแหลกสลายลงตรงนี้ มันก็ยังมิใช่ความตายของเย่หยวน
เย่หยวนนั้นไม่อาจจะตายได้!
“ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะช่วยพวกเขาทั้งสอง!” เย่หยวนชี้นิ้วไปหาจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้และว่านเจิ้น
ครั้งนี้เขาไม่มีท่าทีลังเลอีก
ว่านเจิ้นนั้นสั่นสะท้านไปทั้งร่างกายก่อนจะร้องลั่นขึ้นอย่างไม่พอใจ “นายท่าน ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากท่าน!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้เองก็กล่าวขึ้นมาสุดเสียง “เย่หยวน จักรพรรดิผู้นี้ไม่ต้องการรับความช่วยเหลือใดๆ! เจ้าช่วยพวกเขา!”
แต่หลินเฉาเถียนนั้นกลับหัวเราะลั่นขึ้นเมื่อได้ยิน “ฮ่าๆๆ… พี่น้องสหายใด! เจ้าหนูผางเจิ้น เห็นหรือไม่? ในสายตาของมันนั้นเจ้าช่างไร้ค่าใด!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...