เมื่อเย่หยวนลงมือสังหารนั้นคนทั้งหลายก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมาอย่างตกตะลึง
แม้แต่เหล่าเต๋าบรรพกาลเผ่าเทวาทั้งห้าเองก็ยังต้องผงะไปเช่นกัน
เพราะเรื่องราวมันกลับพลิกผันเกินคาด
พวกเขานั้นคิดว่าคนทั้งสองอาจจะปะทะกันแต่ไม่นึกฝันว่าเย่หยวนกลับจะสังหารเต๋าบรรพกาลทำลายล้างลงด้วยดาบเดียวได้เช่นนั้น
“นี่มัน… ท่านนักบุญฟ้าครามทำอะไรของท่านกัน?”
“สังหารเต๋าบรรพกาลทำลายล้างลงตอนนี้มันจะไม่เท่ากับว่าเป็นการตัดแขนตนเองก่อนออกศึกหรือ?”
“เฮ้อ นิสัยของท่านนักบุญฟ้าครามนั้นไม่เคยยอมใคร! เราจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง?”
…
ความรู้สึกสิ้นหวังมันปรากฏขึ้นมาในหมู่คน
กำลังของเผ่าเทวานั้นเดิมทีมันก็เหมือนล้ำกว่าเผ่ามนุษย์ไปมากมายอย่างมหาศาลแล้ว เวลานี้มันกลับยังมียอดคนที่ทั้งเจ็บทั้งตายอีก
สุดท้ายเย่หยวนนั้นก็ได้หักแขนตนลงจริงๆ
แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่คิดสนใจและหันไปหาเต๋าบรรพกาลสายฟ้าและเต๋าบรรพกาลวายุก่อนจะถามขึ้น “พวกเจ้าอยากจะได้ผลึกแห่งกฎเหมือนมันไหม?”
“ม-ไม่อยากได้!” คนทั้งสองกล่าวตอบไปทันที
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ดีแล้วที่ไม่อยาก! จำไว้ที่ข้าไม่สังหารพวกเจ้านั้นมันเพราะพวกเจ้าไม่มีค่าพอให้ต้องสังหาร ผางเทียน เจ้านั้นจงไปขอบคุณผางเจิ้นมันเถอะ จั่วเหยียน เจ้านั้นครั้งหนึ่งเคยออกไปเสี่ยงชีวิตปะทะหยุดยั้งการสังหารหมู่ของเทียนชิง ครั้งนี้ข้าจะปล่อยพวกเจ้าไปแต่มันจะไม่มีครั้งหน้าอีกแน่”
เวลานี้ในดวงตาของคนทั้งสองนั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยความหวาดกลัว
การกดดันที่เย่หยวนทำให้พวกเขารู้สึกนี้มันเหนือล้ำจนเกินกว่าจะรับไหว
พูดจบเย่หยวนนั้นก็หันหน้าเดินจากคนทั้งสองไปอย่างนั้น
จนเย่หยวนเดินกลับออกไปนั้นเองที่เต๋าบรรพกาลสายฟ้าผางเทียนและเต๋าบรรพกาลวายุจั่วเหยียนถึงค่อยถอนใจยาวออกมาอย่างโล่งอก
พวกเขานั้นได้พบว่าร่างกายของตนนั้นมันมีเหงื่อเย็นเหยียบไหลทั่ว
คนทั้งสองได้แต่หันมามองหน้ากันด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
การตายลงของเต๋าบรรพกาลทำลายล้างนั้นมันทำให้พวกเขารู้สึกหกหู่ไม่น้อย
เพราะจากยอดเต๋าบรรพกาลทั้งเก้านั้นมันเวลานี้มันเหลือเพียงแค่พวกเขาสองคนแล้ว!
พวกเขานั้นได้เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่ายุคสมัยของตนมันได้จบลงแล้ว
เย่หยวนนั้นเดินกลับไปอยู่กลางวงล้อมของคนทั้งห้าก่อนจะได้ยินเทียนชิงขมวดคิ้วกล่าวขึ้นมา “เจ้าคิดจะปะทะพวกเราทั้งห้าด้วยตัวคนเดียวจริง?”
เย่หยวนจึงตอบกลับไป “ทำไม? ข้าทำไม่ได้หรือ?”
เทียนชิงจึงตอบกลับไป “ย่อมได้แน่! นี่มันมิใช่การประลองใดๆ แต่เป็นสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์! หึ ความโอหังหลงตัวของเจ้านี่แหละที่บรรพบุรุษผู้นี้ต้องการจะเห็น!”
ท่าทางสุดแสนมั่นใจนี้ของเย่หยวนแม้ว่ามันจะทำให้เขากังวลไม่น้อยแต่เขาก็ยังมั่นใจอย่างมากในฝีมือของเต๋าบรรพกาลทั้งห้า
แม้ว่าการผสานสามแนวคิดมันจะเป็นเรื่องน่าปวดหัวแต่มันก็ยังไม่มีทางจะเทียบเคียงกับพวกเขาทั้งห้าได้แน่!
เย่หยวนจึงตอบกลับไป “เช่นนั้นก็เริ่มเถอะ!”
พูดจบเขาก็พุ่งตัวเข้าโจมตีต่อยหมัดใส่เทียนชิง
เทียนชิงนั้นผงะไปทันทีเพราะหมัดนี้มันกลับมีความรู้สึกคมกริบเหมือนเป็นดาบ
“เก่งจริง! แต่เจ้าดูนี่!”
เทียนชิงเองก็ตอบสนองไปอย่างรวดเร็วเช่นกันเขานั้นร้องลั่นขึ้นมาก่อนจะต่อยมือทั้งสองออกเป็นหมัดไปด้านหน้าเหมือนมังกรที่กำลังกลับลงทะเล
หนึ่งนั้นมีปราณดาบที่เหนือสวรรค์ส่วนอีกหนึ่งนั้นมีหมัดที่หนักแน่นกดดันทะเลทั้งสี่!
พริบตาเดียวคนทั้งสองก็ปะทะกัน
ตูม!
หลังจากเสียงดังนั้นร่างของเทียนชิงก็ปลิวออกมาในทันที
ส่วนเย่หยวนนั้นยังคงยืนอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไหว!
การโจมตีอันรวดเร็วนี้มันกลับเป็นฝ่ายเย่หยวนที่ชนะขาดลอยไป!
ในเวลาเดียวกันนี้เต๋าบรรพกาลเผ่าเทวาทั้งสี่เองก็เริ่มลงมือออกมา
เยวี่ยเมิ่งลี่นั้นชี้ดัชนีออกมาใส่จุดตายของเย่หยวนอย่างไม่ยั้ง
กำลังของนางนั้นมันไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าการโจมตีของเทียนชิงเลย
ภายใต้การช่วยเหลือประสานงานของคนทั้งสามนั้นมิติรอบๆ มันก็แทบจะแตกสลายลง!
เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจมากมาย เขาเพียงแค่ใช้เอกภพออกมารับการโจมตีของคนทั้งสี่นั้นไว้
ต่างฝ่ายนั้นต่างตกเข้าสู่ห้วงการต่อสู้อันดุเดือด
เทียนชิงนั้นรู้สึกเหมือนอวัยวะภายในมันพลิกกลับจนอดไม่ได้ที่จะตื่นตะลึงอย่างมาก แต่ก็ยังเลือกจะพุ่งตัวกลับไป
เป็นตอนนี้ที่เขาได้ปะทะกับเย่หยวนตรงๆ นี่เองที่เขาได้เข้าใจว่าเย่หยวนผู้ผสานมิติ เวลาและดาบเข้าด้วยกันนั้นมันแข็งแกร่งแค่ไหน!
พร้อมๆ กันนั้นเขาก็รู้สึกโล่งใจที่เผ่าเทวาได้มียอดฝีมือสิบลายขึ้นมาอีกคน
เพราะหากมันมีแค่ตัวเขาเพียงคนเดียวแล้วเขาย่อมจะไม่อาจเอาชนะเย่หยวนได้แน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...