จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2511

สรุปบท ตอนที่ 2511 จากลา: จอมเทพโอสถ

ตอน ตอนที่ 2511 จากลา จาก จอมเทพโอสถ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 2511 จากลา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตูม!

ในที่สุดนั้นรูปปั้นทั้งแปดก็ไม่อาจจะทนรับพลังดาบที่บ้าคลั่งนี้ไว้ได้ไหมจนต้องแตกสลายลงกลายเป็นเสี่ยงๆ

จิตของแปดจอมเทพนั้นเองมันก็แตกดับลงไปพร้อมๆ กันรูปปั้นจนสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย!

เวลานี้มันได้ปรากฏแสงสีทองสว่างจ้าขึ้นมาในห้วงมิติ

ราวกับว่าห้วงมิติอีกชั้นหนึ่งกำลังจะแตกสลายลง

จนสุดท้ายมิติอันหนาแน่นในบริเวณรอบๆ มันก็แตกสลายลงสิ้น

พร้อมๆ กันปรากฏจุดแสงมากมายพวยพุ่งขึ้นมาจากซากของรูปปั้น

เจ้าจุดแสงทั้งหลายนั้นมันพุ่งขึ้นมาลอยวนไปมาหลายต่อหลายครั้งราวกกับกำลังตามหาอะไรบางอย่างอยู่

และไม่นานจากนั้นจุดแสงทั้งหลายมันก็เริ่มจะพุ่งเข้าไปสู่ร่างกายของเหล่าชาวเผ่าเทวาทั้งหลาย

เมื่อได้รับเจ้าจุดแสงนี้เข้าร่างไปดวงตาของชาวเผ่าเทวาทั้งหลายมันกลับแสดงความมึนงงขึ้นมาตามๆ กัน

มันเป็นความมึนงงอย่างสุดจิตใจ!

“นี่มัน… ช่างเป็นความรู้สึกที่ประหลาดนัก! ระดับชั้นบรรยากาศสวรรค์?” เย่หยวนนั้นเงยหน้ามองดูท้องฟ้าด้วยความรู้สึกที่ยังค้างคาในใจ

เพราะก่อนหน้านี้เขาได้ใช้พลังโจมตีหลายต่อหลายชั้นมาหุ้มค่ายกลดาบเอาไว้จนทำให้พลังของเขาพุ่งทะยานขึ้นไปถึงระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน

อาณาจักรระดับนั้นมันเป็นสิ่งที่เย่หยวนไม่เคยคิดฝันมาถึงก่อน!

เย่หยวนนั้นรู้สึกมึนหัวขึ้นมาน้อยๆ!

แต่ว่าก่อนที่เขาจะข้ามไปถึงระดับนั้นมันกลับเหมือนมีกำแพงที่มองไม่เห็นปรากฏขึ้นมาขวางตัวเขาไว้

เย่หยวนเข้าใจได้ทันทีว่านั่นมันคือช่องว่างของอาณาจักร!

เขานั้นยังไม่อาจจะหลุดพ้นจากโซ่ตรวนได้!

บางทีแล้วนี่มันอาจจะเป็นขีดจำกัดพลังของมหาพิภพถงเทียน!

“แล้วคนเราจะขึ้นไปถึงระดับชั้นบรรยากาศสวรรค์ได้อย่างไรกัน?! บางทีผู้อยู่เบื้องหลังของมันผู้นี้อาจจะรู้?”

เมื่อต้องถูกดึงกลับออกมาจากสภาพนั้นตัวเย่หยวนเองก็รู้สึกมึนงงไม่น้อย

เพราะเขานั้นคิดมาเสมอถึงเส้นทางที่จะบรรลุหลุดพ้นจากโซ่ตรวน

แต่การก้าวเดินขึ้นไปถึงระดับนั้นแม้มันจะดูแสนใกล้แต่มันกลับอยู่สุดแสนไกล เพราะว่าตัวเย่หยวนนั้นไม่รู้จะต้องเริ่มมันจากตรงไหน

มันเป็นความรู้สึกเหมือนตอนที่เขาก้าวขึ้นถึงอาณาจักรบรรพชนพระเจ้า

เพียงแค่ว่าตอนนี้มันกลับดูไร้สิ้นหนทางมากกว่าตอนนั้น!

เพราะสิ่งที่เขาต้องการจะบรรลุขึ้นไปนั้น มันไม่เคยจะมีใครในมหาพิภพถงเทียนทำได้มาก่อนในระยะเวลานับล้านๆ ปีที่ผ่านมานี้!

เรื่องเช่นนั้นมันจะต้องยากเย็นเพียงใด?

ในเวลานี้จุดแสงหนึ่งมันก็ได้แทรกตัวเข้าไปในศิลาจารึกบัลลังก์พิภพเข้าสู่ร่างของเยวี่ยเมิ่งลี่

เย่หยวนที่ได้เห็นจึงรีบปล่อยร่างของเยวี่ยเมิ่งลี่กลับออกมาทันที

“พี่หยวน ข้า… ข้าต้องขออภัยด้วยจริงๆ! ข้า… ไม่อาจจะควบคุมความคิดตนเองได้เลย!” เยวี่ยเมิ่งลี่กล่าวขึ้น

นางนั้นจดจำได้ทุกสิ่งจึงรู้ดีว่าการกระทำของตนในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้มันสร้างผลกระทบอย่างไรให้แก่เย่หยวน

ความรู้สึกผิด ความโทษตัวเองมันต่างปะทุขึ้นมาในจิตใจของนางอย่างไม่อาจห้ามไว้ได้

นางนั้นไม่ได้คิดสงสารตัวเองที่ถูกล้างสมองแต่นางนั้นสงสารเย่หยวนที่ต้องมารับมือกับนางในสภาพนั้น

มีเพียงนางคนเดียวนั้นที่จะเข้าใจว่าหลายปีมานี้เย่หยวนต้องอดทนสักแค่ไหน

เย่หยวนนั้นค่อยๆ ยกแขนขึ้นโอบกอดร่างของนางไว้ก่อนจะกล่าวขึ้น “เด็กโง่ มันมิใช่ความผิดของเจ้าเสียหน่อย จะขอโทษไปทำไมกันเล่า? คนผิดนั้นมันตายลงไปแล้ว เจ้าอย่าได้โทษว่าตัวเองให้พี่ต้องลำบากใจเลย”

ลี่เอ๋อพยักหน้ารับขึ้นมาแต่ก็ยังไม่อาจจะหยุดน้ำตาที่ไหลรินได้

“พี่หยวน เรื่องของพี่หลินเสวียนั้น…”

เย่หยวนถอนใจยาวออกมาก่อนจะส่ายหัวอย่างชัดเจน

ลี่เอ๋อได้แต่ทำสีหน้าเจ็บปวดหัวใจขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกัดริมฝีปากของตนแน่น “ทำไมกัน! ทำไมสวรรค์จึงโหดร้ายเช่นนี้! พี่หลินเสวียนั้นเป็นคนดีงามล้ำแต่ทำไมสวรรค์จึงต้องคิดทำให้นางทรมานปานนี้ด้วย?”

นางนั้นอัดอั้น นางนั้นไม่อยากยอมรับ นางนั้น… สงสารเย่หยวน!

“นายท่านพูดอะไรออกมากกัน? นี่มันมิใช่เรื่องของท่านแค่คนเดียวเสียหน่อย มันเป็นเรื่องของนักยุทธทั้งมหาพิภพถงเทียนด้วยกกันสิ้น! ว่านเจิ้นนั้นจะขอติดตามนายท่านไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่!” ว่านเจิ้นนั้นกล่าวออกมาอย่างหนักแน่น

“นายท่าน ผางเจิ้นผู้นี้เองก็เป็นถึงเต๋าบรรพกาลแล้ว! ข้านั้นจะอย่างไรก็คงพอช่วยท่านได้บ้าง! หากนายท่านจะออกไปรับมือศัตรูสุดแสนแกร่งนั้นมีหรือที่ข้าผางเจิ้นจะอยู่เฉยได้?”

ผางเจิ้นนั้นกลายเป็นเต๋าบรรพกาลสายฟ้าไปแล้วและย่อมจะไม่ยอมนอนรออยู่เฉยๆ เมื่อมีศัตรูมาเยือน

ในหมู่คนทั้งหลายที่มาวันนี้มันมีเต๋าบรรพกาลอยู่หลายคนไม่น้อย

นี่คงเรียกได้ว่าเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในมหาพิภพถงเทียนแล้วก็ว่าได้

คนทั้งหลายนั้นย่อมจะไม่ยอมและคิดติดตามเย่หยวนออกไปให้ได้

แต่เย่หยวนนั้นกลับส่ายหัวตอบกลับมาอย่างหนักแน่น “พวกเจ้านั้นไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะต้องเจอกับอะไร! การโจมตีที่รุนแรงสุดตัวของข้านั้นคงไม่อาจจะทำอันตรายใดๆ เขาผู้นั้นได้แม้แต่น้อย! หากพวกเจ้าออกไปนั้นมันคงมีแต่จะออกไปตายเปล่า!”

เมื่อได้ยินคนทั้งหลายก็ต้องสั่นสะท้านเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ

การโจมตีรุนแรงสุดตัวของเย่หยวนนั้นรุนแรงแค่ไหนไม่มีใครทราบได้

พวกเขารู้เพียงแค่ว่ามันรุนแรงพอจะเอาชนะทุกสิ่งอย่างบนมหาพิภพถงเทียนนี้ได้!

เพราะว่าพวกเขานั้นไม่อาจจะวัดถึงมันได้เลย!

ดาบของเย่หยวนนั้นมันได้ถูกยกย่องว่าเป็นสิ่งที่คมกริบที่สุดบนมหาพิภพถงเทียนไปแล้ว!

หากการโจมตีสุดตัวของเขานั้นยังไม่อาจจะทำอันตรายอีกฝ่ายได้แม้แต่น้อย เช่นนั้นอีกฝ่ายจะต้องเป็นตัวอะไรกันแน่?

“บัญญัติเทพแห่งถงเทียนและมหาค่ายกลสืบทอดนั้นข้าได้ทิ้งมันไว้ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วสิ้น แต่จะอย่างไรมันก็ต้องมีคนจัดการดูแล! หากข้าพ่ายลงแล้วจริงๆ ข้าก็หวังว่าสักวันมหาพิภพถงเทียนเราจะยังหาทางหลุดพ้นจากมือคนได้ ในวันหน้าหากมีใครที่โชคชะตานำพาให้ก้าวขึ้นมาถึงระดับของข้าได้อีกครั้งพวกเขาย่อมจะต้องหลุดพ้นจากโซ่ตรวนและทลายสวรรค์นี้ลงแน่! เรื่องราวเช่นนี้ข้าไม่อาจจะมอบมันให้คนอื่นจัดการดูแลได้ เป็นพวกเจ้าที่ดูแลมันนั่นแหละจะเหมาะสมที่สุด!” เย่หยวนกล่าวขึ้นมา

“พี่หยวน ท่านไปเถอะ ข้าจะรอท่านกลับมา!” เยวี่ยเมิ่งลี่กล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย

แต่ดวงตาของนางนั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยความหนักแน่น

เย่หยวนได้แต่ยิ้มตอบกลับไป

เขานั้นรู้จักลี่เอ๋อดี หากเขาตายลงจริงๆ แล้วตัวลี่เอ๋อเองก็คงไม่คิดจะใช้ชีวิตอีก

..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ