ตูม!
ในที่สุดนั้นรูปปั้นทั้งแปดก็ไม่อาจจะทนรับพลังดาบที่บ้าคลั่งนี้ไว้ได้ไหมจนต้องแตกสลายลงกลายเป็นเสี่ยงๆ
จิตของแปดจอมเทพนั้นเองมันก็แตกดับลงไปพร้อมๆ กันรูปปั้นจนสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย!
เวลานี้มันได้ปรากฏแสงสีทองสว่างจ้าขึ้นมาในห้วงมิติ
ราวกับว่าห้วงมิติอีกชั้นหนึ่งกำลังจะแตกสลายลง
จนสุดท้ายมิติอันหนาแน่นในบริเวณรอบๆ มันก็แตกสลายลงสิ้น
พร้อมๆ กันปรากฏจุดแสงมากมายพวยพุ่งขึ้นมาจากซากของรูปปั้น
เจ้าจุดแสงทั้งหลายนั้นมันพุ่งขึ้นมาลอยวนไปมาหลายต่อหลายครั้งราวกกับกำลังตามหาอะไรบางอย่างอยู่
และไม่นานจากนั้นจุดแสงทั้งหลายมันก็เริ่มจะพุ่งเข้าไปสู่ร่างกายของเหล่าชาวเผ่าเทวาทั้งหลาย
เมื่อได้รับเจ้าจุดแสงนี้เข้าร่างไปดวงตาของชาวเผ่าเทวาทั้งหลายมันกลับแสดงความมึนงงขึ้นมาตามๆ กัน
มันเป็นความมึนงงอย่างสุดจิตใจ!
“นี่มัน… ช่างเป็นความรู้สึกที่ประหลาดนัก! ระดับชั้นบรรยากาศสวรรค์?” เย่หยวนนั้นเงยหน้ามองดูท้องฟ้าด้วยความรู้สึกที่ยังค้างคาในใจ
เพราะก่อนหน้านี้เขาได้ใช้พลังโจมตีหลายต่อหลายชั้นมาหุ้มค่ายกลดาบเอาไว้จนทำให้พลังของเขาพุ่งทะยานขึ้นไปถึงระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน
อาณาจักรระดับนั้นมันเป็นสิ่งที่เย่หยวนไม่เคยคิดฝันมาถึงก่อน!
เย่หยวนนั้นรู้สึกมึนหัวขึ้นมาน้อยๆ!
แต่ว่าก่อนที่เขาจะข้ามไปถึงระดับนั้นมันกลับเหมือนมีกำแพงที่มองไม่เห็นปรากฏขึ้นมาขวางตัวเขาไว้
เย่หยวนเข้าใจได้ทันทีว่านั่นมันคือช่องว่างของอาณาจักร!
เขานั้นยังไม่อาจจะหลุดพ้นจากโซ่ตรวนได้!
บางทีแล้วนี่มันอาจจะเป็นขีดจำกัดพลังของมหาพิภพถงเทียน!
“แล้วคนเราจะขึ้นไปถึงระดับชั้นบรรยากาศสวรรค์ได้อย่างไรกัน?! บางทีผู้อยู่เบื้องหลังของมันผู้นี้อาจจะรู้?”
เมื่อต้องถูกดึงกลับออกมาจากสภาพนั้นตัวเย่หยวนเองก็รู้สึกมึนงงไม่น้อย
เพราะเขานั้นคิดมาเสมอถึงเส้นทางที่จะบรรลุหลุดพ้นจากโซ่ตรวน
แต่การก้าวเดินขึ้นไปถึงระดับนั้นแม้มันจะดูแสนใกล้แต่มันกลับอยู่สุดแสนไกล เพราะว่าตัวเย่หยวนนั้นไม่รู้จะต้องเริ่มมันจากตรงไหน
มันเป็นความรู้สึกเหมือนตอนที่เขาก้าวขึ้นถึงอาณาจักรบรรพชนพระเจ้า
เพียงแค่ว่าตอนนี้มันกลับดูไร้สิ้นหนทางมากกว่าตอนนั้น!
เพราะสิ่งที่เขาต้องการจะบรรลุขึ้นไปนั้น มันไม่เคยจะมีใครในมหาพิภพถงเทียนทำได้มาก่อนในระยะเวลานับล้านๆ ปีที่ผ่านมานี้!
เรื่องเช่นนั้นมันจะต้องยากเย็นเพียงใด?
ในเวลานี้จุดแสงหนึ่งมันก็ได้แทรกตัวเข้าไปในศิลาจารึกบัลลังก์พิภพเข้าสู่ร่างของเยวี่ยเมิ่งลี่
เย่หยวนที่ได้เห็นจึงรีบปล่อยร่างของเยวี่ยเมิ่งลี่กลับออกมาทันที
“พี่หยวน ข้า… ข้าต้องขออภัยด้วยจริงๆ! ข้า… ไม่อาจจะควบคุมความคิดตนเองได้เลย!” เยวี่ยเมิ่งลี่กล่าวขึ้น
นางนั้นจดจำได้ทุกสิ่งจึงรู้ดีว่าการกระทำของตนในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้มันสร้างผลกระทบอย่างไรให้แก่เย่หยวน
ความรู้สึกผิด ความโทษตัวเองมันต่างปะทุขึ้นมาในจิตใจของนางอย่างไม่อาจห้ามไว้ได้
นางนั้นไม่ได้คิดสงสารตัวเองที่ถูกล้างสมองแต่นางนั้นสงสารเย่หยวนที่ต้องมารับมือกับนางในสภาพนั้น
มีเพียงนางคนเดียวนั้นที่จะเข้าใจว่าหลายปีมานี้เย่หยวนต้องอดทนสักแค่ไหน
เย่หยวนนั้นค่อยๆ ยกแขนขึ้นโอบกอดร่างของนางไว้ก่อนจะกล่าวขึ้น “เด็กโง่ มันมิใช่ความผิดของเจ้าเสียหน่อย จะขอโทษไปทำไมกันเล่า? คนผิดนั้นมันตายลงไปแล้ว เจ้าอย่าได้โทษว่าตัวเองให้พี่ต้องลำบากใจเลย”
ลี่เอ๋อพยักหน้ารับขึ้นมาแต่ก็ยังไม่อาจจะหยุดน้ำตาที่ไหลรินได้
“พี่หยวน เรื่องของพี่หลินเสวียนั้น…”
เย่หยวนถอนใจยาวออกมาก่อนจะส่ายหัวอย่างชัดเจน
ลี่เอ๋อได้แต่ทำสีหน้าเจ็บปวดหัวใจขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกัดริมฝีปากของตนแน่น “ทำไมกัน! ทำไมสวรรค์จึงโหดร้ายเช่นนี้! พี่หลินเสวียนั้นเป็นคนดีงามล้ำแต่ทำไมสวรรค์จึงต้องคิดทำให้นางทรมานปานนี้ด้วย?”
นางนั้นอัดอั้น นางนั้นไม่อยากยอมรับ นางนั้น… สงสารเย่หยวน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...