ในสายตาของคนทั้งหลายนั้นเย่หยวนย่อมจะเป็นแค่ลูกแกะที่รอวันเชือด
แต่ใครจะไปคิดว่าที่แท้แกะน้อยตัวนี้มันกลับเป็นเสือร้าย!
ผู้บรรลุสวรรค์นั้นกลับหักขาของยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นกลางได้ มีหรือที่คนทั้งหลายจะไม่ตกตะลึง?
ถังหยูนั้นได้แต่ต้องเบิกตากว้างขึ้นมาอย่างตื่นตะลึงไม่ต่างจากคนทั้งหลาย
เพียงแค่ว่ามันเป็นแค่ความตื่นตะลึงเท่านั้น ไร้ความเกรงกลัวใด
เพราะการโจมตีก่อนหน้านี้มันใช้ความสามารถด้านการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วโจมตีจังหวะศัตรูไม่ทันตั้งตัว
ที่สำคัญถังหยูนั้นยังมีฝีมือต่างจากหลี่เจิ้งชิวสิ้นเชิง
แม้จะอยู่ในชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นกลางเหมือนๆ กันแต่เขานั้นแข็งแกร่งกว่าหลี่เจิ้งชิวไปมากมายนัก
“ตอนที่เจ้าสั่งให้ไสหัวไปนั้น มันหมายรวมถึงนายน้อยคนนี้ด้วยหรือไม่?” ถังหยูถามขึ้นมาด้วยเสียงเย็นเยือก
เย่หยวนหันไปตอบกลับ “ย่อมไม่รวมเจ้า!”
มุมปากของถังหยูนั้นเผยอขึ้นมาเป็นรอยยิ้ม “อย่างน้อยเจ้าก็ยังพอรู้ขีดจำกัดของตนเอง!”
คนทั้งหลายนั้นพยักหน้าขึ้นมาตาม คิดว่าอย่างน้อยๆ เจ้าเด็กคนนี้มันก็ยังรู้ว่านายน้อยหยูนั้นมิใช่คนที่จะยอมใครง่ายๆ
แต่เย่หยวนนั้นกลับตอบกลับไป “เจ้าอยู่ก่อน ข้ามีเรื่องจะคุยเจรจากับเจ้า”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวคนทั้งหลายย่อมจะหัวเราะลั่นขึ้นมา
“เจรจาหรือ! ฮ่าๆๆ เจ้าผู้บรรลุสวรรค์นี้มันตลกเสียจริง มันกลับคิดจะเจรจาต่อรองใดๆ อีก!”
“ชิๆ วิธีการของมันนี่ดีจริงๆ ไม่ต้องเสียอะไรแต่ก็มานั่งเจรจาต่อรองได้”
“ยังจะมาว่างท่าใหญ่โตปกปิดความฉิบหาย! คิดอยากจะวางท่าแต่ก็ไม่อยากจะลบหลู่นายน้อยหยู เรื่องดีๆ เช่นนั้นมันจะมีได้อย่างไรกัน?”
…
คนทั้งหลายนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมาตามๆ กันบอกว่าเย่หยวนนั้นรู้จักแต่รังแกคนอ่อนแอแต่เกรงกลัวคนที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง
ถังหยูนั้นเองก็หัวเราะขึ้นมาก่อนจะกล่าว “เจรจา? หึๆ มันช่างเป็นวิธีที่สดใหม่นัก! ลองบอกข้ามาหน่อยสิว่าเจ้าคิดจะเจรจาอะไรกับนายน้อยผู้นี้?”
เย่หยวนจึงยิ้มตอบกลับไป “เจ้าแน่ใจหรือว่าอยากจะพูดต่อหน้าคนทั้งหลายนี้?”
ถังหยูยิ้มตอบกลับไป “การเจรจานั้นมันย่อมต้องมีพยาน ให้คนทั้งหลายได้ยินกันไปเลย!”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ในเมื่อเจ้าขอ ข้าก็ย่อมไม่ขัด!”
พริบตาต่อมาเย่หจยวนก็ขยับตัว!
เย่หยวนนั้นมีวิชาการเคลื่อนไหวที่สุดแสนรวดเร็วพุ่งใส่ถังหยูทันที
ถังหยูนั้นเตรียมตัวรับมือมาตั้งแต่แรกจึงตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม “เจ้าโง่โอหัง! ฝ่ามือจักรพรรดิจันทร์สว่าง!”
เมื่อถังหยูลงมือนี้มันก็เหมือนดั่งมีจันทราลอยขึ้นมากลางโถงใหญ่ สาดส่องทุกมุมของห้องจนสว่างจ้า
เวลานี้ไม่ว่าเย่หยวนจะลอบเข้ามาจากมุมใดมันก็ไม่มีทางจะหลบพ้นฝ่ามือของถังหยูไปได้
รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้นบนหน้าของทุกผู้คน
ไม่ประเมินตนเองมันคงมีจุดจบเช่นนี้แล้ว?
การเคลื่อนไหวที่สุดแสนรวดเร็วนั้นมันแข็งแกร่ง แต่พลังเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน!
“หึ เจ้าโง่นี่มันช่างโอหังนัก! มันคงไม่ได้รู้เลยว่านายน้อยหยูนั้นได้รับการยอมรับให้เข้าทดสอบกับนิกายสวรรค์หยกแท้แล้ว! ไม่นานเขาคงได้กลายเป็นศิษย์นิกายนอกคนหนึ่งของนิกายสวรรค์หยกแท้! เจ้าหมอนี่มันคิดเอาไข่ไปตีหินชัดๆ!” กุ้ยเทียนหยูหัวเราะเย้ยขึ้นมา
“สองขั้ว!”
เย่หยวนใช้วิชาดาบสองขั้วออกมาอย่างเฉียบพลัน
คลื่นพลังปราณดาบที่รุนแรงนั้นมันทำให้คนทั้งหลายต้องหันมามองเป็นตาเดียว
ตูม!
ร่างของถังหยูกระเด็นไปติดฝาผนังห้องอย่างไม่อาจจะขัดขืนใดๆ ได้แม้แต่น้อย
คนทั้งหลายต่างอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน
แข็งแกร่งปานนี้ได้อย่างไร?
ผู้บรรลุสวรรค์ที่เพิ่งอยู่ในชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นต้นนั้นกลับเอาชนะนายน้อยหยูได้อย่างขาดลอย?
“เด็กน้อย วันนี้เจ้าได้ตายแน่! ต่อให้จะเป็นจอมเทพที่ไหนมาก็ไม่มีทางช่วยเจ้าได้!” เมื่อกุ้ยเทียนหยูได้เห็นภาพนั้นเขาก็ยิ้มกว้างขึ้นด้วยความสะใจ
ตูม!
ถังหยูนั้นกระแทกตัวขึ้นมาจากซากปรักหักพังก่อนจะมองดูเย่หยวนด้วยความอับอาย
“เด็กน้อย เจ้ามันเก่ง! เจ้าเป็นคนแรกที่กล้าลงมือต่อนายน้อยคนนี้ในเมืองจักรพรรดินี้! หากวันนี้ข้าไม่ป่นร่างเจ้าให้เป็นผุยผงแล้วนายน้อยผู้นี้จะไม่ขอใช้นามถังอีกต่อไป! โจมตีมัน!” ถังหยูสั่งการออกมาด้วยเสียงลั่นฟ้า
เหล่าลูกน้องทั้งหลายของถังหยูนั้นไม่มีใครอ่อนแอ พวกเขาต่างเป็นถึงยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นกลางสิ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...