“อาจารย์!”
ได้เห็นผู้มาถึงนั้นเซี่ยหัวก็ร้องเรียกขึ้นทันที
เวลานี้มันคงมีแต่หลินหลานเท่านั้นที่จะกดดันหลู่หยุนไว้ได้
แต่ว่าสีหน้าของหลู่หยุนและพวกนั้นมันกลับเปลี่ยนสีไปทันที
เพราะแม้แต่ตัวหลู่หยุนเองก็ไม่นึกฝันว่าคนระดับหลินหลานกลับจะลดตัวลงมาเพื่อจัดการกับตระกูลถังน้อยๆ นี้!
ดูท่าแล้วความต้องการที่จะทำลายเย่หยวนของเขานั้นมันคงหนักหนาอย่างมาก
หลู่หยุนขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “ราชครูกลับลงมาเพื่อจัดการเรื่องราวของตระกูลถังด้วยตัวเอง มันทำเอาหลู่คนนี้ตะลึงเสียจริง!”
หลินหลานยิ้มตอบกลับไป “น้องหลู่เองก็ออกมาเพื่อช่วยเหลือตระกูลถังมิใช่หรือ? ตระกูลถังนั้นมันได้สร้างความวุ่นวายในวงการโอสถจนทำให้บรรยากาศภายในเมืองจักรพรรดินี้มันขุ่นหมองไปทั่ว การที่ราชครูผู้นี้จะออกมาจัดการมันเองก็คงมิใช่เรื่องใหญ่โตใดๆ มิใช่หรือ? หรือว่าเจ้าคิดว่าผู้บรรลุสวรรค์ที่มีความเข้ากันได้แค่หนึ่งนั้นจะหลอมโอสถได้จริง?”
มุมปากของหลู่หยุนต้องกระตุกขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเพราะว่าตัวเขาเองก็ไม่เคยจะเห็นเย่หยวนหลอมโอสถต่อหน้ามาก่อน
คนที่เคยเห็นนั้นมันมีเพียงแค่ตัวเจียงยู่เท่านั้น
บางครั้งความขุ่นเคืองของผู้คนมันก็เผาไหม้ได้แม้แต่เหล็กกล้า
เมื่อทั้งวงการโอสถปฏิเสธคนผู้หนึ่งไปแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะพูดกล่าวเช่นใดมันก็ไร้ประโยชน์
หลู่หยุนและองค์ชายรองนั้นไม่มีความมั่นใจมากมายว่าเย่หยวนจะสามารถหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นได้จริงๆ
เพราะจะอย่างไรเสียเรื่องนั้นมันก็คือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้มาแต่แรก
“เรื่องนั้น… จะได้หรือไม่ รอดูความจริงก่อนค่อยตัดสินมันก็ยังไม่สายมิใช่หรือ!” หลู่หยุนเถียงกลับไป
หลินหลานที่ได้ยินก็ยิ้มรับ “ใช่ มันต้องดูกันให้เห็นกับตาจริงๆ เพียงแค่ว่า… ราชครูผู้นี้รู้สึกว่าเจ้าเด็กคนนั้นคงหนีไปไกลแล้ว! เวลานี้มันจะยังอยู่ในห้องพักหรือไม่ก็คงไม่มีใครบอกได้ ไม่เช่นนั้นแล้วทำไมมันจึงต้องเลือกเข้าเก็บตัวยาวในเวลานี้ด้วย?”
หลู่หยุนผงะไปด้วยใบหน้าเหยเก
แน่นอนว่าหากเย่หยวนไม่อาจจะหลอมโอสถสวรรค์ได้จริงๆ เขาก็อาจจะหนีหายไปแล้วจริงๆ
ใครจะยังมาเก็บตัวทั้งๆ ที่เกิดเรื่องเช่นนี้ที่ด้านนอกได้?
“ท่านพี่ยังอยู่ข้างใน!” ถังหยูนั้นร้องขึ้นมาด้วยปากที่มีแต่เลือดอาบ
หลังจากถูกกระทืบอยู่นานเวลานี้สภาพของถังหยูนั้นมันอาบไปด้วยเลือดพร้อมด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยว เป็นสภาพที่สุดแสนน่าเวทนา
เมื่อหลินหลานได้ยินเช่นนั้นเขาก็ยิ้มตอบกลับไป “เด็กน้อย หากมันคิดหนีไปจริงคนอย่างเจ้าจะรับรู้ถึงได้หรือ?”
ถังหยูนั้นสำลักออกมาเมื่อได้ยินแต่ก็ยังเถียงกลับไป “ท่านพี่ไม่มีทางจะหนีไปไหนแน่!”
หลินหลานนั้นยิ้มตอบกลับไป “มันจะหนีหรือไม่ทำลายประตูนี้ลงแล้วเราก็คงได้รู้กัน หากมันไม่อยู่ตระกูลถังเจ้าก็คงไม่มีอะไรจะอ้างอีกแล้วใช่หรือไม่?”
ถังหยูร้องกลับไป “หากเขาไม่อยู่จริงๆ ท่านจะเอาตระกูลถังไปต้มยำทำแกงที่ไหนก็เชิญตามสะดวก!”
เมื่อก่อนนั้นเขาไม่อาจจะเข้าใจเย่หยวนได้
แต่ยิ่งเวลาผ่านไปเขานั้นก็เริ่มจะเข้าใจเย่หยวนได้มากขึ้นเรื่อยๆ จนได้รู้ว่าเย่หยวนนั้นเป็นคนที่ให้ค่าสายสัมพันธ์อย่างมากล้นเกินกว่าที่คนทั้งหลายจะเข้าใจ
จะบอกว่าเย่หยวนหนีไปแล้ว? ให้ตายเขาก็ไม่เชื่อ!
หลินหลานนั้นยิ้มและเดินมาหยุดลงตรงหน้าประตู
คลื่นพลังของยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ปะทุขึ้นมาก่อนที่หลินหลานจะง้างมือขึ้นเตรียมกระแทก
แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเองที่ประตูมันกลับเปิดออกมาเผยให้เห็นใบหน้าของเย่หยวนแก่สายตาทุกผู้คน
“เอ๋? คนมากมายแท้? คึกคักกันดีจริงๆ! พี่ชายท่านนี้ เย่ผู้นี้ไม่ได้มีความแค้นใดกับท่าน ทำไมต้องคิดมาทำลายประตูห้องข้าด้วย?” เย่หยวนถามขึ้นมาด้วยใบหน้ามึนงง
หลินหลานนั้นผงะไปทันที ไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะออกจากการเก็บตัวมาในเวลานี้
ไหนจะยังเรื่องที่เขาไม่ได้คิดว่าเย่หยวนจะยังเก็บตัวอยู่ในห้องแต่แรกอีก
ในความคิดของเขานั้นที่เย่หยวนลากเรื่องยาวออกมานั้นมันก็เพราะว่าเขารู้สึกผิดไม่กล้าจะแสดงตัวต่อหน้าผู้คน
มีหรือที่คนเช่นนี้จะมาหลอมโอสถสวรรค์ใดได้?
แต่หลู่หยุนนั้นกลับกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด “เย่หยวน เจ้าอย่าได้เสียมารยาท! นี่คือราชครูแห่งอาณาจักรตะวันออก หลินหลาน เป็นยอดนักหลอมโอสถสวรรค์อันดับหนึ่งในอาณาจักรเรา!”
เย่หยวนนั้นเพิ่งออกมาจากการเก็บตัวและย่อมจะยังไม่เข้าใจเรื่องราวมากมาย
แต่เขานั้นได้เห็นสภาพของสองพ่อลูกถังที่เลือดอาบทั้งกาย มีหรือที่เขาจะยังไม่เข้าใจว่าคนทั้งหลายไม่ได้มาดี?
เวลานี้มันจึงเกิดประกายไฟลุกขึ้นมาในจิตใจของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...